Shangrila - Yading 2017 Part I

กระทู้สนทนา

บันทึกนักเดินทาง ประเทศจีน เที่ยวต่างประเทศ

สวัสดีค่ะ หลังจากกลับมาจากไปเที่ยวทริป แชงกรีล่า-ย่าติง มาเมื่อต้นเดือน วันนี้เราเลยอยากมาแชร์ประสบกาณ์ผ่านการเล่าเรื่องราวคร่าวๆในการเดินทางค่ะ

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกกระทู้ในพันทิปมากๆเลยนะคะ ไม่ว่าคนที่จะตั้งกระทู้อย่างจริงจัง หรือคนที่มาคอมเม้นต์เล็กน้อยๆ
ทุกอย่างคือ material ที่เราใช้เป็นคู่มือในการเดินทางครั้งนี้ค่ะ ซึ่งเรื่องเล่าการเดินทาง เราจะมีการแนบแหล่งข้อมูลที่เรานำมาอ้างอิงต่างๆที่เรานำมาใช้ค่ะ
รูปเราอาจจะไม่เยอะ แต่เราหวังว่ามันจะเป็นอีกหนึ่งแหล่งข้อมูลสำหรับคนที่แพลนจะเดินทางไปรูทเดียวหรือใกล้เคียงกับเราค่ะ

สำหรับเรื่องการเตรียมตัวไปจีน คิดว่าทุกคนคงจะมีการหาข้อมูลกันไปแล้ว เราจะขอกล่าวถึงหัวข้อในการเตรียมตัวคร่าวๆ แต่จะลงรายละเอียดในส่วนข้อมูลที่เราคิดว่าจำเป็นแต่หาไม่ค่อยเจอใน pantip นะคะ

1. วีซ่า ไปประเทศจีนต้องขอวีซ่านะคะ ควรเตรียมเอกสารไปให้พร้อม รายละเอียดมีมากมายใน pantip ค่ะ

2. อาหารการกิน เนื่องจากเราไปเดิน trekking ซึ่งบนนั้นจะไม่มีอาหารขาย เราควรมีการเตรียมพร้อมไปนะคะ แต่จะไปซื้อเอาที่ในเมืองก่อนขึ้นไปก็ได้ รวมทั้งบางคนรวมถึงเราที่ไม่ชินกับอาหารจีนสักเท่าไหร่ อาจจะเตรียมกล่องท็อปเปอร์แวร์ทนความร้อน ปลากระป๋อง หอยกระป๋อง โจ๊กซองและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต่างๆ ไปก็ได้ค่ะ

3. การติดต่อสื่อสาร เราซื้อซิม Roaming Travel Asia ของ True ค่ะ ซึ่งเราว่าดีมากเลย แม้มือถือเราจะไม่ค่อยมีสัญญาณ แต่เพื่อนเราสามารถใช้ 4G ได้ ในขณะที่นั่งบัสจากแชงกรีล่าไปเต้าเฉิงได้ (เราสังเกตว่าที่จีน ถ้าที่ไหนเป็นชุมชน ที่นั่นจะมีสัญญาณเน็ทค่ะ แม้ว่าจะอยู่ในเขาก็ตาม) และรวมถึงการเดิน trekking ในย่าติง เพื่อนเราก็สามารถเล่นเน็ทได้ค่ะ แต่อาจจะมีบางทีที่สัญญาณหายๆ

เพื่อนเราใช้ iphone5 สามารถใช้ 4G และเล่น line call ได้ ในขณะที่เราใช้ SAMSUMG S6edge และ iphone5 (เอาไปใช้ทั้ง 2 เครื่องเลยค่ะ) แต่คิดว่าเสาสัญญาณน่าจะมีปัญหา เพราะว่าขึ้น edge ตลอดเวลา เพิ่งจะมีบุญเล่น 4G ได้ที่ลี่เจียง ซึ่งเป็นวันท้ายๆของทริปแล้วค่ะ

ข้อดีของการเปิดโรมมิ่งจากไทย คือเราสามารถใช้ App facebook, Line, Instragram, Google Map, Google, Youtube, etc. คืออะไรที่ทางรัฐบาลจีนบล็อค เราอันล็อคได้หมดเลยค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม เราแนะนำให้ทุกคนโหลด App WeChat ไปนะคะ มันกลายเป็น A Must สำหรับเรา และเราก็อยากจะแนะนำทุกคนที่เดินทางไปจีนให้ใช้แอพนี้เลยค่ะ (แต่เดี๋ยวเรามาเล่ารายละเอียดอีกทีนึง)

