เราเป็นผู้หญิงธรรมดาคนนึง ช่วงนั้นเราเพิ่งเรียนจบ และเริ่มทำงานได้ไม่กี่เดือน เมื่อต้นปีเราได้รู้จักกับผู้ชายคนนึงทางอินเตอร์เน็ต ขอแทนชื่อเขาว่าเอนะคะ เอเป็นคนเชียงใหม่ บ้านเขาค่อนข้างรวย และปีนี้เขาสอบก็ได้เป็นนักเรียนทุนไปเรียนต่อที่อเมริกา เอจึงมาเรียนคอร์สภาษาเพิ่มเติมในกรุงเทพ เขาจึงมีแพลนมาอยู่ที่กรุงเทพประมาณ 6 เดือน เราก็เลยมีโอกาสได้รู้จักกัน
เอเป็นคนมาเริ่มจีบเราก่อนค่ะ ด้วยความที่เขาเป็นคุยสนุก และดูจริงใจมากๆ เราจึงได้คุยกันบ่อยๆ จนเราใจอ่อน รู้สึกชอบเอขึ้นมา เราจึงได้ตัดสินใจนัดเจอกัน วันแรกที่เราเจอกันเราก็ได้คุยกัน เอบอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้เขาต้องไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนนะ เราก็ถามกลับว่าไปเที่ยวกับเพื่อนตอนเรียนมหาลัยเหรอ เอก็ตอบว่าใช่ หลังจากนั้นเราก็เปลี่ยนเรื่องคุย พอคุยกันมาได้สักพัก จู่ๆเอก็สารภาพว่าเขาจะไปเที่ยวทะเลกับผู้หญิงคนนึง เราขอเรียกเธอคนนี้ว่าบีนะคะ เอบอกว่าเอคุยกับบีมาสักพักแล้ว แต่เอคิดกับบีเเค่พี่น้อง และพวกเขาก็มีแพลนเที่ยวมาตั้งนานแล้วก่อนจะรู้จักเราอีก จะมายกเลิกกะทันหันก็ไม่ได้ เอก็เลยจำเป็นต้องไป เราก็บอกให้เอไป เพราะตอนนั้นก็เพิ่งเจอกันด้วยคงไปบังคับอะไรคงไม่ดี และเอก็สัญญาว่าจะไม่มีเรื่องอะไรเกินเลยกับบีแน่นอน ระหว่างที่เอไปเที่ยวเขาก็แชทหาเราตลอด ทำให้เราเชื่อใจและไว้ใจเขา หลังจากเอไปเที่ยวกลับมาเราก็ไม่ได้ถามถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเอกับบี จนเวลาผ่านไป เราก็ไปเดทกันบ่อยมากขึ้น เขาเอาใจใส่ดูแลเราเป็นอย่างดี เราจึงชอบเขามากๆ แต่ทุกครั้งที่เราไปที่ห้องเอก็จะเจอเส้นผมผู้หญิง เจอต่างหู หรือแม้กระทั่งกระเป๋าเครื่องสำอางของผู้หญิง เราก็ถามเขาตลอดนะคะ แต่เขาก็บอกว่าของเพื่อน เราก็เลยไม่ได้เซ้าซี้เขาต่อ
วันนึงเอชวนเราไปเที่ยวทะเลด้วยกัน ด้วยความที่เราไม่เคยไปทะเลใต้ จึงตกลงไปกับเอในช่วงวันหยุดยาว วันแรกที่ไปถึงกว่าจะถึงก็เย็นแล้ว เราจึงออกไปหาอะไรกินกัน หลังจากนั้นเอก็ไปซื้อเบียร์มานั่งดื่มริมหาดจนเอเริ่มเมานิดๆ ในคืนนั้นเป็นครั้งแรกที่เรามีอะไรกัน จากนั้นด้วยความกังวลเราจึงถามเอว่า “เราเป็นแฟนกันใช่ไหม” แล้วเอก็พูดว่า “เราเป็นแฟนกันนะ” ตอนนั้นเราดีใจมาก เพราะเราชอบเอเข้าแล้วจริงๆ เอบอกว่าเมื่อก่อนเขาไม่ใช่คนที่ดีและเขาก็เป็นคนเจ้าชู้ แต่ตอนนี้เขาจะเป็นคนดีและจะไม่ทำให้เราเสียใจ เขาอัพรูปคู่กับเราในเฟสของเขา เราก็ดีใจนะคะ แต่เราก็กังวลว่าเราจะกลายเป็นแฟนอย่างหลบๆซ่อนๆของเขาหรือเปล่า เราจึงบอกให้เขาตั้งสถานะคบกันในเฟส ตอนแรกเขาก็ไม่ยอม แต่เราก็ขอร้องจนเขายอม พอถึงวันกลับพวกเราก็แยกกันกลับ เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงวันสงกรานต์พอดีเอจึงบินกลับบ้านของเขา ก่อนจากกันเอบอกกับเราว่าเดี๋ยวเอก็กลับมา แค่กลับบ้านไปเเปปเดียวเอง เราเลยต้องบินกลับกรุงเทพคนเดียวแล้วตั้งหน้าตั้งตารอวันที่เอกลับมา
