มนุษย์เงินเดือนจ๋า มามะ เตรียมตัวไปเที่ยวโตเกียวด้วยงบ 20,000 บาทกัน ><
ก่อนอื่น ต้องขอแนะนำตัวก่อนว่า อันตัวพี่นี้ก็คือมนุษย์เงินเดือนคนนึง ซึ่งการไปเที่ยวต่างปท นั้นมันก็คือว่าเราต้องเก็บเงินไปซึ่งจะให้มากมายก็คงไม่ได้ แต่...มันก็ไม่ยากเกินกว่าจะไปไม่ได้นะจ๊ะ เพราะงบประมาณที่เราตั้งไว้คือ 20,000 บาท!!
ซึ่งกว่าพี่จะกล้าแบคแพคไปนั้น พี่ก็หาข้อมูลจาก pantip นี่แหละจ้า ไม่เคยไปซื้อหนังสือที่ไหน อาศัยอ่านฟรีในนี้ (งกเนอะ ><) วันนี้เลยคิดว่าเราน่าจะแชร์ข้อมูลบ้าง เผื่อมีประโยชน์ให้คนอื่นๆ และมีกำลังใจว่าเฮ้ย 20,000 บาท ฉันก็ไปเที่ยวญี่ปุ่นได้เว่ย
กระทู้นี้ จึงเป็นกระทู้ในการเตรียมตัวและคำนวนค่าใช้จ่ายว่าเฮ้ย 20,000 บาทมันครอบคลุมอะไรบ้าง ส่วนเรื่องรีวิวที่พัก อาหาร สถานที่ พี่จะรีวิวครั้งต่อไปค่า
1. ตั๋วเดินทาง
ความจริงตั๋วที่พี่หามันก็ไม่ได้ราคาถูกที่สุดแต่เป็นตั๋วที่พี่รับราคาได้ถ้าบินในประเทศ พี่ชอบ traveloka เพราะนางไม่เสียค่าธรรมเนียมการจ่าย ไม่เหมือนจองผ่านสายการบินโดยตรง ที่เหมือนจะถูกกว่า แต่พอเจอค่าธรรมกลับแพงกว่าซะง้าน อีกทั้ง traveloka. นางชอบมีโปรโมชั่น ลด7% บ้าง 10% บ้าง
ส่วนต่างประเทศ พี่ชอบ expedia แต่ทุกการจอง จะเสียค่าธรรมเนียม 400/คน เป็นค่าเฉลี่ย คือสมมุติเคาะราคาไปกลับเสร็จ หน้าสุดท้ายนางจะบวกค่าธรรมเนียม แล้วเราก็มาซื้อกระเป๋าเพิ่มอีกที่สายการบิน ทริปที่มารีวิวนี้ ก็ใช้ exdedia ไปกลับ ดอนเมือง นาริตะ สายการบินสกู๊ด น้ำหนัก 20 กก ราคา 9,300 บาท
ซึ่งเหตุผลพี่เลือกแอร์เอเชียหรือ สกู๊ด ไม่ใช้พวกฟูลเซอร์วิสแบบเวียดนามแอร์ไล หรืออื่นๆที่ราคาพอๆกัน นั่นเพราะ บ้านพี่ใกล้ดอนเมือง!! ก็คือพี่คำนึงถึงค่าแท็กซี่ด้วยไง คือถ้าไปสุวรรณภูมิ ร่าแท็กซี่ไปกลับเกือบ 1,000 จ้าาาาา แต่ถ้าดอนเมืองไปกลับ 200
ดังนั้น!! ก่อนจะจองตั๋วก็อย่าลืมคิดค่าเดินทางไปสนามบินนะจ๊ะ
2. ที่พัก
คือมีตั๋วเครื่องบินละ แต่ถ้าไม่มีที่พักจะไปนอนสนามบินทุกคืนก็ไม่ได้ไง
คือพี่ก็เห็นบางท่านเขาก็นอนสนามบินนะ แบบวันไปถึงดึกมากรถหมด ไม่ก็วันกลับเช้ามาก กลัวมาไม่ทันงี้ แต่พี่ก็แบบ ไม่อ่าาาา ขอไม่นอนสนามบินได้ไหม
มันก็วกกลับไปเรื่องตั๋วเครื่องบิน พี่จึงเลือกเวลาที่พี่ว่าดีและราคารับได้ ซึ่งพี่ไม่มีปัญหาเรื่องนอน พี่สามารถนอนบนเครื่อง ถึงที่โน่นเช้าแล้วเที่ยวเลยจ้าาา (อาจมีปัญหาเรื่องกลิ่นเพราะไม่ได้อาบน้ำ>< แต่ใครเขาแคร์กัน ใจเราสะอาด ตัวเราก็สะอาดสิ!)