4. การสื่อสาร แนะนำคู่มือ survivor plus จีน ค่ะ หน้าตาหนังสือเป็นแบบนี้นะคะ สามารถหาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไปค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ น้ำตาจะไหลด้วยความซาบซึ้ง หนังสือเล่มนี้จัดหมวดหมู่คำที่ต้องใช้ได้ดีมากค่ะ สำหรับนักเดินทางอย่างเรา แต่อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยเราควรท่องศัพท์พวกตัวเลขไปด้วยค่ะ พยายามฝึกให้คล่อง เพราะว่าใช้บ่อย นอกจากนี้ พอได้หนังสือมาแล้ว ก็ต้องหมั่นเปิดอ่านด้วยนะคะ จะได้ใช้คล่องๆ

5. เครื่องแต่งกาย ดูอากาศ และพยากรณ์ดีๆนะคะ ตอนเราไป คิดว่าแค่หนาวมาก ไม่เคยคิดถึงหิมะตกมาก่อน

6. ร่างกาย อันนี้สำคัญมาก ควรมีความเตรียมพร้อมร่างกายก่อนการเดิน trek นอกจากนี้ควรระวังเรื่อง AMS ด้วยนะคะ

Note:
1. ทุกครั้งที่ซื้อตั๋วรถไฟและรถบัสข้ามเมือง เราต้องใช้พาสปอร์ตนะคะ ให้เตรียมไว้ทุกครั้งที่รู้ว่าจะต้องซื้อตั๋วพวกนี้เลย
2. สามารถแสดงตัวว่าเราเป็นต่างด้าวได้ เพราะบางครั้ง เราจะได้รับการปฏิบัติที่ดีขึ้น เช่น ตอนเราไปซื้อทัวร์ไปภูเขาหิมะมังกรหยก แล้วกลุ่มเราเป็นต่างชาติกลุ่มเดียว ที่เหลือเป็นคนจีนหมดเลย เค้าก็จะต้องสอดส่อง ให้เรามารวมตัวกับเขา เวลาที่ต้องเปลี่ยนรถ หรือเค้าจะส่งมอบหมายให้ลูกทัวร์กลุ่มนึงมาคอยดูแลเรา เพราะกลัวเราหลง
3. open mind เปิดใจให้กว้าง วัฒนธรรมบางอย่างเค้าต่างจากเรา ก่อนมาเราก็ต้องมีการศึกษามาบ้างแล้วแหละเนอะ ว่าเค้าเป็นยังไง ก็ต้องทำใจยอมรับค่ะ แต่เอาจริงๆ เราว่าคนจีนก็นิสัยคล้ายๆคนไทยนะคะ มีน้ำใจ และก็คอยให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนอ่ะนะ 5555
4. Capture รูปของสถานที่ๆจะไปไว้ในโทรศัพท์มือถือ เวลาจะถามทางก็เปิดรูปเลยค่ะ ถึงจะสื่อสารด้วยวาจาไม่รู้เรื่อง แต่ภาษากายก็น่าจะไหวอยู่
5. Background ของเราพวกเราสามคนคือ ภาษาอังกฤษอยู่ในระดับที่พอสื่อสารได้ (เอาตัวรอดได้) ส่วนภาษาจีนนี่คือพูดไม่ได้ แต่ก็สามารถเที่ยวที่ประเทศจีนรอดได้นะคะ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------
คร่าวๆ ก็จะประมาณนี้ เราขอเริ่มเล่าเรื่องการเดินทางของเราเลยแล้วกันค่ะ

แพลนเราคร่าวๆ จะเป็นแบบนี้นะคะ

วันแรก คุนหมิง - แชงกรีล่า (จงเตี้ยน)

ขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง ก็ได้เจอกับพี่ที่เราเจอกันจากเพจในเฟสบุ๊ค [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ที่กลายมาเป็นสมาชิกในทริปของเรา พอถึงคุนหมิงหลังจากรับกระเป่าเรียบร้อย เราก็เดินออกไปซื้อตั๋วรถ Airport bus เพื่อไปซื้อตั๋วรถไฟจากลี่เจียงกลับมาที่คุนหมิง และก็ไปที่สถานีรถบัสต่อ เพื่อซื้อตั๋วรถนอนไปแชงกรีล่าค่ะ

