[CR] เล่นน้ำ นอนแพ เดอะฟอร์เรสรีสอร์ท กาญจนบุรี

ไปกาญนอนแพที่เดอะฟอร์เรสรีสอร์ท
        
         ทริปนี้ตั้งแต่เดือนสิงหาโน้นน แต่ยังไงก็อยากให้เพื่อนๆพาครอบครัว จับมือแฟน หรือมัดเดอะแก๊งค์รวมกันไปเฮฮาปาร์ตี้กันสักครั้ง มันสนุกน้ะเว้ย ส่วนเรานั้นกอดคอกับเพื่อนไปกัน 2 คน แต่แกรู้มั้ยมันให้เราไปทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ไปนอนฟังเสียงน้ำไหลทั้งคืน ไปตื่นดูหมอกตอนเช้า ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด อากาศแบบนี้ที่กรุงเทพเทพจะหาไม่ได้เลยน้ะ ไปกระโดดน้ำลอยตัวเป็นกิโลมาพร้อมกับเพื่อนๆนักท่องเที่ยว ไปเล่นสไลเดอร์ที่คนอื่นอาจจะได้เล่นหลายรอบแต่เรากับเพื่อนคนละรอบก็คุ้มแล้ว ไปให้อาหารปลาดูน้ำใสๆ ทุกอย่างที่นี่ทำให้หัวใจเรากระชุ่มกระชวย
        
