คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
1. ปกติสายดินเป็นสีเขียว ลองเอาปากกาวัดไฟลองวัดดูครับว่าไม่มีไฟในระบบจริงๆ
เพราะถ้ามีนั่นแปลว่า มีกระแสไฟในสายและสายดินอาจไม่ลงดินจริง
ถ้าเป็นสายดินจริงๆก็ต่อได้ครับ (ซึ่งความเป็นจริงและเป็นไปได้ ควรมีของตัวเองต่างหาก)
2. ถ้าสายไฟที่กำแพงใหญ่พอก็ต่อได้ครับ เล็กสุดที่พอได้คือ 2 x 2.5 แต่แนะนำ 2 x 4 ขึ้นไป
หรือต่อจาก มิเตอร์ โดยตรง
ตัวอย่าง คำนวณ
สำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นขนาด 3300 W (ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นใช้งานพร้อมกัน)
คิดเป็น 3300 / 220 = 15 A เผื่อ 25% = 18.75 A ซึ่งสายไฟ 2 x 2.5 ทนกระแสได้ ประมาณ 20 A
มันใกล้ขีดจำกัดเกินไป
ส่วน 3 ควรมี เบรกเกอร์แยก ภายนอกอย่างมากครับ จะแบบธรรมดา หรือกันไฟดูดก็แล้วแต่
เพราะถ้ามีนั่นแปลว่า มีกระแสไฟในสายและสายดินอาจไม่ลงดินจริง
ถ้าเป็นสายดินจริงๆก็ต่อได้ครับ (ซึ่งความเป็นจริงและเป็นไปได้ ควรมีของตัวเองต่างหาก)
2. ถ้าสายไฟที่กำแพงใหญ่พอก็ต่อได้ครับ เล็กสุดที่พอได้คือ 2 x 2.5 แต่แนะนำ 2 x 4 ขึ้นไป
หรือต่อจาก มิเตอร์ โดยตรง
ตัวอย่าง คำนวณ
สำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นขนาด 3300 W (ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นใช้งานพร้อมกัน)
คิดเป็น 3300 / 220 = 15 A เผื่อ 25% = 18.75 A ซึ่งสายไฟ 2 x 2.5 ทนกระแสได้ ประมาณ 20 A
มันใกล้ขีดจำกัดเกินไป
ส่วน 3 ควรมี เบรกเกอร์แยก ภายนอกอย่างมากครับ จะแบบธรรมดา หรือกันไฟดูดก็แล้วแต่
แสดงความคิดเห็น
ขอถามเรื่องการต่อสายดินกับเครื่องทำน้ำอุ่นครับ
1. ผมสามารถต่อสายดิน ( G ) จากเครื่องทำน้ำอุ่น มาจั๊บมาสายดินปลั๊กข้างกำแพงเลยได้หรือไม่ครับ ( ถ้าไม่ได้ควรต่อสายดินยังไงดีครับ )
2. สายที่มีไฟ ( N L ) สามารถต่อพ่วงจากปลั๊กกำแพงได้หรือไม่ครับ หรือควรเดินสายจากมิเตอร์หมุนหน้าห้องโดยตรง ( กล่องรวมไฟของหอพัก อยู่ไกลจากห้องมาก )
3. เครื่องที่ผมชื้อ panasonic มีเบรกเกอร์ ELB อยู่ในตัว แต่ใจอยากชื้อ ตัว ELCB เพิ่มอีกตัวติดหน้าห้องน้ำ ความคิดนี้ถูกหรือไม่ครับ