แต่ในช่วงที่เอกลับบ้านก็มีเรื่องเกิดขึ้น ในคืนนึงเขาก็แชทมาหาเราปกติ แต่ว่าหัวข้อในการสนทนามันต่างออกไป เอบอกกับเราว่า ตอนนี้เอรู้สึกเเย่และก็กลัวมากๆ เลย เราจึงถามถึงสาเหตุ เอจึงบอกว่า เราจำเส้นผมผู้หญิงที่ตกในห้องเอได้ไหมที่เราชอบถามถึงบ่อยๆ นั่นแหละคือผมของบี ตอนนี้บีเสียแล้วนะ บีฆ่าตัวตาย จากนั้นเอก็ส่งรูปที่แคปหน้าจอมาให้ดู เป็นรูปแชทเฟสบุ๊คของบีบอกกับเอว่าขอให้เอมีความสุข ดูแลเราให้ดีๆด้วยนะ ตอนนั้นเราตกใจมาก "เราควรทำยังไง เขาเคยบอกว่าบีเป็นแค่พี่น้องนี่น่า ที่บีฆ่าตัวตายเพราะเอมาคบกับเรางั้นเหรอ?!" และเอก็บอกเราว่านั่นเป็นข้อความสุดท้ายที่บีอวยพรให้กับพวกเรา
จากนั้นเราก็ค่อยๆ รวบรวมสติถามเอว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง เอจึงเล่าให้ฟังว่าพี่สาวฝาแฝดของบีติดต่อมาหาเอ บอกว่าบีทิ้งไดอารี่ไว้ให้เอแล้วไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ตอนนั้นเราทั้งตกใจและก็ทำอะไรไม่ถูก เอก็อธิบายต่อว่าเดิมทีบีเป็นโรคซึมเศร้า พยายามฆ่าตัวตายมาหลายครั้งแล้ว แต่ว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่บีจากไปแล้วจริงๆ
พอเรื่องผ่านมาได้ไม่กี่วันด้วยความที่เราอยากรู้ถึงความสัมพันธ์ของเอกับบี ก็เลยเข้าไปดูในเฟสบุ๊คของบี แต่แล้วเรื่องมันกลับพลิกล็อค เมื่อจู่ๆ เฟสบุ๊คของบีมีการอัพเดททั้งๆที่เอก็บอกว่าบีเสียแล้ว มีรูปของบีถูกอัพโหลดขึ้นพร้อมสเตตัส อีกทั้งยังมีเพื่อนๆของบีมาคอมเม้นกันตามปกติ และบีก็มาคอมเม้นตอบเพื่อนๆของเธอด้วยสิ
.
.
.
เดี๋ยวมาต่อนะคะ
การเป็นแฟนกับหนุ่มนักเรียนทุน และประสบการณ์ความรักที่ไม่ได้สวยหรูอย่างที่ใครๆคิด
เอเป็นคนมาเริ่มจีบเราก่อนค่ะ ด้วยความที่เขาเป็นคุยสนุก และดูจริงใจมากๆ เราจึงได้คุยกันบ่อยๆ จนเราใจอ่อน รู้สึกชอบเอขึ้นมา เราจึงได้ตัดสินใจนัดเจอกัน วันแรกที่เราเจอกันเราก็ได้คุยกัน เอบอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้เขาต้องไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนนะ เราก็ถามกลับว่าไปเที่ยวกับเพื่อนตอนเรียนมหาลัยเหรอ เอก็ตอบว่าใช่ หลังจากนั้นเราก็เปลี่ยนเรื่องคุย พอคุยกันมาได้สักพัก จู่ๆเอก็สารภาพว่าเขาจะไปเที่ยวทะเลกับผู้หญิงคนนึง เราขอเรียกเธอคนนี้ว่าบีนะคะ เอบอกว่าเอคุยกับบีมาสักพักแล้ว แต่เอคิดกับบีเเค่พี่น้อง และพวกเขาก็มีแพลนเที่ยวมาตั้งนานแล้วก่อนจะรู้จักเราอีก จะมายกเลิกกะทันหันก็ไม่ได้ เอก็เลยจำเป็นต้องไป เราก็บอกให้เอไป เพราะตอนนั้นก็เพิ่งเจอกันด้วยคงไปบังคับอะไรคงไม่ดี และเอก็สัญญาว่าจะไม่มีเรื่องอะไรเกินเลยกับบีแน่นอน ระหว่างที่เอไปเที่ยวเขาก็แชทหาเราตลอด ทำให้เราเชื่อใจและไว้ใจเขา หลังจากเอไปเที่ยวกลับมาเราก็ไม่ได้ถามถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเอกับบี จนเวลาผ่านไป เราก็ไปเดทกันบ่อยมากขึ้น เขาเอาใจใส่ดูแลเราเป็นอย่างดี เราจึงชอบเขามากๆ แต่ทุกครั้งที่เราไปที่ห้องเอก็จะเจอเส้นผมผู้หญิง เจอต่างหู หรือแม้กระทั่งกระเป๋าเครื่องสำอางของผู้หญิง เราก็ถามเขาตลอดนะคะ แต่เขาก็บอกว่าของเพื่อน เราก็เลยไม่ได้เซ้าซี้เขาต่อ