[ขออนุญาติแนบวิธีการเดินทางตามนี้เลยค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เราอ้างอิงจากกระทู้ตั้งแต่ซื้อตั๋วรถไฟ จนถึงตั๋วรถบัส แต่อาจจะมีบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงจากลิ้งข้างต้นค่ะ]

พอ Airport bus สาย 2 มาสุดสายที่สถานีรถบัสสายตะวันตก เราก็เดินลงแล้วมุ่งหน้าตรงไปทางสถานีรถไฟค่ะ พอผ่านเครื่องสแกนเราก็เดินตรงไป เจอรูปปั้นวัวกระทิงตั้งอยู่ตรงกลาง (ตอนเราไป เหมือนเค้ากำลังทาสีกระทิงอยู่นะคะ เลยไม่รู้ว่าตอนที่ทุกคนไปถึงแล้ว รูปปั้นจะเปลี่ยนเป็นสีอะไร)
พอเจอรูปปั้นกระทิง เราก็เดินตรงหลังพี่กระทิงทางขวามือ ไปตรงบริเวณที่ขายตั๋วที่ซึ่งจะมีป้ายสีน้ำเงิน เขียนว่า Ticket Area No.1 (ตอนแรกข้อมูลที่เรามาได้เป็นแหล่งอ้างอิง เค้าซื้อกันที่ Ticket Area No.2 ค่ะ แต่ตอนเราไปถึงปรากฎว่าบริเวณนั้นกลายเป็นตู้ขายตั๋วอัตโนมัติซี่งมีแต่ภาษาจีนค่ะ)

พอไปถึงเราก็มองหา brand ambassador ของสถานี โดยจุดสังเกตคือคนที่ใส่สายสะพายค่ะ พอเจอแล้วเราก็เข้าไปชาร์จตัว และแสดงความเป็นต่างชาติให้เห็น เค้าจะแนะนำว่าเราควรไปซื้อตั๋วที่ช่องขายตั๋วเบอร์อะไรค่ะ เพราะทุกอย่างเป็นภาษาจีนหมดเลย ไม่มีภาษาอังกฤษ พอเราไปถึงช่องขายตั๋วตามที่ได้รับการแนะนำ เพื่อนเราก็พยายามสแกนป้ายที่ติดอยู่ตรงช่องที่เราเข้าไป ว่าเป็นแถวของอะไร ปรากฎว่าเป็นช่องจำหน่ายตั๋วสำหรับสตรีมีครรภ์ ทหารผ่านศึก อะไรสักอย่าง ประมาณว่าเป็นช่องทางพิเศษ ไม่รู้ว่ากูเกิ้ลแปลถูกไหม แต่สุดท้าย เราก็ได้ตั๋วมาจากช่องนี้ค่ะ โดยเมื่อถึงคิวที่เราได้ซื้อตั๋ว เราก็เอาข้อความที่เราให้พี่เราเขียนภาษาจีนไว้ ยื่นให้เขาค่ะ

“ซื้อตั๋วรถไฟกลับจาก Lijiang มา Kuming จำนวน 3 คน ขบวนเลขที่ K9684 ออกเดินทางจาก Lijiang เวลา 21:50 ประเภท Soft Sleeper ขอห้องเดียวกันทั้งหมดเลย

我们3个人想买从Lijiang到Kunming的往返火车票。车号是 K9684，21:50从Lijiang出发。我们三个人想同房，还都想要Soft Sleeper的。”

แต่ระหว่างซื้อตั๋ว มีเรื่องขัดข้องเล็กน้อย คือ (1) เราลืมเขียนวันที่ต้องการเดินทางไป (2) รอบรถที่เราต้องการ ไม่มีห้องว่างสำหรับเรา 3 คน ก็เลยต้องไปสื่อสารแบบงูๆปลาๆกันกับเจ้าหน้าที่ขายตั๋ว จริงๆแล้วเจ้าหน้าที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ในระดับนึงเลยค่ะ

