สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรา เราลำบากใจ เครียด และพยายามหาทางออก
เรื่อง มีอยู่ว่าา
เมื่อประมาณปลายปี 58 เราได้ซื้อรถยนต์ เป็นรถกระบะสองประตู รถยนต์นั้นถูกซื้อเป็นชื่อของเราเอง เราบอกแม่ว่า "แม่อย่าทำให้ชื่อของหนูต้องติดแบรคลิส
บูโร นะ เพราะชีวิตหนูยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย " แม่เราบอกว่า "โอเค" (ลืมบอกไปว่าตอนซื้อรถเราอายุ 20 ปี ) แม่เราเป็นคนใช้ และชำระค่างวดเองทั้งหมด โดยที่เราเองก็ไม่ได้ใช้รถด้วย แม่ก็ผ่อนทุกงวดไม่เคยค้าง จนกระทั้ง เดือนกรกฎาคมปี 59 แม่เราเอารถไปจำนำกับที่แห่งหนึ่งย่าน ลำลูกกาคลองสอง(เราขอเรียกแทนว่าเต้นท์รับจำนำนะ) ซึ่งแม่ก็โทรเรียกให้เราไปด้วย เพราะรถเป็นชื่อของเรา (เราต้องบอกก็ว่าตอนนั้นเราไม่รู้เลยว่าการเอารถไปจำนำมันเป็นเรื่องผิด เพราะเราคิดว่าเหมือนกับการจำนำทอง หรือการเอาคอมไปจำที่โรงรับจำนำ ส่วนตัวเราเองไม่เคยจำนำอะไรเลย ) เราก็ไปกับแม่ ไปเซ็นต์เอกสาร เราถามแม่ว่า "แม่จะเอารถออกมาวันไหน" แม่ตอบว่า " อีกสามวันก็ไปเอาออกมาแล้ว " เราก็ โอเคคค พอได้ตังมา ก็ต้องเอารถจอดไว้ที่นั้นด้วย เราก็นั่งแท็กซี่แยกย้ายกับแม่ (เรากับแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน) ผ่านมาได้ไม่นานทางเต้นท์รับจำนำก็โทรมาหาเราว่า บอกให้แม่ติดต่อหาเต้นท์ด้วย เราก็บอกแม่ไปตามนั้น แล้วก็มารู้ว่าแม่ยังไม่ได้ไปเอารถออกมา และค้างค่าชำระกับทางเต้นท์ ตอนนั้นเราก็เริ่มเครียดแต่ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะคิดว่าแม่ทำ แม่คือคนรับผิดชอบ ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับเราเลย พอประมาณเดือน กุมภาพันธ์ 60 ธนาคารก็โทรมาหาเราบอกว่าครบกำหนดชำระของเดือนนี้แล้วนะ เราก็ค่ะ แล้วเราก็บอกกับธนาคารทุกครั้งที่เขาโทรมาแจ้งการชำระค่างวดรถ ว่าให้ติดต่อกับแม่ เพราะแม่เป็นคนชำระค่างวด ธนาคารก็ให้ทำหนังสือมอบอำนาจ เราก็ไปทำให้ แต่ธนาคารก็โทรมาแจ้งกับเราทุกงวดอยู่ดี เห้อออออออ ทีนี้ธนาคารก็โทรมาแจ้งว่ามีการค้างค่างวด เราก็บอกแม่ทุกอย่าง ทุกครั้งที่ธนาคารโทรมา แม่ก็บอกเราว่าไม่มีเงิน ชำระค่างวดแล้ว !!!!!!!!!!!! ตอนนั้นเราเครียดมากก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง จนกระทั่ง มีตัวแทนจากธนาคารโทรมา บอกว่าเรื่องรถ จะเตรียมฟ้องแล้ว อยากให้เราเข้าไปคุยเผื่อจะได้ไม่มีการฟ้อง หรือไปหาทางออก เราก็บอกกับตัวแทรธนาคารว่า หนูไม่ได้ใช้รถ แม่เป็นคนใช้ เขาก็บอกว่าให้ติดต่อกับแม่ จะได้คุยกับแม่ ซึ่ง เราก็บอกแม่ แต่แม่กับบอกเราว่า " ให้หนูตัดสินใจ เพราะรถมันเป็นชื่อหนู แม่ตัดสินใจอะไรไม่ได้ ให้หนูคุย " แม่ไม่ยอมคุยบอกว่า แม่ไม่ว่าง........ พอหลังจากนั้นเราก็ เข้าไปคุยกับตัวแทนธานาคารแล้วก็เล่าเรื่องให้เขาฟัง เขามีทางเลือก คือ 1. ให้เราไปหารถให้เจอแล้วเอารถไปคืนธนาคาร ส่วนต่าง ที่ธนาคารขายทอดตลาดจะขาดทุนหรือได้กำไร ก็อีกเรื่องนึง 2 . ให้เราเอาเงินสด ประมาณ 80000 ไปชำระให้ธนาคาร เพื่อให้หลุดจากการติดตาม และหาทางออก 3. ถ้าไม่มีรถ เราก็จะถูกฟ้อง ยึดทรัพย์ และดำเนินขั้นต่อๆไป ........................ เราเครียดมากกกกกกกกกกกกกกก เราติดต่อแม่ก็ไม่ได้ แม่หาย ไม่มาช่วยเราปรึกษาว่าจะทำยังไงต่อไปดี ตอนนี้เราก็กำลังตามหารถ ที่ที่เราเอารถไปไว้กับแม่ ซึ่งเราก็จำทางไม่ค่อยได้ ถ้าใครพอจะมีทางออก หรือมีประสบการณ์แบบนี้ พอจะแนะนำให้เราได้บ้างไหมคะ เรามืดมากก บทเรียนแสนแพง ขนาดแม่ ยังทำกับเราได้เลย เราเสียใจที่สุด ปล.เราไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ปู่กับย่าเลี้ยงเรามาตั้งแต่เล็กๆ และพ่อแม่ก็แยกทางกัน
ช่วยด้วยค่ะ กำลังจะโดนฟ้องเรื่องรถยนต์ !!
เรื่อง มีอยู่ว่าา
เมื่อประมาณปลายปี 58 เราได้ซื้อรถยนต์ เป็นรถกระบะสองประตู รถยนต์นั้นถูกซื้อเป็นชื่อของเราเอง เราบอกแม่ว่า "แม่อย่าทำให้ชื่อของหนูต้องติดแบรคลิส
บูโร นะ เพราะชีวิตหนูยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย " แม่เราบอกว่า "โอเค" (ลืมบอกไปว่าตอนซื้อรถเราอายุ 20 ปี ) แม่เราเป็นคนใช้ และชำระค่างวดเองทั้งหมด โดยที่เราเองก็ไม่ได้ใช้รถด้วย แม่ก็ผ่อนทุกงวดไม่เคยค้าง จนกระทั้ง เดือนกรกฎาคมปี 59 แม่เราเอารถไปจำนำกับที่แห่งหนึ่งย่าน ลำลูกกาคลองสอง(เราขอเรียกแทนว่าเต้นท์รับจำนำนะ) ซึ่งแม่ก็โทรเรียกให้เราไปด้วย เพราะรถเป็นชื่อของเรา (เราต้องบอกก็ว่าตอนนั้นเราไม่รู้เลยว่าการเอารถไปจำนำมันเป็นเรื่องผิด เพราะเราคิดว่าเหมือนกับการจำนำทอง หรือการเอาคอมไปจำที่โรงรับจำนำ ส่วนตัวเราเองไม่เคยจำนำอะไรเลย ) เราก็ไปกับแม่ ไปเซ็นต์เอกสาร เราถามแม่ว่า "แม่จะเอารถออกมาวันไหน" แม่ตอบว่า " อีกสามวันก็ไปเอาออกมาแล้ว " เราก็ โอเคคค พอได้ตังมา ก็ต้องเอารถจอดไว้ที่นั้นด้วย เราก็นั่งแท็กซี่แยกย้ายกับแม่ (เรากับแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน) ผ่านมาได้ไม่นานทางเต้นท์รับจำนำก็โทรมาหาเราว่า บอกให้แม่ติดต่อหาเต้นท์ด้วย เราก็บอกแม่ไปตามนั้น แล้วก็มารู้ว่าแม่ยังไม่ได้ไปเอารถออกมา และค้างค่าชำระกับทางเต้นท์ ตอนนั้นเราก็เริ่มเครียดแต่ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะคิดว่าแม่ทำ แม่คือคนรับผิดชอบ ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับเราเลย พอประมาณเดือน กุมภาพันธ์ 60 ธนาคารก็โทรมาหาเราบอกว่าครบกำหนดชำระของเดือนนี้แล้วนะ เราก็ค่ะ แล้วเราก็บอกกับธนาคารทุกครั้งที่เขาโทรมาแจ้งการชำระค่างวดรถ ว่าให้ติดต่อกับแม่ เพราะแม่เป็นคนชำระค่างวด ธนาคารก็ให้ทำหนังสือมอบอำนาจ เราก็ไปทำให้ แต่ธนาคารก็โทรมาแจ้งกับเราทุกงวดอยู่ดี เห้อออออออ ทีนี้ธนาคารก็โทรมาแจ้งว่ามีการค้างค่างวด เราก็บอกแม่ทุกอย่าง ทุกครั้งที่ธนาคารโทรมา แม่ก็บอกเราว่าไม่มีเงิน ชำระค่างวดแล้ว !!!!!!!!!!!! ตอนนั้นเราเครียดมากก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง จนกระทั่ง มีตัวแทนจากธนาคารโทรมา บอกว่าเรื่องรถ จะเตรียมฟ้องแล้ว อยากให้เราเข้าไปคุยเผื่อจะได้ไม่มีการฟ้อง หรือไปหาทางออก เราก็บอกกับตัวแทรธนาคารว่า หนูไม่ได้ใช้รถ แม่เป็นคนใช้ เขาก็บอกว่าให้ติดต่อกับแม่ จะได้คุยกับแม่ ซึ่ง เราก็บอกแม่ แต่แม่กับบอกเราว่า " ให้หนูตัดสินใจ เพราะรถมันเป็นชื่อหนู แม่ตัดสินใจอะไรไม่ได้ ให้หนูคุย " แม่ไม่ยอมคุยบอกว่า แม่ไม่ว่าง........ พอหลังจากนั้นเราก็ เข้าไปคุยกับตัวแทนธานาคารแล้วก็เล่าเรื่องให้เขาฟัง เขามีทางเลือก คือ 1. ให้เราไปหารถให้เจอแล้วเอารถไปคืนธนาคาร ส่วนต่าง ที่ธนาคารขายทอดตลาดจะขาดทุนหรือได้กำไร ก็อีกเรื่องนึง 2 . ให้เราเอาเงินสด ประมาณ 80000 ไปชำระให้ธนาคาร เพื่อให้หลุดจากการติดตาม และหาทางออก 3. ถ้าไม่มีรถ เราก็จะถูกฟ้อง ยึดทรัพย์ และดำเนินขั้นต่อๆไป ........................ เราเครียดมากกกกกกกกกกกกกกก เราติดต่อแม่ก็ไม่ได้ แม่หาย ไม่มาช่วยเราปรึกษาว่าจะทำยังไงต่อไปดี ตอนนี้เราก็กำลังตามหารถ ที่ที่เราเอารถไปไว้กับแม่ ซึ่งเราก็จำทางไม่ค่อยได้ ถ้าใครพอจะมีทางออก หรือมีประสบการณ์แบบนี้ พอจะแนะนำให้เราได้บ้างไหมคะ เรามืดมากก บทเรียนแสนแพง ขนาดแม่ ยังทำกับเราได้เลย เราเสียใจที่สุด ปล.เราไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ปู่กับย่าเลี้ยงเรามาตั้งแต่เล็กๆ และพ่อแม่ก็แยกทางกัน