คือข้อมูลผมมีอยู่ดังนี้ครับ
1. แม่ผมเป็นข้าราชการ อายุ 51 ปี อีก 9 ปี เกษียณ
2. แม่เป็นข้าราชการอยู่ที่อำเภอๆ หนึ่งในต่างจังหวัด ปัจจุบันอยู่บ้านที่เป็นชื่อของผม แต่ผมไม่ได้อยู่
3. จริงๆ บ้านหลังนี้เป็นเงินของพ่อผมล้วนๆ เป็นชื่อพ่อเลย แต่พ่อหย่ากันกับแม่ ก็เลยยกให้เป็นชื่อผม แม่ผมอยู่อาศัยต่อ เพราะห่างจากที่ทำงานแค่ 500 เมตร และพ่อผมมีบ้านอีกหลังหนึ่งอยู่แล้ว ที่อยู่กับครอบครัวใหม่
4. จริงๆ แม่ผมมีบ้านอีกหลังหนึ่ง บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณยาย ยายเสียท่านยกให้เป็นของแม่ผม (ยายเสียเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ตาผมเสียเมื่อ 10 ปีที่แล้ว บ้านเริ่มร้างตั้งแต่ที่ตาเสีย) ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ชื่อเป็นของแม่จริงๆ
5. แม่ผมไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้ เพราะห่างจากที่ทำงานถึง 70 กิโลเมตร ซึ่งเดินทางไม่สะดวก (ขับรถไปกลับวันละ 2 ชั่วโมงกว่าไม่ไหว ผมไม่อยากให้ขับด้วย เพราะมันอันตราย)
6. แต่แม่ผมมีแผนที่จะย้ายกลับไปอยู่บ้านหลังนั้น เพราะครอบครัวอยู่ที่นั่นหมด (พี่น้อง หลานๆ) แม่ผมอยู่ที่บ้านหลังใหม่นี่คือคนเดียว แค่ไปทำงานแล้วกลับแค่นั้น ตกเย็นก็ทานข้าวคนเดียวบ้าง ทานข้าวกับเพื่อนที่ทำงานบ้าง แต่โดยรวมค่อนข้างเหงา เพราะลูกๆ (ผมกับพี่สาว) มาเรียน & ทำงานที่กรุงเทพหมด ทุกวันนี้เสาร์-อาทิตย์ก็ขับรถกลับบ้านไปเล่นกับหลาน (ลูกของลูกพี่ลูกน้อง) แก้เหงา
7. หลังเกษียณแม่ผมมีแผนจะย้ายกลับไปอยู่บ้านหลังนั้นถาวร จึงคิดที่จะเริ่มรีโนเวตบ้านที่ได้รับมาจากคุณยายตอนนี้ เพราะอายุบ้านประมาณ 50 ปี ทุกวันนี้เนื่องจากไม่ได้อยู่ถาวร ที่ทำได้ก็คือฉีดยาฆ่าปลวก + ซ่อม ตามสภาพ ความจริงก็คือไม่อยากทำใหม่ ในตอนนี้ทันที เพราะกลัวล่อขโมย ก็เลยปล่อยให้บ้านดูโทรมๆ หน่อย แต่ก็ตัดหญ้าหรืออะไรอยู่ตลอด ให้เหมือนมีคนอยู่ตลอด แต่เป็นคนอยู่แบบไม่ค่อยมีเงิน
