[CR] A Belated Birthday Present® in Tokyo | Day#1 Sensoji Temple & Nikko

ทริปญี่ปุ่นทริปนี้เป็นทริปวันเกิดที่จองกับข้ามปี ข้ามชาติ โดยสายการบิน Air-AsiaX Flight XJ606 DMK 11:15 am - NRT 7:40 pm และ Flight XJ607 NRT 08 : 15 pm - DMK 12 : 55 am  ..🛫Timing อาจไม่ดีนัก แต่ราคาดีต่อกระเป๋ามากๆ ค่ะ 55+

นั่งหลับๆ ตื่นๆ ซักพักก็ถึงสนามบินนาริตะ คนค่อนข้างแน่นเต็ม Flight ให้เค้าทยอยลงกันไปก่อน

ลงมาผ่าน ตม. รับกระเป๋ากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็มา งงๆ ทางกันต่อ ลุยๆๆ 💨💨

ได้ตั๋วมาแล้ว แต่ว่าโรงแรมเราอยู่ที่ไหน สถานีอะไรนะ งง..กันละซิทีนี้ 🧐

สุดท้าย ท้ายสุดเราก็มาถึงโรงแรมจนได้ คือ 👉🏻👉🏻Hotel Horidome Villa เราจองผ่าน Traveloka ราคาประมาณคืนละ 2,000++ ค่ะ

พอมาถึง Chck-in เก็บกระเป๋า ก็ออกมาหาอะไรรองท้องกันก่อนนอนจะได้หลับสบาย แต่ด้วยความที่เรานอนออกไปนอกเมืองเลยไม่ค่อยมีอะไรทานมากนัก เลยไปจบที่ข้าวหน้าเนื้อ+ไข่ดิบ อร่อยใช้ได้เลยค่ะ

Wifi ที่เราเช่าไปในครั้งนี้คือ Samurai Wafi อยู่ที่ราคาวันละ 150 บาท แล้วก็มีค่าประกันเครื่องอีก 320 บาทค่ะ

ไอ้เราก็กลัวจะไม่อิ่ม เลยแวะ 7/11 ซะหน่อยมีอะไรไม่เหมือนบ้านเราบ้าง เลยได้ไอติมแตงโม มาในราคา 216 เยน ไอติมคือดีอ่ะ มี Texture กรุ๊บๆ คล้ายๆ ข้าวพองในไอติมด้วย ฟินเบอร์ 10

เอ๊ะๆ เดี๋ยวๆ มีสิ่งนี้ติดมือมาได้อย่างไร ...🤔 หลับสบายแน่ๆ คืนนี้ ..zZZ

แฮร่!! รีบตื่นแต่เช้า เตรียมตัวไปเที่ยวกัน เราไปขึ้นรถที่สถานี Tobu-Asakusa Station ใกล้ๆ วัดอาซากุซะ แต่ยังไม่ถึงเวลาเลยไปเดินเล่นก่อน มาแต่เช้าร้านค้าต่างๆ ยังไม่เปิดกันเลย

เตรียมตัวขึ้นรถไฟกันคร๊า ...🚅💨💨

ถึงแล้วสถานี Nikko เราต้องเลือกซื้อ Pass ว่าจะเที่ยวโซนไหน เราเลยเลือกเที่ยวแค่โซนมรดก [ World Heritage Site ] ขึ้นสถานีที่ Bus 2B เดินออกจากสถานีมาก็เจอเลยค่ะ

ถึงแล้วครัช ลงป้ายรถบัสแรก อยากบอกว่าอากาศดีมากๆ Nikko โซนมรดกโลก ส่วนใหญ่จะเป็นวัด เสียค่าเข้าตามวัดเป็นจุดๆ ไป แต่เราไม่ค่อยได้เข้า เดินเสพบรรยากาศข้างนอกพอ

บริเวณในส่วนต่างๆ ของวัด มีรูปปั้นน่ารักเชียว

ดอกไม้ ใบหญ้า สดชื่นมาก ...🍃

จุด Highlight ของเราคือ สะพาน Shinkyo สะพานแดงทอดยาว ข้ามแม่น้ำสีเขียวใสตัดกับสะพาน ถ้าจะขึ้นไปเสียค่าบำรุงสะพาน 300 เยนค่ะ

มีร้านกิมโมโน และยูคาตะ ให้เช่าด้วย แต่เรามีเวลาไม่มาก เลยอดใส่ 😭

ฝาท่อน่ารักๆ อีกนึงกิมมิคของประเทศญี่ปุ่น

ระหว่างทางเดินกลับสถานี เพราะขี้เกียดรอรถบัส เจอร้านชามนมไข่มุก ขอบอกว่าอร่อยมาก

ก่อนกลับกลัวจะหิว เพราะรถไฟวิ่งประมาณ 2 ชั่วโมง เลยจัดราเมงกันไปเบาๆ

แต่ถ้าหิว บนรถไฟ 🚅... มีอาหารจำหน่ายนะเออ 🤤

กลับมาถึงยังไม่เย็นมาก เราก็เลยไปเดินแถววัดอาสะกุซะกันต่อ เพื่อทานเจ้าปังเมล่อนนน

แท่น แท๊น!! มาแล้วเจ้าปังเมล่อนในตำนาน 😵

ต่อด้วยไดฟุกุ สตอเบอรี่อีกชักชิ้น 🍓

ยัง!! เรายังไม่อิ่ม เดินหมุนไป หมุนมา เจอซูชิสายพาน หิวคิวยาวๆ เอาว่ะ น่าสนใจ เลยเข้าไปเขียนคิวแบบ งงๆ ลงแค่ตัวเลขว่า 2 Seat

มาถึงคิว เค้าก็ให้มีมอนอเตอร์ มาให้นั่งจิ้มๆ เลือกๆ เราก็เลือกแบบงูๆ ปลาๆ ไป

แอ่น แอ๊น!! หน้าตาที่ได้ก็จะออกมาประมาณนี้ สด อร่อยมาก ค่ะ

อิ่มแล้ว เดินย่อยกันหน่อยดีกว่า เลยได้ภาพยามค่ำคืนของวัดอาสะกุซะมาฝากเพื่อนๆ ก่อนปิดทริปคืนนี้ ฝากทริปวันต่อไปที่ Kawaguchiko กันด้วยนะค๊า ...