แต่ขากลับมันก็ดันมีแต่ไฟล์ทเช้า พี่จึงหาโรงแรมใกล้สนามบิน และมีรถมาส่งพี่ได้จ้าาาาา ประหยัดค่าเดินทางอิ๊ก พี่ไม่ได้งก พี่ใช้เงินเป็น ><
เอาล่ะ เข้าเรื่อง
มีเวปมากมายที่สามารถจองที่พัก แต่พี่จะพูดในกรณีของพี่ ซี่งก็แล้วแต่วิจารณญาณแต่ละคนเนอะ
ส่วนมากพี่ใช้ agoda
ซึ่งถ้าคนเคยมช้ agoda ก็จะรู้ว่าคุณหลอกดาว ราคาที่โชว์ยังไม่รวมภาษีต่างๆ
พี่ใช้ agoda/dtac เพราะใช้สิทธิ dtac ลดได้อีก 7% ห้ามใช้ app agoda น้องไปเปิดเน็ต เสิร์ชใน google หาทางเข้า agoda/dtac หน้าเวปจะเห็นชัดเจน พอเราเลือกวันและโน่นนี่เสร็จ มันจะมีช่องใส่รห้สสส่วนลด ใส่โล้ด ก็จะได้ลดอีก 7% ซึ่งพี่ไปพักที่ โรงแรมนิวโทโฮคุ 3 คืน และในคืนสุดท้ายพักที่ นาริตะเกตุเวย์ 1 คืน รวมทั้งหมดเป็นเงิน 8,000 บาท ซึ่งพี่ไป 2 คน จึงตกคนละ 4 พันบาท
traveloka พี่ก็ใช้ แต่ต้องดูดีๆ บางโรงแรมก็ถูกกว่า บางโรงแรมก็แพงกว่า แต่travelokaมักมีส่วนลดมาล่อใจบ่อยๆ บางครั้งก็ถูกกว่า agoda ด้วย
(เดี๋ยวจะรีวิวโรงแรมที่เคยไปทีหลังนะคะ)
ปล ถ้ากลับนาริตะ ไฟล์ทเช้า ไม่อยากตื่นเช้าออกจากในเมือง ไม่อยากนอนที่สนามบิน พี่แนะนำโรงแรมนี้
#นาริตะ เกตเวย์
คือนางเริ่ดมากก นางราคาถูก คืนละ พันกว่าๆ นางมีรถมารับส่งที่สนามบิน เป็นรถบัส นอกจากนี้รถบัสของที่นี่ยังไปส่งที่อิออน ที่สถานี jr นาริตะ มีตารางรถแจ้งงดงาม ตอนไปถึงก็ไปบอกว่าพรุ่งนี้เราจะไปรอบกี่โมงเขาจะได้ล็อคที่ไว้ ซึ่งบัสคันนี้ใช้ร่วมกัน 3 โรงแรม แต่โรงแรมนี้เป็นต้นทางจ้าาา ยังไงก็ได้นั่งแน่ๆ เวลาเดินทางจากโรงแรมไปสนามบิน 20 นาที ยังไงก็ไม่ตกเครื่อง
เอาล่ะ ได้ตั๋วเครื่องบินแล้ว ได้ที่พักแล้ว ต่อไป
ทำประกันการเดินทางกันเถอะ ><
3.ประกันเดินทาง
หลังจากดูข่าวมีสาวไทยไปเที่ยวต่างประเทศแล้วเจ็บป่วย ค่ารักษาหลักล้าน พี่ก็คิดแล้วว่า ไม่ๆๆ เราจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น พี่จึงตัดสินใจทำประกันภัยกับบริษัทหนึ่ง อันนี้พี่คิดว่าแต่ละเจ้าคงเหมือนกัน พี่ก็ยังไม่เคยเคลม แต่ตอนตัดสินใจซื้อพี่ดูแค่ 1.ราคากะค่ารักษา เหมาะสมไหม 2.ของแถม ค่ะ พี่ดูแค่นั้นจริงๆ ในตอนนั้นพี่เลือกราคา 599 บาท ซึ่งได้บัตรสตาร์คบั๊คมูลค่า100 และค่ารักษา 4,000 บาท