8. แต่บ้านหลังนี้ อยู่ในทำเลที่ไม่ค่อยดี คืออยู่กลางหมู่บ้าน มีถนน 2 เลนตัดผ่าน (เป็นถนนทางหลวง 4 หลักเลย) ทำให้รถผ่านตลอด แต่ทางแคบ และขยายถนนเพิ่มไม่ได้ เพราะบ้านแต่ละหลังอยู่แทบชิดถนนเลย (ห่างแค่ไม่กี่เมตรตามกฏหมาย) ทั้งที่บ้านแคบ (บ้านหลังใหญ่นะ ประมาณ 200 ตร.วา) ทำให้พื้นที่นอกเหนือจากตัวบ้าน อย่างสนามหญ้า แบบนี้ น้อย และเวลาบ้านข้างๆ ด่ากัน ก็ได้ยินเลย (บ้านยายติด 4 แยกผ่าหมู่บ้าน) หลังบ้านเป็นครอบครัวชาวบ้าน ทำไส้กรอกขายที่ตลาด ทำให้มีกลิ่น และชอบด่ากันเสียงดัง ด้านข้างบ้านฝั่งทิศตะวันออก ติดกับสาวโสด ที่ช่างเม้าท์ คนไปมาบ้านตลอด คุยกันเสียงดัง อีก 2 ฝั่ง เป็นถนน ตอนกลางคืนนอนๆ อยู่ ได้ยินเสียงรถตลอด
9. บ้านหลังนี้ห่างจากที่พี่น้องของแม่ (คุณลุงคุณป้าของผม) อยู่ ประมาณ 1 กิโลเมตร แต่ที่นั่นคือปลูกบ้านอยู่ในบริเวณเดียวกัน เขตรั้วเดียวกัน 3 หลัง เป็นที่ ประมาณ 9 ไร่ อยู่กัน 3 ครอบครัว แต่ก็แบ่งเป็นโฉนดของใครของมันชัดเจน เวลาปลูกต้นไม้ ต้นหญ้า ก็ปลูกเฉพาะในเขตของตัวเอง คือจะรู้โดยตัวเองว่าเขตของตัวเองอยู่ที่ไหน ความสัมพันธ์ในหมู่พี่น้องดีมากๆ คือตอนเย็นทุกคนก็จะทานข้าวรวมกัน ลุงๆป้าๆ รักผมเหมือนลูก ช่วยเหลือแบ่งปันกันตลอด แม่ผมเข้าโรงพยาบาล ลุงๆ ป้าๆ กับลูกของลุงๆ ป้า (ลูกพี่ลูกน้องของผม) ก็ผลัดกันมานอนเฝ้าแม่ผมที่โรงพยาบาลตลอด 1 อาทิตย์ที่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาล
10. ผมจึงอยากให้แม่ไปปลูกบ้านที่นั่น เพราะป้าผมก็บอกว่าจะแบ่งที่ให้ ให้ปลูกบ้านได้เลย แล้วให้โฉนดไปเลยฟรีๆ เสียแค่ค่าที่จะจ่ายให้ที่ดินเอง (แต่ผมก็คุยกับแม่แล้ว ว่าถ้าจะไปจริงๆ ก็ซื้อขายให้มันถูกต้อง ถึงจะเป็นญาติกัน แต่ของมันเป็นมูลค่า เป็นเงิน ไม่อยากเอามาฟรีๆ เพราะราคาถ้าจะไปขายให้คนอื่นไม่ใช่ถูกๆ แน่นอน ที่นั่นห่างจากที่ว่าการอำเภอ แค่ 150 เมตร เพราะแต่ก่อนเป็นที่ผืนใหญ่ ที่ว่าการอำเภอ ก็เป็นที่ๆตาทวดของผม บริจาคให้สร้าง มรดกตกมาเรื่อยๆ ถึงรุ่นผม มันถึงได้ใกล้กัน แล้วก็ห่างจากปั๊มน้ำมัน เซเว่นแค่ 50 เมตร คืออยู่เยื้องกับตัวบ้านเลย) พื้นที่ที่ป้าจะแบ่งให้ ประมาณ 2 ไร่ ก็พอได้บ้าน แล้วก็สนามหญ้าหน้าบ้านกว้างๆ ไว้ให้ลูกผมวิ่งเล่น
11. อีกเหตุผลนึงก็คือผมกับพี่สาวน่าจะอยู่กรุงเทพอีกนาน ถ้าแม่อยู่คนเดียวคือเป็นห่วง แต่ถ้าอยู่ที่นั่น เกิดอะไรขึ้นญาติช่วยเหลือกันได้