        แล้วทริปนี้เกิดขึ้นเพราะความอยากเล่นน้ำ  เลยหาข้อมูลกันจากในพันทิปนี่แหละ ก็ตัดสินใจไปที่กาญจนบุรี แล้วก็โทรไปหาทางรีสอร์ท สรุปออกมาว่า วันเสาร์ตรงกับวันแม่ ไม่มีห้องว่าง มีห้องว่างวันศุกร์ แล้วค่าที่พักก็เพิ่มขึ้นนี่ก็เป็นปกติอยู่แล้ว ช่วงเทศกาล ช่วงเสาร์อาทิตย์ ช่วงวันธรรมดาก็จะอีกราคานึง แต่เรากับเพื่อนก็ไม่รีรออะไรตัดสินใจตกลง แล้วก็จ่ายมัดจำครึ่งนึงให้กับทางรีสอร์ทตอนนั้นเลย เหลือแค่รอวันไป ด้วยความที่งบน้อย เราเลยนั่งรถไฟชิคๆ ชมธรรมชาติ กันไป
。
。
。
ไปจ้า เราไปนั่งรถไฟ เล่นน้ำ กินอาหารบุฟเฟ่ต์ นอนแพ กันดีกว่าาาา
                                                                               เราออกเดินทาง 6:55 น. มาถึงสถานีรถไฟธนบุรี เวลา 7: 20 น.
          สองเท้ารีบเร่ง วิ่งไปซื้อตั๋ว ด่วนๆ ซื้อตั๋วเสร็จกะจะไปซื้อผลไม้ที่ตลาดใกล้สถานีรถไฟมาไว้กินบนรถไฟ พาป้อนไปตู้เอทีเอ็ม คุณลุงกดอยู่นานมาก จน 7:40 น. รถไฟออก 7:50น. เออนั้นฝค่อยไปฝากท้องบนรถไฟก็แล้วกัน
                                                                                          สักหน่อยก่อนขึ้นรถไฟ
นี่คือหนูน้อยเพื่อนร่วมทางของเรา เราฟังเขาพูดไม่รู้เรื่องเขาก็ฟังเราพูดไม่รู้เรื่องเหมือนกันเขาไม่ได้พูดภาษาอังกฤษนั้นเราก็ได้แต่ยิ้มให้กันอย่างเดียว สยามเมืองยิ้มมม
ระหว่างทางกิน ดูวิว แล้วก็หลับๆตื่นๆ รู้อีกทีก็ถึงกาญจนบุรีแล้ว เย้🤓 นี่พึ่งจะสิบโมงกว่าๆเอง ก็มีเลทบ้างเล็กน้อย เอาวะอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะถึงสถานีน้ำตกแล้ว
ตรงนี้น่าจะเป็นไฮไลท์อีกที่หนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการรถไฟ พอถึงตรงนี้ต่างกันต่างหยิบกล้องกันขึ้นมาถ่ายภาพรัวๆ เราก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน
ถ้ำกระแซ 🛤 เหลืออีก 3 สถานีก็ถึงน้ำตกล้าวววว
มากาญครั้งนี้สำหรับเราเกินคาดนะ เราไม่เคยคิดเลยว่าที่กาญจะมีภูเขาเยอะขนาดนี้ หันไปทางซ้ายก็เขาหันไปทางขวาก็เขา สลับสูงต่ำกันไปไกลสุดลูกหูลูกตาเลย 🌄
นี่ก็ใกล้จะถึงแหล้ะ ตลอดทางที่ผ่านมาเราก็อดคิดไม่ได้ นี่เราพาตัวเองมาปล่อยคืนสู่ธรรมชาติรึเปล่า 55555 ป่าเยอะมาก คือธรรมชาติเลยแหละ นั้นก็หายใจเข้าเอ้าหายใจออก เฮ้อออออ ชื่นใจจังงงงง
เย้เย้ เที่ยงกว่าๆเราก็ถึงสถานีน้ำตกเป็นที่เรียบร้อย แต่ลืมถ่ายตอนนั้นมัวแต่จะไปต่อกันยังไง ตอนแรกจะขึ้นรถสองแถว 20 บาทจากสถานีน้ำตกมาลงแถวต้นหูกวาง แล้วต่อด้วยรถเมล์สีแดงอีก 50 บาท รถจะมาทุกชั่วโมง ตามที่เข้าไปอ่านในรีวิว แต่รถไฟที่มาในวันนี้มาถึงเร็วกว่าที่อ่านในรีวิว พอได้ยินคนที่ถามว่าไป the forest เราเลยเข้าไปถาม เขาก็บอกว่าต้องเหมาไป หันมองหน้ากับป้อน เราก็คิดนะจะเหมายังไงมากัน 2 คน ประหยัดงบไง โอเคนั้นไปขึ้นรถสองแถว ไม่รู้ความบังเอิญหรือฟ้าลิขิตคนขับรถอีกคนเดินมาถามอีกน้องๆไปมั้ย เนี่ยคนละ 100 รวมกับน้องกลุ่มนี้ไปเลย ไม่ตัดสินใจอะไรมากไปคะ แล้วก็เดินไปขึ้นรถเลย 5 คน ทางที่ไปรีสอร์ทก็ไกลไม่ใช่เล่น ทางโล้งโล่งมากจิงๆ สงบดีนะ ชอบ เลยได้รูปนี้มาระหว่างทางที่ไป
บ่ายโมงกว่ารถสองแถวคันนี้ก็มาส่งเราถึงรีสอร์ทอย่างปลอดภัย
ฮู้วววววววว😑 อยากเล่นน้ำแล้ว น้ำใส ไหลเย็น เห็นตัวปลา 🐟🐟
เรามาถึงจุดเช็คอิน ตอนบ่ายโมงสี่สิบกว่านาที แจ้งชื่อ มัดจำค่ากุญแจ นั่งรอรับกุญแจตอนบ่ายสองจ้าา ระหว่างนั้น ดื่มด่ำกับธรรมชาติไปก่อน
คือมันดีมี 2 เตียง มา 2 คน 😀😀 มีแอร์ มีพัดลม มีห้องน้ำในตัวมีเครื่องทำน้ำอุ่น แค่นี้ก็สิบสิบสิบไปเลยค่าาาาาา
หน้าห้องก็มีเปลให้ทุกห้อง แต่ก็กลัวตกลงในน้ำนะ ไม่กล้าแกว่ง นี่ก็รอเวลาสี่โมงเย็นไปล่องแพตามกิจกรรมที่รีสอร์ทเขาจัดไว้ให้ 1 กิโล แล้วปล่อยให้เราลอยตัวกลับมายังที่พัก น้ำเย็น มีทั้งลึกตั้งตื้น แต่เรามีชูชีท แล้วก็อยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่เพราะเจ้าหน้าก็จะลอยตัวกลับมากับเรา 👩👩
รอเวลาบุฟเฟ่ต์ ตอน 6:30 น.
หลังจากเล่นน้ำมาเต็มที่ มานั่งรอก็เริ่มหิวแล้ว 18:30 ปุ๊ปก็จัดเลยสิ่คะ อาหารที่นี่อร่อยในระดับนึงเลยน้ะ ถ่ายไม่ทันเพราะความหิวมาแรงกว่า ถ่ายทันก็ตอนขนมหวานนี่แหละ มื้อนี้อิ่มแปร่เลย หลับสบายยย
สวัสดีเช้าวันที่ 12 สิงหา เห็นหมอกนั้นไหม สูดอากาศหายใจเข้าปอดแรงๆ อากาศไม่หนาวมากกำลังดี ปลื้มมม 🤗
เรื่องกินขอให้บอกเช้าแค่ไหนก็จะตื่น ได้เวลาอาหารเช้าแล้วว กินกินกิน ปิดท้ายด้วยสับปะรดจิ้มเกลือ สบายท้องกันไปเลยอะ 55555555
พี่แกเล่นน้ำกันใหญ่เลย โชว์พลังการดำน้ำให้เรากับเพื่อนดูด้วย น่ารักจิงๆ
10 โมงเราเช็คเอ้าท์ออก ก็มีรถของทางรีสอร์ทมาส่งที่ศาลาตรงทางเข้า รอรถเมล์ไปลงที่น้ำตกแถวๆทางเข้าสถานีรถไฟแล้วเราก็ต่อรถสองแถวเข้าไปถึงสถานีรถไฟน้ำตก
ถึงแล้วจ้าาา ถึงก่อนเวลาไปหาข้าวแถวสถานีรถไฟกินกันจัดไปคนละจานกระเพราหมูกะเพราะไก่ ฟาดเรียบ ราคาก็ 35 บาท ถึงเวลาเที่ยงห้าสิบห้าเจ้าหน้าที่ประกาศรถไฟจะมาถึงตอนบ่ายโมงสิบห้า จ้าเลทจ้า🙃 นั้นก็บ๊ายบ๊ายกาญจนบุรีถ้ามีโอกาสเราจะมาหาเจ้าใหม่ทริปนี้ก็ดีต่อใจ ความรู้สึกแต่ละครั้งที่ออกเดินทางมันย่อมต่างกัน ความทรงจำของแต่ละที่ก็คนละแบบ พอดูรวมๆตังในกระเป๋าแล้วก็แฮปปี้
ปู๊นปู๊นนนนนนน 🚂 แดดประเทศไทยร้อนเหลือเกิน ใกล้ถึงกรุงเทพแล้ว จอดอยู่ที่สถานีรถไฟศาลายา นานพอสมควร แต่ก็มาถึงสถานีธนบุรีไม่ค่ำ วุ่นวายอีกแล้วสิ

