ผี ตามความเข้าใจของฉัน


วันนี้ว่ากันด้วยเรื่อง “ผี”  หรือ “วิญาณ”  สิ่งเหล่านี้ที่นอกเหนือจากความรู้และประสบการณ์อันน้อยนิดของเรา  ยายเชื่อว่ามีอยู่จริง  เลยชอบฟังเรื่องพวกนี้  แล้วก็ฟังมานานแล้วด้วย  จนเมื่อวานก่อนได้ดูรายการพี่ป๋อมแป๋ม (ทอลค์กะเทย ทูไนท์) สัมภาษณ์ พี่โจ๊ก โซคูล  มีประโยคที่น่าสนใจจากทั้งสองคนนี้  จนมันทำให้ยายกลับมาคิดทบทวนเรื่องเหล่านี้  ก่อนอื่นบอกก่อนเลยยายกลัวผีมากแต่เด็กนะ  มีจุดเปลี่ยนสำคัญอันนึงที่ทำให้ความกลัวลดลง  จากท่าน ว.วชิรเมธี  ท่านเล่าประสบการณ์เรื่องการไปจำพรรษาที่สวนโมกข์ สุราษฎธานี  ช่วงกลางดึกในกุฏิท่ามกลางต้นไม่ใหญ่ที่วูบไหวเกิดเงาและเสียงต่างๆ มากมาย ท่านก็รู้สึกกลัวมากจนกระทั่งได้คิดว่า “นี้เรากลัวอะไร  กลัวผี หรือ กลัวโดนทำร้าย” พอคิดได้ดังนั้นก็ลุกหยิบไฟฉายเดินออกไปด้านนอกแล้วก็ไม่มีอะไร ความกลัวของท่านก็หายไป  ประโยคนั้น คือ จุดเปลี่ยนแรกของยาย  มันทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น ว่าเรากลัวสิ่งที่เราไม่รู้ไม่เห็น กลัวจะเกิดเรื่องที่ไม่ดีกับเรา  ไม่ได้จำกัดแค่ “ผี”  เราก็กลัวทุกเรื่องที่มีลักษณะอย่างนี้  เพียงแค่ “ผี” เป็นสิ่งลึกลับที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์  และถูกถ่ายทอดมาแต่รูปแบบที่น่ากลัวเท่านั้น   คิดได้ดังนี้ก็บรรเทาความกลัวลงไปมากที่เดียว  
จุดเปลี่ยนต่อมา  คือ  บทสนทนาของพี่ป๋อมแป๋ม กับพี่โจ๊ก  เรื่องมีอยู่ว่า พี่โจ๊กเค้าเขียนนิยายเกี่ยวกับเรื่องผีอยู่ แกก็เล่าถึงประสบการณ์ส่วนตัวของแกที่เจอสิ่งลี้ลับสมัยมัธยม  แล้วพี่ป๋อมแป๋มก็ถามขึ้นมาว่า “ทำไมต้องมาหลอกกันด้วย  ทำไมผีต้องมีนิยามแต่คำว่า “น่ากลัว”ด้วย  มาพูดกันดีๆ ไม่ได้หรอ? “ พี่โจ๊ก ตอบว่า “เค้าไม่น่าจะตั้งใจให้เป็นยังงั้น  น่าจะเกิดจากเรื่องของ ข้อจำกัด หรือ ข้อแม้ บางอย่างที่เราไม่รู้  มากกว่า  เค้าคงแค่ต้องการที่จะสื่อสาร หรือแสดงตัวว่าเค้าอยู่ตรงนั้น  แต่ไม่มีวิธีการที่จะให้เลือกมากนัก”  การสนทนานี้บวกกับการฟังจากผู้มีประสบการณ์และอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้  ทำให้เกิดความเข้าใจผู้อื่น (หรือมองอีกด้าน) มากขึ้น   ไม่ได้บอกนะว่าเลิกกลัว  แต่มีสติหยุดคิดพิจารณาสิ่งที่เจอตรงหน้ามาขึ้นต่างหาก  และร้อยละ 99 เป็นสิ่งที่ยายคิดและจิตนาการไปเอง  นี้ยายโดน “ตัวเอง” หลอกมาตั้งนาน 55
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่