สามารถหาซื้อได้โดยเสิร์ชในเน็ต และทำการจ่ายๆ ก่อนไปก็เซฟไว้ในมือถือและปริ้นไปให้อุ่นใจค่ะ
4.ค่าเดินทางในประเทศญี่ปุ่น
พี่บอกทุกคนหรือยังว่าพี่งก
เอาล่ะ ทุกคนคงรู้แล้ว ดังนั้นพี่จึงเลือกพาสที่พี่คิดว่าคุ้มสุด (ซึ่งก็อาจมีคนเถียงว่า มันมีถูกกว่านี้ ซึ่งใช่ค่ะ พี่งกแต่พี่ก็กลัวลำบาก ><) พี่เลือกพาสเดินทางจากสนามบินเข้าไปในที่พัก พี่พักย่านอูเนโนะ พี่จึงเลือกพาส Keisei skyliner ไปกลับ บวกับ Subway72h รวมเป็นเงิน 5,400 เยน และในวันสุดท้ายพี่ต้องเดินทางไปซาวาระ ไปกลับ 1,000 เยน
รวมค่าเดินทางทริปนี้ 6,400 เยน = 1,920 บาท
5.ค่าโทรศัพท์
พี่ใช้ sim2fly 359 บาท ซึ่งเอาไปไว้ดูเวลาเดินทาง หารกับเพื่อนค่ะ เพราะปกติเล่น wifi ฟรี
คนละ 180 บาท


6.ค่ากิน
พี่ไปวันที่ 7-11 ตค รวมเป็น 5 วัน แต่วันสุดท้ายเราออกแต่เช้าค่ะ กินแค่มื้อเดียว เราไม่มีกินมาม่านะคะ แต่ก็ไม่มีบุปเฟต์ ค่าอาหารประมาณ 4,000 ค่ะ
รวมค่าใช้จ่าย ตั๋ว 9,300
ที่พัก 4,000
ประกัน 600
Sim2fly 180
เดินทาง 1920
ค่ากิน 4,000
รวม 20,000 บาท
อุต๊ะ เลยทำไมกลมดิ๊กเหมือนแต่งแต้ม แต่เราไปด้วยราคานี้จริงๆ แต่ นี่ยังไม่รวมชอปปิ้งนะคะ เราหมดกะครีม รองเท้า เสื้อผ้าเยอะมาก ล้มละลายตรงนั้นจ้า
ขอจบรีวิวการเตรียมตัวไปโตเกียวเท่านี้ หวังว่าจะสร้างประโยชน์ให้คนอื่นบ้างเนอะ เจอกันรีวิวหน้า จะพาไปทริปไหว้ศาลเจ้า ><
มนุษย์เงินเดือนจ๋า มามะ เตรียมตัวไปเที่ยวโตเกียวด้วยงบ 20,000 บาทกัน ><
ก่อนอื่น ต้องขอแนะนำตัวก่อนว่า อันตัวพี่นี้ก็คือมนุษย์เงินเดือนคนนึง ซึ่งการไปเที่ยวต่างปท นั้นมันก็คือว่าเราต้องเก็บเงินไปซึ่งจะให้มากมายก็คงไม่ได้ แต่...มันก็ไม่ยากเกินกว่าจะไปไม่ได้นะจ๊ะ เพราะงบประมาณที่เราตั้งไว้คือ 20,000 บาท!!