คุณรู้มั้ยว่าระหว่างทางที่เราเดินทางไป มันก็จะมีความรู้สึกที่ต่างกัน บนรถไฟก็ได้เจอคนมากหน้าหลายตา มีบ้างที่รำคาน มีบ้างที่มีคุณป้าแบบมนุษย์ป้า มีบ้างที่มีกลุ่มคนที่ไปเที่ยวเอะอะโวยวาย แต่ก็งี้แหละ สีสันของชีวิต ได้พบเจออะไรใหม่ๆ คนเรามีหน้าที่ต้องทำ ต้องรับผิดชอบ แต่ถ้ามีโอกาสก็ออกไปดู ไปใช้ชีวิต ไปลุย ไปให้รู้ว่าการเรียนอยู่มหาลัยไม่ได้มีแค่ อาคารเรียน ห้องสมุด โรงอาหาร หอพัก ห้าง บลาๆ แต่ยังมีอะไรอีกมากมายที่รอให้เราไปสัมผัส ไปเติมเต็มให้ชีวิต อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าคนที่นั่นเขาใช้ชีวิตกันยังไง คิดอะไร มันทำให้เรามองโลกได้กว้างขึ้น ชีวิตจะเรียบง่ายขึ้น เพราะไม่ว่าที่ไหนก็ย่อมมีอุปสรรคหรือปัญหาให้เราแก้อยู่เสมอ เราถึงชอบการเดินทาง ตลอดเส้นทางสองข้างทางก็เต็มไปด้วยธรรมชาติ ชุมชน ที่มีให้เราได้ตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา 💚

สรุปค่าใช้จ่าย
ค่ารถเมล์ 9 บาท
ค่ารถกระป๋อง 7 บาท
ค่ารถไฟไปกลับฟรี
ค่าเหมารถสองแถว 100
ค่าที่พัก รวมบุฟเฟ่ต์เช้าเย็น รวมกิจกรรมบนแพ 1,200
ค่ามาม่า ค่าขนมตรงที่พัก 60
ค่ารถเมล์จากทางเข้ารีสอร์ทไปลงแถวทางเข้าสถานีรถไฟ 40
ค่ารถสองแถวไปถึงสถานีรถไฟ 20
ค่าน้ำ ค่ากระดาษทิชชู่ 15
ค่าข้าวกระเพราะหมู 35
ค่าน้ำโค้กบนรถไฟ 25
ค่าก๋วยเตี๋ยวบนรถไฟ 2 ห่อ 20
ค่ารถกระป๋องกลับหอ 7 บาท
รวมค่าใช้จ่าย 2วัน1คืน 1,538 บาท