12. แต่อีกใจหนึ่งบ้านของยายก็เสียดาย คือจะปล่อยไว้ก็กลัวโทรม จะขายผมก็ไม่เห็นด้วย (แม่ก็ไม่เห็นด้วย) คือแม่ไม่อยากขายอะไรที่มันเป็นมรดก และที่ตรงนั้นมันเป็นความทรงจำของผม ผมเกิดมาได้ 5 ปี ยายก็เสีย ตลอด 5 ปี ที่ผมมีชีวิตบนโลก ยายคือเลี้ยงดูมาตลอด ภาพตอนเด็กมีแต่ตากับยาย ทุกวันนี้ถ้าผมมีโอกาสได้กลับบ้าน ก็ไปนอนบ้านยาย ปีละครั้ง ก็ยังดี และตลอด 10 ปี ที่ผ่านมา มีแค่ผมคนเดียวที่ไปนอนบ้านยาย เพราะเวลาแม่กลับบ้าน เสาร์-อาทิตย์ จะไปนอนบ้านป้า บางทีเวลาที่ท้อหนักๆ ก็บินกลับบ้าน เพื่อไปนอนบ้านยายก็เคยทำ มันเหมือนรู้สึกว่ายายยังอยู่บ้านนั้น เหมือนผมได้นอนกับยายตอนเด็กๆ ผมเข้าไปนอนในห้องตากับยายด้วย
13. ก็เลยไม่รู้จะตัดสินใจยังไง เพราะกะว่าจะสร้างภายในปี - 2 ปีนี้ให้เสร็จก่อนที่ผมจะเรียนจบ แต่จนถึงตอนนี้ผมกับแม่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ คิดอีกแง่ ก็ทั้งรีโนเวต และสร้างบ้านใหม่ คือทำทั้ง 2 อย่างไปเลย
14. ข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ บ้านคุณยาย มี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ มีห้องน้ำ กลางไว้ใช้รวมกัน ที่ชั้น 1 ของบ้าน ห้องน้ำในห้องนอนคุณยาย ที่ชั้น 1 ของบ้าน แล้วก็ห้องน้ำในห้องนอนชั้นบน อีก 1 ห้องที่เป็นห้องของคุณแม่ อีกห้องหนึ่งไม่มีห้องน้ำ ส่วนบ้านหลังใหม่ กะว่าจะสร้าง 200 ตร.วา เหมือนบ้านหลังคุณยาย จะทำ 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ คือแต่ละห้องมีห้องน้ำของตัวเองเลย และแน่นอนว่าแบบแปลนบ้านใหม่ ฟังก์ชันการใช้งานจะดีกว่า เพราะบ้านคุณยายวางผังบ้านแปลกๆ แบบสมัยก่อน คือเปิดประตูบ้านจะเจอห้องนั่งเล่น และบันไดขึ้นชั้นสอง ฝั่งขวาเป็นห้องของคุณตาคุณยาย แล้วก็จะมีประตูตรงหน้าบันได เพื่อเปิดเข้าสู่ส่วนที่สองของบ้าน จะเป็นโถงใหญ่ๆ โล่งๆ ที่หลังคาสูงมาก ไว้เก็บตู้ ของ เยอะแยะ ห้องน้ำของชั้นล่างก็อยู่ส่วนนี้ แล้วพอจะเข้าไปสู่ส่วนที่สามของบ้าน ก็ต้องเปิดประตูออกไป จะเจอกับครัว
** ดังนั้น จากข้อมูลข้างต้น ที่ผมบอกค่อนข้างละเอียดมากๆ เพราะอยากได้ข้อมูลตัดสินใจจริงๆ
อยากทราบความคิดเห็นของคนอื่นอ่ะครับ ว่าถ้าเป็นคนอื่น จะรีโนเวตบ้าน ที่เป็นบ้านหลังเดิมของคุณยาย หรือสร้างบ้านใหม่ ที่อยู่ในพื้นที่รวมๆ กับญาติๆ ดี
