ลำดับเหตุการณ์ คดีหั่น 9 ศพสุดสะเทือนขวัญในญี่ปุ่น (และวัฒนธรรมการหาเพื่อนร่วมตาย)


เมื่อวันฮาโลวีนที่ผ่านมา ทั่วโลกช็อคไปพร้อมๆ กันกับข่าวการจับกุมชายชาวญี่ปุ่นรายหนึ่ง
ที่ฆ่าหั่นศพ 9 รายและเก็บชิ้นส่วนต่างๆ ไว้ให้ห้องเช่าเล็กๆ ของตัวเอง
เราลองมาย้อนดูลำดับเหตุการณ์กันอีกครั้ง

คดีนี้เริ่มต้นจากคดีตามหาคนหาย

     หญิงสาววัย 23 ปีรายหนึ่งจากอำเภอฮะชิโอจิ กรุงโตเกียว ได้หายตัวไป
พี่ชายของเธอจึงเข้าแจ้งความคนหายกับสถานีตำรวจทะคะโอะ
เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมาว่าไม่สามารถติดต่อน้องสาวได้ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคมเป็นต้นมา
ซึ่งก่อนหน้านั้น ในวันที่ 20 กันยายนน้องสาวได้ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัว
ว่าอยากหาคนไปฆ่าตัวตายเป็นเพื่อน เพราะเธอกลัวที่จะตายแบบตัวคนเดียว
และหลังจากนั้นพี่ชายก็ใช้ยูเซอร์เนมและรหัสผ่านของน้องสาวล็อกอินเข้าคอมพิวเตอร์
ทำให้พบกับเว็บไซต์ฆ่าตัวตาย พี่ชายจึงเป็นห่วงและนำข้อมูลนี้มาแจ้งกับตำรวจ

     เมื่อตำรวจลงมือสืบสวน ก็พบภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้สถานี JR Hachioji
ว่าเธอนั่งรถไฟไปยังสถานีรถไฟ Sobudai-mae ในวันที่ 23 ตุลาคม
และพบว่าหญิงสาวคนนั้นไปพบกับ นายทะคะฮิโระ ชิระอิชิ
วัย 27 ปีที่สถานีนี้ก่อนจะเดินออกไปด้วยกัน


อพาร์ทเมนต์ของนายทะคะฮิโระ

จากคดีคนหาย นำไปสู่การค้นพบที่สะเทือนขวัญ

     เมื่อตำรวจมาถึงอพาร์ทเมนต์ของนายทะคะฮิโระในวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา
นายทะคะฮิโระอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนต์ให้เช่าขนาดเล็กที่มีเพียงหนึ่งห้องนอน
และหนึ่งห้องน้ำแคบๆ แต่ในห้องกลับพบชิ้นส่วนของมนุษย์มากมาย
จากเหยื่อ 9 ศพที่ถูกหั่นแยกเก็บไว้ในกระติกเก็บความเย็นหลายใบ
แถมมีทรายแมวโปรยไว้เพื่อพยายามกลบกลิ่น

     จากการสอบสวนขั้นต้นเชื่อว่าเหยื่อทั้ง 9 รายเป็นผู้หญิง 8 รายและผู้ชาย 1 ราย
และหลายชิ้นส่วนที่พบก็น่าจะเป็นของหญิงสาววัย 23 รายนั้นด้วยค่ะ
นายทะคะฮิโระให้การในเบื้องต้นว่าเขาลงมือฆ่าเหยื่อทั้ง 9 รายเอง
และเริ่มต้นฆ่าตั้งแต่เขาย้ายมาที่อพาร์ทเมนต์แห่งนี้ในวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมาเลย
เขาบอกด้วยว่าเขาลงมือฆ่าในวันเดียวกับวันที่เจอเหยื่อเลยด้วย
(เหยื่อผู้ชายเป็นแฟนหนุ่มของเหยื่อผู้หญิงคนหนึ่ง เมื่อแฟนสาวหายไป
เขาจึงพยายามสืบหา แล้วก็มาเจอกับนายทะคะฮิโระในที่สุด นายทะคะฮิโระจึงฆ่าเขา)

