[CR] ออกไปแตะขอบฟรานซ์ สุดท้ายความพยายามก็พาเราไป Ep.1

จากกระทู้ที่แล้ว https://pantip.com/topic/37057551"เมื่อโดนทัวร์เท France Belgium Netherlands คือจุดหมาย (เตรียมตัวก่อนการเดินทาง) Ep.0"ที่ได้เตรียมพร้อมก่อนการเดินทาง  ต่อไปจะเป็นการนำเสนอการเดินทางที่ผ่านมาโดยเริ่มจากประเทศฝรั่งเศสเป็นจุดหมายปลายทางแรกของเราครับ
23 September 2017
เราได้เดินทางกับสายการบิน Qatar Airways QR 833 BKK-DOH เวลา 21.15 น. ถึงโดฮา 0.00 น. เมื่อถึงแล้วจะไม่มีการ Scan ร่างกายและสัมภาระติดตัวใดๆ ทั้งสิ้น
24 September 2017 (Day 1)
สนามบิน Hamad International Airport แห่งนี้เป็นสนามบินที่ใช้เดินทางภายประเทศกาตาร์และ Transit ไปยังประเทศอื่นๆ ไฮไลท์สำคัญของสนามบินคงหนีไม่พ้นเจ้า”หมีเหลือง” อวดโฉมให้กับชาวโลกได้ชมกัน

เจ้าหมีเหลืองของ Hamad International Airport

สัญลักษณ์บอกทางไป Gate C D และ E

ในการ Transit ระยะทางระหว่าง Gate A B C D E ไม่ห่างกันมากพอดีเดินถึงกันได้ แต่ด้วยความโชคดีของเรา เครื่องบินจาก BKK เข้า Gate C3 แล้วเครื่องบินที่จะไปปารีสอยู่ที่ Gate C1 พอดี เมื่อถึงเวลา 01.20 ได้เวลาเหินฟ้าไปมหานครปารีสจนถึง 07.00 น.  เมื่อถึงสนามบิน  Charles de Gaulle Airport เครื่องบินของสายการบิน Qatar Airways จะจอดที่ Terminal 1 เมื่อผ่านการประทับตรา Passport เรียบร้อยแล้ว ก็รอรับกระเป๋าพบว่ากระเป๋าเราได้รับครบทุกประการเพราะทาง Qatar Airways มี Tag สีส้ม Rapid Transfer สำหรับผู้ที่มีเวลาในการ Transit น้อย จากนั้นก็ไปที่ Arrival Level Gate 4 เพื่อไปรับตั๋ว Carnet (10 ใบใช้ได้กับ Metro, Bus ในโซน 1-2) และตั๋ว Roissy bus ที่ได้จองออนไลน์ไว้ตรง Tourist Information ของ Paris Aeroport (ข้อเสียของการจองออนไลน์ แล้วไปรับตอนเช้า คือการต่อแถวของนักท่องเที่ยวที่ยาวเหยียดและเจ้าหน้าที่ที่มาสายทำให้มีเจ้าหน้าที่รับเรื่องอยู่เพียง 1 คน) ทำให้ได้ตั๋วประมาณเกือบเก้าโมง

Rapid Transfer Tag สีส้ม รูปภาพจาก www.hobotraveler.com


Counter รับตั๋ว Carnet ที่ Terminal 1 Gate 4 รูปภาพจาก http://www.hotels-roissy-tourisme.com


รูปภาพ Carnet Ticket ใช้ได้แค่ครั้งเดียว รูปภาพจาก www.transportshaker-wavestone.com


รูปภาพ Roissy Bus Ticket รูปภาพจาก www.helloparis.co.uk

จากนั้นไปที่ Gate 32 เพื่อขึ้น Roissy bus เข้าสู่ตัวเมืองปารีสโดยที่รถจะจอดที่ Palais Garnier (Opera) จากนั้นเราก็แวะถ่ายรูปชมโอเปร่าด้านนอกซักพัก ถึงไป Hotel Printemps ด้วย Metro สาย 8 (Balard) จากสถานี Opera ไปสถานี La Motte-Picquet – Grenelle แล้วเดินผ่านซอย  Rue du Commerce 300 เมตรก็ถึงโรงแรม Hotel Printemps ภายในห้องเป็นห้องเล็กเตียงเดี่ยวนอนได้ 2 คน มีห้องอาบน้ำในตัว ส่วนห้องขับถ่ายจะอยู่ด้านนอกของแต่ละชั้น ราคา 72 ยูโรต่อคน (รวม City Tax)

Roissy Bus เข้าสู่ตัวเมือง Paris รูปภาพจาก http://easycdg.com




สัมผัสแรกแห่งปารีสกับโรงอุปรากรปาแลการ์นีเย (Palais Garnier : Opera)



รูปห้องภายในโรงแรม Hotel Printemps และห้องน้ำพื้นที่ใช้สอยน้อยเหมาะสำหรับนักเที่ยวที่ต้องการประหยัดกระเป๋า รูปภาพจาก http://www.booking.com

จากนั้นเราเดินไปชมหอไอเฟล ผ่าน Pont Bir Hakiem แล้วเดินไปยัง Trocadéro จะพบว่ามีสัญลักษณ์ 5 ห่วง ณ จุดชมวิว Trocadéro แสดงถึงความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพของมหานครปารีสในมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติอย่างโอลิมปิกในปี ค.ศ 2024 แล้วเก็บภาพหอไอเฟลอยู่สักพัก “ถึงแม้ไม่ใช่สิ่งมหัศจรรย์ของโลก แต่ก็มีผู้คนทั่วโลกหลั่งไหลมันชมความงามเจ้าหอไอเฟลไม่ขาดสาย” ถึงแม้ในอดีตจะเป็นสิ่งก่อสร้างที่น่ารังเกียจ แต่ในปัจจุบันเป็นสิ่งก่อสร้างที่นักเดินทางทั่วโลกมีความใฝ่ฝันที่จะปักหมุดหรือ Check in เจ้าแลนด์มาร์คแห่งนี้ แม้กาลเวลาผ่านไปหอไฟลจะมีสีส้มอยู่บ้าง(สนิม) แต่ยังคงความมีเสน่ห์อยู่ตลอดเวลา”



ภาพหอไอเฟลบน Pont Bir Hakiem








ภาพหอไอเฟลบริเวณ Trocadéro

เดินเลียบแม่น้ำ Seine ไปยัง Pont Alexandre III เพื่อเก็บภาพ Les Invalides (ด้านหน้า) โดยที่ Pont Alexandre III เป็นสะพานเชื่อมสวยๆระหว่าง Les Invalides และถนน Champs-Élysées ขณะที่ Les Invalides เป็นสถานที่เก็บศพนโปเลียน โบนาปาร์ต อดีตจักรพรรดิแห่งฝรั่งเศส






Pont Alexandre III และรอบๆสะพาน
ชื่อสินค้า:   เที่ยวฝรั่งเศส
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่