[Home] ควรสร้างบ้านใหม่ดี หรือ Renovate บ้านเดิมดีครับ
1. แม่ผมเป็นข้าราชการ อายุ 51 ปี อีก 9 ปี เกษียณ
2. แม่เป็นข้าราชการอยู่ที่อำเภอๆ หนึ่งในต่างจังหวัด ปัจจุบันอยู่บ้านที่เป็นชื่อของผม แต่ผมไม่ได้อยู่
3. จริงๆ บ้านหลังนี้เป็นเงินของพ่อผมล้วนๆ เป็นชื่อพ่อเลย แต่พ่อหย่ากันกับแม่ ก็เลยยกให้เป็นชื่อผม แม่ผมอยู่อาศัยต่อ เพราะห่างจากที่ทำงานแค่ 500 เมตร และพ่อผมมีบ้านอีกหลังหนึ่งอยู่แล้ว ที่อยู่กับครอบครัวใหม่
4. จริงๆ แม่ผมมีบ้านอีกหลังหนึ่ง บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณยาย ยายเสียท่านยกให้เป็นของแม่ผม (ยายเสียเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ตาผมเสียเมื่อ 10 ปีที่แล้ว บ้านเริ่มร้างตั้งแต่ที่ตาเสีย) ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ชื่อเป็นของแม่จริงๆ
5. แม่ผมไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้ เพราะห่างจากที่ทำงานถึง 70 กิโลเมตร ซึ่งเดินทางไม่สะดวก (ขับรถไปกลับวันละ 2 ชั่วโมงกว่าไม่ไหว ผมไม่อยากให้ขับด้วย เพราะมันอันตราย)
6. แต่แม่ผมมีแผนที่จะย้ายกลับไปอยู่บ้านหลังนั้น เพราะครอบครัวอยู่ที่นั่นหมด (พี่น้อง หลานๆ) แม่ผมอยู่ที่บ้านหลังใหม่นี่คือคนเดียว แค่ไปทำงานแล้วกลับแค่นั้น ตกเย็นก็ทานข้าวคนเดียวบ้าง ทานข้าวกับเพื่อนที่ทำงานบ้าง แต่โดยรวมค่อนข้างเหงา เพราะลูกๆ (ผมกับพี่สาว) มาเรียน & ทำงานที่กรุงเทพหมด ทุกวันนี้เสาร์-อาทิตย์ก็ขับรถกลับบ้านไปเล่นกับหลาน (ลูกของลูกพี่ลูกน้อง) แก้เหงา
7. หลังเกษียณแม่ผมมีแผนจะย้ายกลับไปอยู่บ้านหลังนั้นถาวร จึงคิดที่จะเริ่มรีโนเวตบ้านที่ได้รับมาจากคุณยายตอนนี้ เพราะอายุบ้านประมาณ 50 ปี ทุกวันนี้เนื่องจากไม่ได้อยู่ถาวร ที่ทำได้ก็คือฉีดยาฆ่าปลวก + ซ่อม ตามสภาพ ความจริงก็คือไม่อยากทำใหม่ ในตอนนี้ทันที เพราะกลัวล่อขโมย ก็เลยปล่อยให้บ้านดูโทรมๆ หน่อย แต่ก็ตัดหญ้าหรืออะไรอยู่ตลอด ให้เหมือนมีคนอยู่ตลอด แต่เป็นคนอยู่แบบไม่ค่อยมีเงิน