     เขาให้การว่าเขารู้จักกับเหยื่อแต่ละคนผ่านทวิตเตอร์
เมื่อเจอคนที่ทวีตว่าอยากฆ่าตัวตายก็จะล่อหลอกให้คุยด้วยจนเหยื่อไว้ใจ
โดยเสนอตัวว่าจะช่วยให้เหยื่อฆ่าตัวตายได้สำเร็จ จากนั้นเหยื่อก็จะตกลงยอมมาด้วย
จนถึงอพาร์ทเมนต์ของเขา แต่เมื่อเหยื่อมาถึงจริงๆ
แล้วเขาก็ไม่ได้ช่วยให้เหยื่อฆ่าตัวตายสำเร็จแบบง่ายๆ เขายอมรับว่า
เขาทำร้ายร่างกายเหยื่อผู้หญิงบางคนเพราะจะข่มขืนเหยื่อก่อน
นอกจากนี้เงินก็เป็นอีกสาเหตุในการฆ่าด้วยเช่นกัน
เขามักจะขโมยเงินของเหยื่อมาด้วย เขาเสริมด้วยว่า
ได้เงินจากเหยื่อรายหนึ่งมากถึง 5 แสนเยน

     ชิ้นส่วนร่างกายใหญ่ๆ รวมถึงศีรษะของเหยื่อ
ถูกเก็บไว้ในกระติกเก็บความเย็นและกล่องเก็บเครื่องมือ
ส่วนอวัยวะภายในและเนื้อบางส่วนถูกนำไปทิ้งขยะ
นายทะคะฮิโระให้การว่าเขาใช้เลื่อยหั่นศพในห้องน้ำ
ก่อนจะแยกบางส่วนไปทิ้งขยะ ส่วนชิ้นใหญ่ๆ เก็บเอาไว้เอง
เพราะกลัวทิ้งแล้วจะมีคนเจอแล้วจะสาวย้อนมาจนจับกุมตัวเองได้
เมื่อตำรวจไปค้นห้อง ก็พบว่าชิ้นส่วนร่างกายหลายชิ้น
เหลือแต่กระดูก และนับกระดูกรวมได้กว่า 240 ชิ้น

(หัวมนุษย์อยู่ข้างใน 2 หัว ตรวจเจอศพมนุษย์รวมถึง 9 ศพ
ผู้ต้องสงสัยสารภาพว่าเป็นคนฆ่าทั้ง 9 ศพเอง
และหั่นแยกไว้ในคูลเลอร์ เพื่อจะค่อยๆ ทำลายหลักฐานทีหลัง
ศพทั้ง 9 ในคูลเลอร์เป็นหญิง 8 ศพ ชาย 1 ศพ ชิราอิชิ
เริ่มจัดการศพแรกตั้งแต่ 22 ส.ค. แล้ว และยังเหลือมาจนถึงทุกวันนี้
ตอนแรกตำรวจเจอหัวคน 2 หัวในกล่องคูลเลอร์หน้าห้อง
กับชิ้นส่วนศพ 7 ศพ แบบไม่มีหัว
31 ต.ต.ตำรวจเข้าไปค้นในห้องพักเพิ่ม
เจอกระดูกที่โดนลอกเนื้อหนังออกหมด และเจออีก 7 หัวที่เหลือแล้ว)

     ส่วนเคสของหญิงสาวรายล่าสุดนั้น นายทะคะฮิโระสารภาพว่า
หลังเห็นทวีตนั้นของเธอ เขาก็ส่งข้อความไปบอกว่า "มาตายด้วยกันเถอะ"
ก่อนที่จะเริ่มคุยและล่อลวงหญิงสาวผู้นั้นมา เขาเสริมด้วยว่า
ศพแรกเขาใช้เวลาจัดการถึง 3 วัน แต่พอศพที่สอง เขาก็จัดการได้ในเวลาไม่นาน


การให้สัมภาษณ์ของคนรู้จัก

     เพื่อนบ้านแถวนั้นตกใจมากเมื่อได้ยินข่าวนี้ เพื่อนบ้านคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า
เขาคิดว่านายทะคะฮิโระเป็นคนสุภาพน่ารักมาโดยตลอด
ส่วนเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนต์ชั้นเดียวกันกับนายทะคะฮิโระ
ให้สัมภาษณ์ว่าเขาได้กลิ่นเหม็นแปลกๆ ที่เกิดมาไม่เคยได้กลิ่นมาก่อน
มาจากห้องของนายทะคะฮิโระเวลาที่เขาเดินผ่าน แต่เขาคิดว่าคงเป็นกลิ่นท่อน้ำทิ้งที่รั่วมาตลอด

