เรียนกรรมฐาน อย่าดื้อ
…………………..
“เวลาเราเรียนกรรมฐานนะ อย่าดื้อ
บางคนควรจะดูจิต
หลวงพ่อบอกให้ดูจิต มันก็จะดูกายนะ
บางคนควรจะดูกาย ก็อยากดูจิต
มีนะ บางคนหลวงพ่อบอกให้ดูกาย
ดูกายไว้แล้วจะดี สอนอย่างนี้นะ
(ก็บอกว่า) ผมอยากดูจิต หนูอยากดูจิต
จิตหนูมันอย่างโน้นอย่างนี้
หนูเอ๊ย หนูไม่รู้ตัวเอง
หนูดูจิตไม่ได้หรอก จิตหนูฟุ้งซ่านเกินไป
ไปดูร่างกายก่อน ดูร่างกายแล้วจะได้สมาธิ
ทำไมดูจิตไม่ได้?
จิตเป็นของละเอียด คล่องแคล่วว่องไวมาก
ถ้าไม่มีฐานของสมาธิไว้บ้างเลย
ไปดูจิตตรงๆ นะ ดูไม่รู้เรื่องหรอก
มันจะคิดอย่างเดียวเลย มันไม่ดูจิตหรอก
เพราะฉะนั้น พวกที่ฟุ้งซ่านมาก
พวกที่คิดมากจริงๆ เลยนะ
ดูจิตไม่ได้หรอก
แต่พวกช่างคิดพอดีๆ นี่
เหมาะกับการดูจิต
อย่างพวกเราส่วนใหญ่นี่ คิดพอดีๆ
มันไม่รุนแรงในการคิด
แต่บางคนเวลาคิดนี่นะ จิตมันพุ่งแรง
เคยเจอไหม บางคนเวลามันพูด
หน้าตามันหลง หลงตาโตๆ ด้วยนะ
พวกนี้ ดูจิตไม่ได้
ถ้าพวกหลงแบบพวกเราอย่างนี้
เหมาะกับการดูจิต
เพราะเวลาหลง ไม่แรงนัก
หลงไปคิดเรื่องนี้ โลภ
คิดเรื่องนี้ โกรธ
คิดเรื่องนี้ หลง
คิดเรื่องนี้ สุข
คิดเรื่องนี้ ทุกข์
จิตมันหมุนเวียนเปลี่ยนแปลง
พอจะดู (ดูจิต) ได้
ถ้าประเภทหลง (คิด) รุนแรง
หลง (คิด) เตลิดเปิดเปิงนะ
ไปดูกายไว้ก่อน หรือดีที่สุดทำสมถะ
ฉะนั้น ต้องดูตัวเองนะ
ไม่ใช่ครูบาอาจารย์ให้ดูจิต ก็จะดูกาย
ครูบาอาจารย์ให้ดูกาย ก็จะดูจิต”
…………………..
พระธรรมเทศนา
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๐
ถอดคำ : พีเค
เรียบเรียง : สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา
https://www.facebook.com/1317977204900901/photos/a.1412754818756472.1073741828.1317977204900901/1721153531249931/?type=3&theater
เรียนกรรมฐาน อย่าดื้อ
…………………..
“เวลาเราเรียนกรรมฐานนะ อย่าดื้อ
บางคนควรจะดูจิต
หลวงพ่อบอกให้ดูจิต มันก็จะดูกายนะ
บางคนควรจะดูกาย ก็อยากดูจิต
มีนะ บางคนหลวงพ่อบอกให้ดูกาย
ดูกายไว้แล้วจะดี สอนอย่างนี้นะ
(ก็บอกว่า) ผมอยากดูจิต หนูอยากดูจิต
จิตหนูมันอย่างโน้นอย่างนี้
หนูเอ๊ย หนูไม่รู้ตัวเอง
หนูดูจิตไม่ได้หรอก จิตหนูฟุ้งซ่านเกินไป
ไปดูร่างกายก่อน ดูร่างกายแล้วจะได้สมาธิ
ทำไมดูจิตไม่ได้?
จิตเป็นของละเอียด คล่องแคล่วว่องไวมาก
ถ้าไม่มีฐานของสมาธิไว้บ้างเลย
ไปดูจิตตรงๆ นะ ดูไม่รู้เรื่องหรอก
มันจะคิดอย่างเดียวเลย มันไม่ดูจิตหรอก
เพราะฉะนั้น พวกที่ฟุ้งซ่านมาก
พวกที่คิดมากจริงๆ เลยนะ
ดูจิตไม่ได้หรอก
แต่พวกช่างคิดพอดีๆ นี่
เหมาะกับการดูจิต
อย่างพวกเราส่วนใหญ่นี่ คิดพอดีๆ
มันไม่รุนแรงในการคิด
แต่บางคนเวลาคิดนี่นะ จิตมันพุ่งแรง
เคยเจอไหม บางคนเวลามันพูด
หน้าตามันหลง หลงตาโตๆ ด้วยนะ
พวกนี้ ดูจิตไม่ได้
ถ้าพวกหลงแบบพวกเราอย่างนี้
เหมาะกับการดูจิต
เพราะเวลาหลง ไม่แรงนัก
หลงไปคิดเรื่องนี้ โลภ
คิดเรื่องนี้ โกรธ
คิดเรื่องนี้ หลง
คิดเรื่องนี้ สุข
คิดเรื่องนี้ ทุกข์
จิตมันหมุนเวียนเปลี่ยนแปลง
พอจะดู (ดูจิต) ได้
ถ้าประเภทหลง (คิด) รุนแรง
หลง (คิด) เตลิดเปิดเปิงนะ
ไปดูกายไว้ก่อน หรือดีที่สุดทำสมถะ
ฉะนั้น ต้องดูตัวเองนะ
ไม่ใช่ครูบาอาจารย์ให้ดูจิต ก็จะดูกาย
ครูบาอาจารย์ให้ดูกาย ก็จะดูจิต”
…………………..
พระธรรมเทศนา
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๐
ถอดคำ : พีเค
เรียบเรียง : สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา
https://www.facebook.com/1317977204900901/photos/a.1412754818756472.1073741828.1317977204900901/1721153531249931/?type=3&theater