8. แต่บ้านหลังนี้ อยู่ในทำเลที่ไม่ค่อยดี คืออยู่กลางหมู่บ้าน มีถนน 2 เลนตัดผ่าน (เป็นถนนทางหลวง 4 หลักเลย) ทำให้รถผ่านตลอด แต่ทางแคบ และขยายถนนเพิ่มไม่ได้ เพราะบ้านแต่ละหลังอยู่แทบชิดถนนเลย (ห่างแค่ไม่กี่เมตรตามกฏหมาย) ทั้งที่บ้านแคบ (บ้านหลังใหญ่นะ ประมาณ 200 ตร.วา) ทำให้พื้นที่นอกเหนือจากตัวบ้าน อย่างสนามหญ้า แบบนี้ น้อย และเวลาบ้านข้างๆ ด่ากัน ก็ได้ยินเลย (บ้านยายติด 4 แยกผ่าหมู่บ้าน) หลังบ้านเป็นครอบครัวชาวบ้าน ทำไส้กรอกขายที่ตลาด ทำให้มีกลิ่น และชอบด่ากันเสียงดัง ด้านข้างบ้านฝั่งทิศตะวันออก ติดกับสาวโสด ที่ช่างเม้าท์ คนไปมาบ้านตลอด คุยกันเสียงดัง อีก 2 ฝั่ง เป็นถนน ตอนกลางคืนนอนๆ อยู่ ได้ยินเสียงรถตลอด
9. บ้านหลังนี้ห่างจากที่พี่น้องของแม่ (คุณลุงคุณป้าของผม) อยู่ ประมาณ 1 กิโลเมตร แต่ที่นั่นคือปลูกบ้านอยู่ในบริเวณเดียวกัน เขตรั้วเดียวกัน 3 หลัง เป็นที่ ประมาณ 9 ไร่ อยู่กัน 3 ครอบครัว แต่ก็แบ่งเป็นโฉนดของใครของมันชัดเจน เวลาปลูกต้นไม้ ต้นหญ้า ก็ปลูกเฉพาะในเขตของตัวเอง คือจะรู้โดยตัวเองว่าเขตของตัวเองอยู่ที่ไหน ความสัมพันธ์ในหมู่พี่น้องดีมากๆ คือตอนเย็นทุกคนก็จะทานข้าวรวมกัน ลุงๆป้าๆ รักผมเหมือนลูก ช่วยเหลือแบ่งปันกันตลอด แม่ผมเข้าโรงพยาบาล ลุงๆ ป้าๆ กับลูกของลุงๆ ป้า (ลูกพี่ลูกน้องของผม) ก็ผลัดกันมานอนเฝ้าแม่ผมที่โรงพยาบาลตลอด 1 อาทิตย์ที่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาล
10. ผมจึงอยากให้แม่ไปปลูกบ้านที่นั่น เพราะป้าผมก็บอกว่าจะแบ่งที่ให้ ให้ปลูกบ้านได้เลย แล้วให้โฉนดไปเลยฟรีๆ เสียแค่ค่าที่จะจ่ายให้ที่ดินเอง (แต่ผมก็คุยกับแม่แล้ว ว่าถ้าจะไปจริงๆ ก็ซื้อขายให้มันถูกต้อง ถึงจะเป็นญาติกัน แต่ของมันเป็นมูลค่า เป็นเงิน ไม่อยากเอามาฟรีๆ เพราะราคาถ้าจะไปขายให้คนอื่นไม่ใช่ถูกๆ แน่นอน ที่นั่นห่างจากที่ว่าการอำเภอ แค่ 150 เมตร เพราะแต่ก่อนเป็นที่ผืนใหญ่ ที่ว่าการอำเภอ ก็เป็นที่ๆตาทวดของผม บริจาคให้สร้าง มรดกตกมาเรื่อยๆ ถึงรุ่นผม มันถึงได้ใกล้กัน แล้วก็ห่างจากปั๊มน้ำมัน เซเว่นแค่ 50 เมตร คืออยู่เยื้องกับตัวบ้านเลย) พื้นที่ที่ป้าจะแบ่งให้ ประมาณ 2 ไร่ ก็พอได้บ้าน แล้วก็สนามหญ้าหน้าบ้านกว้างๆ ไว้ให้ลูกผมวิ่งเล่น
11. อีกเหตุผลนึงก็คือผมกับพี่สาวน่าจะอยู่กรุงเทพอีกนาน ถ้าแม่อยู่คนเดียวคือเป็นห่วง แต่ถ้าอยู่ที่นั่น เกิดอะไรขึ้นญาติช่วยเหลือกันได้