     เพื่อนของครอบครัวชิระอิชิให้สัมภาษณ์ว่า แม่และน้องสาว
ไม่ได้อยู่กับครอบครัวนี้นานแล้ว ส่วนพ่อของนายทะคะฮิโระอาศัยอยู่คนเดียว
ในบ้านที่เมืองซามะ นายทะคะฮิโระเดินทางไปเยี่ยมพ่ออยู่เสมอ
แม้แต่ในช่วงที่ย้ายมาอยู่อพาร์ทเมนต์นี้แล้วก็ตาม ในขณะที่เพื่อนบ้านอีกคน
ที่อยู่ใกล้ๆ บ้านพ่อของนายทะคะฮิโระให้สัมภาษณ์ว่าช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา
เวลานายทะคะฮิโระไปบ้านพ่อ เขาจะเห็นนายทะคะฮิโระใส่ชุดดำทั้งตัว
และมานั่งจ้องมือถืออยู่หน้าบ้านตอนดึกๆ ซึ่งตอนนั้นเขาคิดว่าดูค่อนข้างน่ากลัวเอามากๆ

     สำหรับชีวิตส่วนตัวนายทะคะฮิโระนั้น เขาทำงานเป็นแมวมอง
ให้กับธุรกิจบันเทิงเกี่ยวกับเรื่องทางเพศแห่งหนึ่งในย่านคาบุกิโช

     ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าตกใจเอามากๆ เพราะประเทศญี่ปุ่น
ถือว่าเป็นประเทศที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำมากๆ เลยค่ะ
พอได้ยินข่าวกันทีก็มักเป็นอาชญากรรมใหญ่ๆ เลย
เช่นข่าวชายคนหนึ่งที่แทงผู้ป่วยในศูนย์พักฟื้นเสียชีวิต 19 รายเมื่อปีที่แล้ว


ความนิยมในการชวนคนแปลกหน้ามาตายด้วยกัน

     แต่อีกเรื่องที่น่าสนใจก็คือ วัฒนธรรมของบางกลุ่ม
ที่เชิญชวนให้มาฆ่าตัวตายร่วมกันค่ะ อย่างในข่าวนี้จะเห็นว่า
มีเหยื่อหลายคนที่ทวีตหาคนมาตายด้วยกัน นอกจากนี้
ยังมีเว็บไซต์เชิญชวนให้คนมาฆ่าตัวตายด้วยกันอีก
พอลองค้นข้อมูลย้อนไปแล้วก็พบว่า ที่ญี่ปุ่น
มีเหตุการณ์ที่หาเพื่อนฆ่าตัวตายร่วมกันมานานแล้ว

     มีการบันทึกอย่างเป็นทางการว่าในระหว่างปี 2003 - 2006
มีผู้เสียชีวิตจากการหาเพื่อนร่วมตายผ่านกลุ่มในโลกออนไลน์
ถึง 180 คนจากเหตุการณ์ฆ่าตัวตายหมู่จำนวน 61 ครั้ง
ผู้ตายส่วนมากไม่ได้รู้จักกันในชีวิตจริงมาก่อน แต่เจอกันในเว็บไซต์
ที่สร้างขึ้นเพื่อหาเพื่อนร่วมฆ่าตัวตายโดยเฉพาะ จากนั้นก็จะนัดแนะและเตรียมการกัน
ก่อนจะลงมือจริงเป็นกลุ่มเล็กๆ ประมาณ 5 คน นั่งรถยนต์
ไปสถานที่เปลี่ยวหรือห่างไกล แล้วก็ปิดเทปรอบรถให้สนิท
ต่อสายจากท่อไอเสียเข้ามาในตัวรถ จุดถ่านในรถ
เพื่อให้เผาไหม้ออกซิเจนในรถเร็วขึ้น และกินยานอนหลับไป
บางกลุ่มอาจจะเปลี่ยนสถานที่ลงมือเป็นอพาร์ทเมนต์เล็กๆ
จากนั้นก็ปิดขอบประตูและหน้าต่างให้สนิทก่อนจะจุดถ่านรมควันในห้องนั้นเลย


     เป็นข่าวที่สะเทือนขวัญรับวันฮาโลวีนจริงๆ เลยนะคะ
แต่ก็ต้องติดตามกันต่อค่ะว่าโทษของนายทะคะฮิโระจะเป็นอย่างไร
และเหยื่อทุกรายอยากจะฆ่าตัวตายอยู่แล้วจริงๆ หรือไม่


Source : https://www.dek-d.com/studyabroad/47531/
Source : https://www.facebook.com/joyzzy.classic/posts/1603046673071754
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่