จากปัญหารถติดวินาศเมื่อ 10 พ.ย.60 ที่ผ่านมา ขอเสนอสาเหตุ และทางแก้ปัญหา ดังนี้
ปัญหารถติดใน กทม. นี้ ถ้าเปรียบเป็นคนไข้อาการหนัก ผมว่าตอนนี้ต้องนิมนต์พระมารับที่หน้าห้องดับจิตได้แล้ว ว่ากันตามตรงคือมันไม่มีทางแก้ไข และยังมีสถิติยืนยันอีกว่า กทม. รถติดอันดับ 1 ของโลก
หากจะบอกว่ารถติดกับเมืองใหญ่ๆ เป็นของคู่กัน ผมไม่เถียง แต่เมืองใหญ่ๆ เมืองอื่นของโลก เขาวางระบบดีทีเดียว เอาเมืองที่ผมไปเห็นมา เช่น โตเกียว เขามีระบบขนส่งสาธารณะดีมาก ไม่ว่าการทำจุดจอดแล้วจร มาต่อรถไฟฟ้า ไปต่อรถเมล์ เขาทำระบบเชื่อมถึงกัน ทำให้ลดระยะเวลาในการเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนได้ระดับหนึ่ง โซล นอกจากมีรถไฟฟ้าแล้ว เขายังมีช่องเดินรถสาธารณะ ซึ่งรถเมล์ รถรับจ้างไม่ประจำทาง เขาใช้ช่องนี้ ซึ่งถือเป็นการรณรงค์ให้คนหันมาใช้รถสาธารณะกลายๆ เป่ยจิง และซังห่าย การจราจรของที่นี่ขับรถอันตรายมาก ก็ทำให้คนส่วนหนึ่งไปใช้รถไฟฟ้า ซึ่งทำให้ปัญหารถติดมันลดลง ปารีส นี่คือมหานครใหญ่แห่งหนึ่งของโลก ที่นี่รถติดเหมือนกัน แต่ถนนทั้งเส้นเวลาไฟแดง จะแดงทั้งเส้น เวลาไฟเขียวจะเขียวทั้งเส้น ในเขตทางม้าลายเวลามีคนข้ามถนน รถทุกคันจะหยุดให้คนข้าม และถ้าจุดไหนมีสัญญาณไฟให้คนข้ามทุกคนจะข้ามถนนพร้อมกัน ส่วนรถไฟฟ้า เขาเป็นโครงข่ายเหมือนเมืองใหญ่ๆ เช่นเดียวกับ โตเกียว โซล เป่ยจิง ซังห่าย
มาดูที่เมืองสำคัญกันบ้าง ลูเซิร์น ในสวิตเซอร์แลนด์ ป้ายรถเมล์เขามีป้ายบอกว่ารถเมล์สายไหนจะมาในอีกกี่นาที ทำให้ผู้โดยสารไม่ต้องรอนาน เหมือนรถเมล์ใน กทม. เป็นไปได้ยังไงที่มีคนดังโพสต์ข้อความว่า “รอ 2 ชั่วโมง รถเมล์ไม่มี” สตราสบูร์ก เมืองนี้มีทางจักรยานขนานไปกับทางเดินเท้า แต่จะมีรั้วกั้น ยกเว้นตอนเดินผ่านทางจักรยาน ต้องระมัดระวังกันและกัน แต่ใน กทม. มีถนนเส้นเดียวเท่านั้นคือเส้นเลียบด่วนรามอินทรา-เอกมัย ที่มีทางจักรยาน
ปัญหาตอนนี้ของ กทม. ถ้าไม่อยากให้รถติดต้องเลิกใช้รถยนต์ส่วนบุคคล หันมาใช้รถสาธารณะแทน ถึงแม้ประเทศไทยจะอากาศร้อนตลอดปี ยิ่งในช่วงเดือนเมษายนร้อนกว่าในตะวันออกกลาง (มโนหน่อย) ก็ต้องเดินเท้าซัก 1-2 กิโลเมตร หรือถีบจักรยาน (ถ้าไม่กลัวโจรลักจักรยาน) มาขึ้นรถสาธารณะ และเดินทางไปทำงาน พอถึงที่ทำงานก็เดินอีกเล็กน้อย สุขภาพกายก็จะดี สุขภาพจิตก็ดีตาม เพราะปัญหารถติดมันลดลง
ข้อเสนอแนะ คสช. ต้องใช้มาตรา 44 ดำเนินการดังนี้
1 กำหนดห้ามรถที่มีอายุเกิน 5 ปี วิ่งบนท้องถนนใน กทม.
2 ดำเนินการปรับปรุงทางเดินเท้าให้มีช่องทางเฉพาะสำหรับรถจักรยาน และต้องไม่มีหาบเร่ แผงลอยบนทางเดินเท้า
3 ส่งเสริมให้ประชาชนมาใช้ขนส่งสาธารณะแทน โดยทำระบบตั๋วร่วมทั้งรถเมล์ เรือ รถไฟฟ้า ให้เป็นรูปธรรม
4 รถไฟฟ้าต้องเก็บค่าโดยสารในราคา 20 บาทตลอดสายทุกเส้นทาง
5 ปรับปรุงป้ายรถเมล์ ให้มีป้ายบอกสายรถเมล์ และรถเมล์ทุกค้นต้องวิ่งเลนซ้ายและห้ามแซง
6 ยกเลิกรถร้อน ใช้รถปรับอากาศ เก็บค่าโดยสาร 10 บาทตลอดสายทุกเส้นทาง
ตีแสกหน้า ปัญหารถติดใน กทม.