12. แต่อีกใจหนึ่งบ้านของยายก็เสียดาย คือจะปล่อยไว้ก็กลัวโทรม จะขายผมก็ไม่เห็นด้วย (แม่ก็ไม่เห็นด้วย) คือแม่ไม่อยากขายอะไรที่มันเป็นมรดก และที่ตรงนั้นมันเป็นความทรงจำของผม ผมเกิดมาได้ 5 ปี ยายก็เสีย ตลอด 5 ปี ที่ผมมีชีวิตบนโลก ยายคือเลี้ยงดูมาตลอด ภาพตอนเด็กมีแต่ตากับยาย ทุกวันนี้ถ้าผมมีโอกาสได้กลับบ้าน ก็ไปนอนบ้านยาย ปีละครั้ง ก็ยังดี และตลอด 10 ปี ที่ผ่านมา มีแค่ผมคนเดียวที่ไปนอนบ้านยาย เพราะเวลาแม่กลับบ้าน เสาร์-อาทิตย์ จะไปนอนบ้านป้า บางทีเวลาที่ท้อหนักๆ ก็บินกลับบ้าน เพื่อไปนอนบ้านยายก็เคยทำ มันเหมือนรู้สึกว่ายายยังอยู่บ้านนั้น เหมือนผมได้นอนกับยายตอนเด็กๆ ผมเข้าไปนอนในห้องตากับยายด้วย
13. ก็เลยไม่รู้จะตัดสินใจยังไง เพราะกะว่าจะสร้างภายในปี - 2 ปีนี้ให้เสร็จก่อนที่ผมจะเรียนจบ แต่จนถึงตอนนี้ผมกับแม่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ คิดอีกแง่ ก็ทั้งรีโนเวต และสร้างบ้านใหม่ คือทำทั้ง 2 อย่างไปเลย
14. ข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ บ้านคุณยาย มี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ มีห้องน้ำ กลางไว้ใช้รวมกัน ที่ชั้น 1 ของบ้าน ห้องน้ำในห้องนอนคุณยาย ที่ชั้น 1 ของบ้าน แล้วก็ห้องน้ำในห้องนอนชั้นบน อีก 1 ห้องที่เป็นห้องของคุณแม่ อีกห้องหนึ่งไม่มีห้องน้ำ ส่วนบ้านหลังใหม่ กะว่าจะสร้าง 200 ตร.วา เหมือนบ้านหลังคุณยาย จะทำ 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ คือแต่ละห้องมีห้องน้ำของตัวเองเลย และแน่นอนว่าแบบแปลนบ้านใหม่ ฟังก์ชันการใช้งานจะดีกว่า เพราะบ้านคุณยายวางผังบ้านแปลกๆ แบบสมัยก่อน คือเปิดประตูบ้านจะเจอห้องนั่งเล่น และบันไดขึ้นชั้นสอง ฝั่งขวาเป็นห้องของคุณตาคุณยาย แล้วก็จะมีประตูตรงหน้าบันได เพื่อเปิดเข้าสู่ส่วนที่สองของบ้าน จะเป็นโถงใหญ่ๆ โล่งๆ ที่หลังคาสูงมาก ไว้เก็บตู้ ของ เยอะแยะ ห้องน้ำของชั้นล่างก็อยู่ส่วนนี้ แล้วพอจะเข้าไปสู่ส่วนที่สามของบ้าน ก็ต้องเปิดประตูออกไป จะเจอกับครัว
** ดังนั้น จากข้อมูลข้างต้น ที่ผมบอกค่อนข้างละเอียดมากๆ เพราะอยากได้ข้อมูลตัดสินใจจริงๆ
อยากทราบความคิดเห็นของคนอื่นอ่ะครับ ว่าถ้าเป็นคนอื่น จะรีโนเวตบ้าน ที่เป็นบ้านหลังเดิมของคุณยาย หรือสร้างบ้านใหม่ ที่อยู่ในพื้นที่รวมๆ กับญาติๆ ดี