ตามแนวทางในการแก้ไขสันติภาพของโลก..
แก้ไขด้วยการทำให้มีความมั่นคงทางด้านอาหาร ถิ่นที่อยู่อาศัยและเศรษฐกิจ..
แต่เพราะศาสนาไม่เคยมีคำสอนว่า..
"จงมีทรัพย์สมบัติมากๆ แล้วสันติภาพ(ที่แท้จริง)จะบังเกิดขึ้น"..
หรือ เมื่อมีทรัพย์สมบัติมากๆแล้วตัณหาอุปาทาน(ความอยากยึดติด)จะดับลง"..
เช่นนั้นแล้ว สันติภาพในทางศาสนาจึงไม่ขึ้นอยู่กับความมั่นคงหรือไม่มั่นคงทางอาหาร..
ไม่ขึ้นอยู่กับความมั่นคงหรือไม่มั่นคงทางถิ่นที่อยู่อาศัย..
ไม่ขึ้นอยู่กับความมั่นคงหรือไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ..
สันติภาพของผู้ที่มีความมั่นคงในทางศาสนา..
ถึงแม้จะมีความยากจน ขาดแคลน..ไม่มีความมั่นคงทางอาหาร
ไม่มีความมั่นคงทางถิ่นที่อยู่อาศัย ไม่มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ..
ก็ไม่อาจที่จะทำลายความสันติของตนเอง และ ผู้อื่น..
แต่เพราะมนุษย์มีจิตใจที่ไม่ทนต่อความบีบคั้นทางรูป พ่ายแพ้ต่อรูป..
จึงทำลายสันติภาพของตนเอง และ ผู้อื่น..
........................................................................................
เมื่อกล่าวตามสถานการณ์ที่แท้จริงของโลก..
มีผู้คนจำนวนน้อยที่ฝึกฝนตนจนอยู่เหนือความต้องการทางรูปได้..
ความยากจนมีอยู่ในชนทุกระดับชั้น..
ความรู้สึกไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจจึงทำให้คนทุกระดับชั้นสามารถ
ก่ออาชญากรรมทำผิดศีลธรรมได้เสมอกัน..
ไม่มีเหตุผลความขาดแคลนทางรูปใดๆที่จะทำให้ผู้มีศีล(ที่แท้จริง)ทำลายศีลของตน..
.........................................................................................
แต่สำหรับผู้ไม่มีศีลที่แท้จริง ที่ยังพึ่งตนเองไม่ได้แล้ว
ความมั่งคั่งมั่นคงทางเศรษฐกิจ อาจชะลอบรรเทาการทำผิดศีลนั้นได้บ้าง..ชั่วครั้งชั่วคราว
สันติภาพทางศาสนาไม่ขึ้นอยู่กับความมั่นคงทางเศรษฐกิจ..
แก้ไขด้วยการทำให้มีความมั่นคงทางด้านอาหาร ถิ่นที่อยู่อาศัยและเศรษฐกิจ..
แต่เพราะศาสนาไม่เคยมีคำสอนว่า..
"จงมีทรัพย์สมบัติมากๆ แล้วสันติภาพ(ที่แท้จริง)จะบังเกิดขึ้น"..
หรือ เมื่อมีทรัพย์สมบัติมากๆแล้วตัณหาอุปาทาน(ความอยากยึดติด)จะดับลง"..
เช่นนั้นแล้ว สันติภาพในทางศาสนาจึงไม่ขึ้นอยู่กับความมั่นคงหรือไม่มั่นคงทางอาหาร..
ไม่ขึ้นอยู่กับความมั่นคงหรือไม่มั่นคงทางถิ่นที่อยู่อาศัย..
ไม่ขึ้นอยู่กับความมั่นคงหรือไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ..
สันติภาพของผู้ที่มีความมั่นคงในทางศาสนา..
ถึงแม้จะมีความยากจน ขาดแคลน..ไม่มีความมั่นคงทางอาหาร
ไม่มีความมั่นคงทางถิ่นที่อยู่อาศัย ไม่มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ..
ก็ไม่อาจที่จะทำลายความสันติของตนเอง และ ผู้อื่น..
แต่เพราะมนุษย์มีจิตใจที่ไม่ทนต่อความบีบคั้นทางรูป พ่ายแพ้ต่อรูป..
จึงทำลายสันติภาพของตนเอง และ ผู้อื่น..
........................................................................................
เมื่อกล่าวตามสถานการณ์ที่แท้จริงของโลก..
มีผู้คนจำนวนน้อยที่ฝึกฝนตนจนอยู่เหนือความต้องการทางรูปได้..
ความยากจนมีอยู่ในชนทุกระดับชั้น..
ความรู้สึกไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจจึงทำให้คนทุกระดับชั้นสามารถ
ก่ออาชญากรรมทำผิดศีลธรรมได้เสมอกัน..
ไม่มีเหตุผลความขาดแคลนทางรูปใดๆที่จะทำให้ผู้มีศีล(ที่แท้จริง)ทำลายศีลของตน..
.........................................................................................
แต่สำหรับผู้ไม่มีศีลที่แท้จริง ที่ยังพึ่งตนเองไม่ได้แล้ว
ความมั่งคั่งมั่นคงทางเศรษฐกิจ อาจชะลอบรรเทาการทำผิดศีลนั้นได้บ้าง..ชั่วครั้งชั่วคราว