ซึ่งกว่าพี่จะกล้าแบคแพคไปนั้น พี่ก็หาข้อมูลจาก pantip นี่แหละจ้า ไม่เคยไปซื้อหนังสือที่ไหน อาศัยอ่านฟรีในนี้ (งกเนอะ ><) วันนี้เลยคิดว่าเราน่าจะแชร์ข้อมูลบ้าง เผื่อมีประโยชน์ให้คนอื่นๆ และมีกำลังใจว่าเฮ้ย 20,000 บาท ฉันก็ไปเที่ยวญี่ปุ่นได้เว่ย
กระทู้นี้ จึงเป็นกระทู้ในการเตรียมตัวและคำนวนค่าใช้จ่ายว่าเฮ้ย 20,000 บาทมันครอบคลุมอะไรบ้าง ส่วนเรื่องรีวิวที่พัก อาหาร สถานที่ พี่จะรีวิวครั้งต่อไปค่า
1. ตั๋วเดินทาง
ความจริงตั๋วที่พี่หามันก็ไม่ได้ราคาถูกที่สุดแต่เป็นตั๋วที่พี่รับราคาได้ถ้าบินในประเทศ พี่ชอบ traveloka เพราะนางไม่เสียค่าธรรมเนียมการจ่าย ไม่เหมือนจองผ่านสายการบินโดยตรง ที่เหมือนจะถูกกว่า แต่พอเจอค่าธรรมกลับแพงกว่าซะง้าน อีกทั้ง traveloka. นางชอบมีโปรโมชั่น ลด7% บ้าง 10% บ้าง
ส่วนต่างประเทศ พี่ชอบ expedia แต่ทุกการจอง จะเสียค่าธรรมเนียม 400/คน เป็นค่าเฉลี่ย คือสมมุติเคาะราคาไปกลับเสร็จ หน้าสุดท้ายนางจะบวกค่าธรรมเนียม แล้วเราก็มาซื้อกระเป๋าเพิ่มอีกที่สายการบิน ทริปที่มารีวิวนี้ ก็ใช้ exdedia ไปกลับ ดอนเมือง นาริตะ สายการบินสกู๊ด น้ำหนัก 20 กก ราคา 9,300 บาท
ซึ่งเหตุผลพี่เลือกแอร์เอเชียหรือ สกู๊ด ไม่ใช้พวกฟูลเซอร์วิสแบบเวียดนามแอร์ไล หรืออื่นๆที่ราคาพอๆกัน นั่นเพราะ บ้านพี่ใกล้ดอนเมือง!! ก็คือพี่คำนึงถึงค่าแท็กซี่ด้วยไง คือถ้าไปสุวรรณภูมิ ร่าแท็กซี่ไปกลับเกือบ 1,000 จ้าาาาา แต่ถ้าดอนเมืองไปกลับ 200
ดังนั้น!! ก่อนจะจองตั๋วก็อย่าลืมคิดค่าเดินทางไปสนามบินนะจ๊ะ
2. ที่พัก
คือมีตั๋วเครื่องบินละ แต่ถ้าไม่มีที่พักจะไปนอนสนามบินทุกคืนก็ไม่ได้ไง
คือพี่ก็เห็นบางท่านเขาก็นอนสนามบินนะ แบบวันไปถึงดึกมากรถหมด ไม่ก็วันกลับเช้ามาก กลัวมาไม่ทันงี้ แต่พี่ก็แบบ ไม่อ่าาาา ขอไม่นอนสนามบินได้ไหม
มันก็วกกลับไปเรื่องตั๋วเครื่องบิน พี่จึงเลือกเวลาที่พี่ว่าดีและราคารับได้ ซึ่งพี่ไม่มีปัญหาเรื่องนอน พี่สามารถนอนบนเครื่อง ถึงที่โน่นเช้าแล้วเที่ยวเลยจ้าาา (อาจมีปัญหาเรื่องกลิ่นเพราะไม่ได้อาบน้ำ>< แต่ใครเขาแคร์กัน ใจเราสะอาด ตัวเราก็สะอาดสิ!)