ปัญหารถติดใน กทม. นี้ ถ้าเปรียบเป็นคนไข้อาการหนัก ผมว่าตอนนี้ต้องนิมนต์พระมารับที่หน้าห้องดับจิตได้แล้ว ว่ากันตามตรงคือมันไม่มีทางแก้ไข และยังมีสถิติยืนยันอีกว่า กทม. รถติดอันดับ 1 ของโลก
หากจะบอกว่ารถติดกับเมืองใหญ่ๆ เป็นของคู่กัน ผมไม่เถียง แต่เมืองใหญ่ๆ เมืองอื่นของโลก เขาวางระบบดีทีเดียว เอาเมืองที่ผมไปเห็นมา เช่น โตเกียว เขามีระบบขนส่งสาธารณะดีมาก ไม่ว่าการทำจุดจอดแล้วจร มาต่อรถไฟฟ้า ไปต่อรถเมล์ เขาทำระบบเชื่อมถึงกัน ทำให้ลดระยะเวลาในการเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนได้ระดับหนึ่ง โซล นอกจากมีรถไฟฟ้าแล้ว เขายังมีช่องเดินรถสาธารณะ ซึ่งรถเมล์ รถรับจ้างไม่ประจำทาง เขาใช้ช่องนี้ ซึ่งถือเป็นการรณรงค์ให้คนหันมาใช้รถสาธารณะกลายๆ เป่ยจิง และซังห่าย การจราจรของที่นี่ขับรถอันตรายมาก ก็ทำให้คนส่วนหนึ่งไปใช้รถไฟฟ้า ซึ่งทำให้ปัญหารถติดมันลดลง ปารีส นี่คือมหานครใหญ่แห่งหนึ่งของโลก ที่นี่รถติดเหมือนกัน แต่ถนนทั้งเส้นเวลาไฟแดง จะแดงทั้งเส้น เวลาไฟเขียวจะเขียวทั้งเส้น ในเขตทางม้าลายเวลามีคนข้ามถนน รถทุกคันจะหยุดให้คนข้าม และถ้าจุดไหนมีสัญญาณไฟให้คนข้ามทุกคนจะข้ามถนนพร้อมกัน ส่วนรถไฟฟ้า เขาเป็นโครงข่ายเหมือนเมืองใหญ่ๆ เช่นเดียวกับ โตเกียว โซล เป่ยจิง ซังห่าย
มาดูที่เมืองสำคัญกันบ้าง ลูเซิร์น ในสวิตเซอร์แลนด์ ป้ายรถเมล์เขามีป้ายบอกว่ารถเมล์สายไหนจะมาในอีกกี่นาที ทำให้ผู้โดยสารไม่ต้องรอนาน เหมือนรถเมล์ใน กทม. เป็นไปได้ยังไงที่มีคนดังโพสต์ข้อความว่า “รอ 2 ชั่วโมง รถเมล์ไม่มี” สตราสบูร์ก เมืองนี้มีทางจักรยานขนานไปกับทางเดินเท้า แต่จะมีรั้วกั้น ยกเว้นตอนเดินผ่านทางจักรยาน ต้องระมัดระวังกันและกัน แต่ใน กทม. มีถนนเส้นเดียวเท่านั้นคือเส้นเลียบด่วนรามอินทรา-เอกมัย ที่มีทางจักรยาน
ปัญหาตอนนี้ของ กทม. ถ้าไม่อยากให้รถติดต้องเลิกใช้รถยนต์ส่วนบุคคล หันมาใช้รถสาธารณะแทน ถึงแม้ประเทศไทยจะอากาศร้อนตลอดปี ยิ่งในช่วงเดือนเมษายนร้อนกว่าในตะวันออกกลาง (มโนหน่อย) ก็ต้องเดินเท้าซัก 1-2 กิโลเมตร หรือถีบจักรยาน (ถ้าไม่กลัวโจรลักจักรยาน) มาขึ้นรถสาธารณะ และเดินทางไปทำงาน พอถึงที่ทำงานก็เดินอีกเล็กน้อย สุขภาพกายก็จะดี สุขภาพจิตก็ดีตาม เพราะปัญหารถติดมันลดลง
ข้อเสนอแนะ คสช. ต้องใช้มาตรา 44 ดำเนินการดังนี้
1 กำหนดห้ามรถที่มีอายุเกิน 5 ปี วิ่งบนท้องถนนใน กทม.
2 ดำเนินการปรับปรุงทางเดินเท้าให้มีช่องทางเฉพาะสำหรับรถจักรยาน และต้องไม่มีหาบเร่ แผงลอยบนทางเดินเท้า
3 ส่งเสริมให้ประชาชนมาใช้ขนส่งสาธารณะแทน โดยทำระบบตั๋วร่วมทั้งรถเมล์ เรือ รถไฟฟ้า ให้เป็นรูปธรรม
4 รถไฟฟ้าต้องเก็บค่าโดยสารในราคา 20 บาทตลอดสายทุกเส้นทาง
5 ปรับปรุงป้ายรถเมล์ ให้มีป้ายบอกสายรถเมล์ และรถเมล์ทุกค้นต้องวิ่งเลนซ้ายและห้ามแซง
6 ยกเลิกรถร้อน ใช้รถปรับอากาศ เก็บค่าโดยสาร 10 บาทตลอดสายทุกเส้นทาง