วันนึงเอชวนเราไปเที่ยวทะเลด้วยกัน ด้วยความที่เราไม่เคยไปทะเลใต้ จึงตกลงไปกับเอในช่วงวันหยุดยาว วันแรกที่ไปถึงกว่าจะถึงก็เย็นแล้ว เราจึงออกไปหาอะไรกินกัน หลังจากนั้นเอก็ไปซื้อเบียร์มานั่งดื่มริมหาดจนเอเริ่มเมานิดๆ ในคืนนั้นเป็นครั้งแรกที่เรามีอะไรกัน จากนั้นด้วยความกังวลเราจึงถามเอว่า “เราเป็นแฟนกันใช่ไหม” แล้วเอก็พูดว่า “เราเป็นแฟนกันนะ” ตอนนั้นเราดีใจมาก เพราะเราชอบเอเข้าแล้วจริงๆ เอบอกว่าเมื่อก่อนเขาไม่ใช่คนที่ดีและเขาก็เป็นคนเจ้าชู้ แต่ตอนนี้เขาจะเป็นคนดีและจะไม่ทำให้เราเสียใจ เขาอัพรูปคู่กับเราในเฟสของเขา เราก็ดีใจนะคะ แต่เราก็กังวลว่าเราจะกลายเป็นแฟนอย่างหลบๆซ่อนๆของเขาหรือเปล่า เราจึงบอกให้เขาตั้งสถานะคบกันในเฟส ตอนแรกเขาก็ไม่ยอม แต่เราก็ขอร้องจนเขายอม พอถึงวันกลับพวกเราก็แยกกันกลับ เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงวันสงกรานต์พอดีเอจึงบินกลับบ้านของเขา ก่อนจากกันเอบอกกับเราว่าเดี๋ยวเอก็กลับมา แค่กลับบ้านไปเเปปเดียวเอง เราเลยต้องบินกลับกรุงเทพคนเดียวแล้วตั้งหน้าตั้งตารอวันที่เอกลับมา
แต่ในช่วงที่เอกลับบ้านก็มีเรื่องเกิดขึ้น ในคืนนึงเขาก็แชทมาหาเราปกติ แต่ว่าหัวข้อในการสนทนามันต่างออกไป เอบอกกับเราว่า ตอนนี้เอรู้สึกเเย่และก็กลัวมากๆ เลย เราจึงถามถึงสาเหตุ เอจึงบอกว่า เราจำเส้นผมผู้หญิงที่ตกในห้องเอได้ไหมที่เราชอบถามถึงบ่อยๆ นั่นแหละคือผมของบี ตอนนี้บีเสียแล้วนะ บีฆ่าตัวตาย จากนั้นเอก็ส่งรูปที่แคปหน้าจอมาให้ดู เป็นรูปแชทเฟสบุ๊คของบีบอกกับเอว่าขอให้เอมีความสุข ดูแลเราให้ดีๆด้วยนะ ตอนนั้นเราตกใจมาก "เราควรทำยังไง เขาเคยบอกว่าบีเป็นแค่พี่น้องนี่น่า ที่บีฆ่าตัวตายเพราะเอมาคบกับเรางั้นเหรอ?!" และเอก็บอกเราว่านั่นเป็นข้อความสุดท้ายที่บีอวยพรให้กับพวกเรา
จากนั้นเราก็ค่อยๆ รวบรวมสติถามเอว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง เอจึงเล่าให้ฟังว่าพี่สาวฝาแฝดของบีติดต่อมาหาเอ บอกว่าบีทิ้งไดอารี่ไว้ให้เอแล้วไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ตอนนั้นเราทั้งตกใจและก็ทำอะไรไม่ถูก เอก็อธิบายต่อว่าเดิมทีบีเป็นโรคซึมเศร้า พยายามฆ่าตัวตายมาหลายครั้งแล้ว แต่ว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่บีจากไปแล้วจริงๆ
พอเรื่องผ่านมาได้ไม่กี่วันด้วยความที่เราอยากรู้ถึงความสัมพันธ์ของเอกับบี ก็เลยเข้าไปดูในเฟสบุ๊คของบี แต่แล้วเรื่องมันกลับพลิกล็อค เมื่อจู่ๆ เฟสบุ๊คของบีมีการอัพเดททั้งๆที่เอก็บอกว่าบีเสียแล้ว มีรูปของบีถูกอัพโหลดขึ้นพร้อมสเตตัส อีกทั้งยังมีเพื่อนๆของบีมาคอมเม้นกันตามปกติ และบีก็มาคอมเม้นตอบเพื่อนๆของเธอด้วยสิ
.
.
.
เดี๋ยวมาต่อนะคะ