หลังจากซื้อตั๋วเสร็จ เราก็ต้องไปซื้อตั๋วรถบัสต่อ เราไปโดยรถเมล์สาย 80 ค่ะ โดยป้ายรถเมล์จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับทางออกสถานีรถไฟ (เราไม่สามารถเดินกลับตรงทางที่เราเข้ามาได้นะคะ เมื่อเราหันหน้าเข้าหาสถานีทางออกจากอยู่ทางซ้ายมือ หลังรูปปั้นกระทิงค่ะ) พอพ้นประตูทางออกสถานีรถไฟ ก็จะมีคนกรูเข้ามาเสนอบริการต่างๆ เป็นภาษาจีน แต่เราไม่สนใจค่ะ เดินข้ามถนนตรงไปไปขึ้นรถเมล์เลย แต่จริงๆแล้วสามารถนั่งไฟใต้ดินไปที่สถานีรถทัวร์ได้เลยนะคะ แต่ตอนนั้นเราไม่เจอรีวิวว่ามันมีรถใต้ดินไปถึงสถานีรถบัสด้วย

หมายเหตุ: คนที่สวมสะพายทุกคน ไม่ใช่ brand ambassador ของสถานีฯนะคะ ตอนเราเดินออกมา เราเห็นคนที่สวมสายสะพายเหมือนกัน แต่ชุดเค้าจะไม่เต็มยศเท่า เท่าที่สังเกต เหมือนพวกเค้าจะเป็น agency ทัวร์ค่ะ

หลังจากใช้เวลาเดินทางมาเกือบๆชั่วโมง รถเมล์ก็จอด เราคาดว่าป้ายที่จอดส่งผู้โดยสารที่สถานีรถบัสนี้อาจจะเป็นป้ายสุดท้ายค่ะ เพราะว่าคนลงหมดเลย เราเองก็ลงที่ป้ายนี้เช่นกัน พอลงรถก็ข้ามถนน เดินย้อนทางรถเมล์ พอเจอแยกให้แล้วเลี้ยวขวาก็จะถึงทางเข้าสถานีรถบัสค่ะ เราเข้าไปซื้อตั๋ว night bus เสร็จ ก็ฝากของไว้ที่สถานี ซึ่งป้ายที่เขียนว่ารับฝากของจะบอกว่ารับฝากชิ้นเล็ก แต่เราไปถึง กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ก็มีคนฝากนะคะ

ถ้าอยากประหยัดค่าฝากแบบให้ดูไม่น่าเกลียด ใครกระเป๋าเล็กๆ ก็ยัดของใส่ในกระเป๋าของเพื่อนที่ใหญ่กว่าเลยค่ะ (ค่าฝากคิดราคาเป็นต่อใบ ไม่แน่ใจว่าใบ 5 หรือ 10 หยวน สถานที่รับฝากปิด 3 ทุ่มค่ะ แต่รถเราออก 2 ทุ่ม ยังไงก็ทันค่ะ)

เสร็จแล้วเราก็เดินตัวปลิว นั่งรถไฟใต้ดินจากสถานีรถบัสไปเที่ยววัดหยวนทงกันค่ะ เราซื้อตั่วรถไปลงที่สถานี Chuanxin Guluo ส่วนวิธีการซื้อตั๋วก็คือ เดินไปหาเจ้าหน้าที่ แล้วแจ้งเขาว่าเราจะไปวัดหยวนทง เค้าก็จะซื้อตั๋วให้เรา จริงๆแล้วเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติมีเมนูภาษาอังกฤษนะคะ แต่ตอนแรก เราไม่ได้หาข้อมูลไปก่อน จำได้ว่ามีวัดนี้ เลยเอารูปให้เจ้าหน้าที่ดู เขาก็เลยกดซื้อให้ค่ะ

ข้อมูลของวัดหยวนทงก็ตามลิ้งนี้ไปเลยค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้)

ส่วนข้อมูลการเดินทางไปวัดหยวนทง เราลองหาเจอลิ้งนี้ค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แต่ตอนเราไปจริงๆ เราถามเจ้าหน้าที่ตรงสถานทีทางออก ถามคนที่เดินผ่านแถวนั้นเอา

พอกลับจากวัด เราก็เดินเล่นในเมือง และกินอาหารเย็นเพื่อเตรียมพร้อม ก่อนนั่งใต้ดินไปขึ้น night bus ซึ่งเป็นรถนอน มุ่งสู่แชงกรีล่า เราได้รอบรถตอนประมาณสองทุ่ม และถึงที่แชงกรีล่า (จงเตี้ยน) ประมาณ 9 โมงเช้า

แก้ไขข้อความเมื่อ