แต่ขากลับมันก็ดันมีแต่ไฟล์ทเช้า พี่จึงหาโรงแรมใกล้สนามบิน และมีรถมาส่งพี่ได้จ้าาาาา ประหยัดค่าเดินทางอิ๊ก พี่ไม่ได้งก พี่ใช้เงินเป็น ><
เอาล่ะ เข้าเรื่อง
มีเวปมากมายที่สามารถจองที่พัก แต่พี่จะพูดในกรณีของพี่ ซี่งก็แล้วแต่วิจารณญาณแต่ละคนเนอะ
ส่วนมากพี่ใช้ agoda
ซึ่งถ้าคนเคยมช้ agoda ก็จะรู้ว่าคุณหลอกดาว ราคาที่โชว์ยังไม่รวมภาษีต่างๆ
พี่ใช้ agoda/dtac เพราะใช้สิทธิ dtac ลดได้อีก 7% ห้ามใช้ app agoda น้องไปเปิดเน็ต เสิร์ชใน google หาทางเข้า agoda/dtac หน้าเวปจะเห็นชัดเจน พอเราเลือกวันและโน่นนี่เสร็จ มันจะมีช่องใส่รห้สสส่วนลด ใส่โล้ด ก็จะได้ลดอีก 7% ซึ่งพี่ไปพักที่ โรงแรมนิวโทโฮคุ 3 คืน และในคืนสุดท้ายพักที่ นาริตะเกตุเวย์ 1 คืน รวมทั้งหมดเป็นเงิน 8,000 บาท ซึ่งพี่ไป 2 คน จึงตกคนละ 4 พันบาท
traveloka พี่ก็ใช้ แต่ต้องดูดีๆ บางโรงแรมก็ถูกกว่า บางโรงแรมก็แพงกว่า แต่travelokaมักมีส่วนลดมาล่อใจบ่อยๆ บางครั้งก็ถูกกว่า agoda ด้วย
(เดี๋ยวจะรีวิวโรงแรมที่เคยไปทีหลังนะคะ)
ปล ถ้ากลับนาริตะ ไฟล์ทเช้า ไม่อยากตื่นเช้าออกจากในเมือง ไม่อยากนอนที่สนามบิน พี่แนะนำโรงแรมนี้
#นาริตะ เกตเวย์
คือนางเริ่ดมากก นางราคาถูก คืนละ พันกว่าๆ นางมีรถมารับส่งที่สนามบิน เป็นรถบัส นอกจากนี้รถบัสของที่นี่ยังไปส่งที่อิออน ที่สถานี jr นาริตะ มีตารางรถแจ้งงดงาม ตอนไปถึงก็ไปบอกว่าพรุ่งนี้เราจะไปรอบกี่โมงเขาจะได้ล็อคที่ไว้ ซึ่งบัสคันนี้ใช้ร่วมกัน 3 โรงแรม แต่โรงแรมนี้เป็นต้นทางจ้าาา ยังไงก็ได้นั่งแน่ๆ เวลาเดินทางจากโรงแรมไปสนามบิน 20 นาที ยังไงก็ไม่ตกเครื่อง
เอาล่ะ ได้ตั๋วเครื่องบินแล้ว ได้ที่พักแล้ว ต่อไป
ทำประกันการเดินทางกันเถอะ ><
3.ประกันเดินทาง
หลังจากดูข่าวมีสาวไทยไปเที่ยวต่างประเทศแล้วเจ็บป่วย ค่ารักษาหลักล้าน พี่ก็คิดแล้วว่า ไม่ๆๆ เราจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น พี่จึงตัดสินใจทำประกันภัยกับบริษัทหนึ่ง อันนี้พี่คิดว่าแต่ละเจ้าคงเหมือนกัน พี่ก็ยังไม่เคยเคลม แต่ตอนตัดสินใจซื้อพี่ดูแค่ 1.ราคากะค่ารักษา เหมาะสมไหม 2.ของแถม ค่ะ พี่ดูแค่นั้นจริงๆ ในตอนนั้นพี่เลือกราคา 599 บาท ซึ่งได้บัตรสตาร์คบั๊คมูลค่า100 และค่ารักษา 4,000 บาท
สามารถหาซื้อได้โดยเสิร์ชในเน็ต และทำการจ่ายๆ ก่อนไปก็เซฟไว้ในมือถือและปริ้นไปให้อุ่นใจค่ะ
4.ค่าเดินทางในประเทศญี่ปุ่น
พี่บอกทุกคนหรือยังว่าพี่งก
เอาล่ะ ทุกคนคงรู้แล้ว ดังนั้นพี่จึงเลือกพาสที่พี่คิดว่าคุ้มสุด (ซึ่งก็อาจมีคนเถียงว่า มันมีถูกกว่านี้ ซึ่งใช่ค่ะ พี่งกแต่พี่ก็กลัวลำบาก ><) พี่เลือกพาสเดินทางจากสนามบินเข้าไปในที่พัก พี่พักย่านอูเนโนะ พี่จึงเลือกพาส Keisei skyliner ไปกลับ บวกับ Subway72h รวมเป็นเงิน 5,400 เยน และในวันสุดท้ายพี่ต้องเดินทางไปซาวาระ ไปกลับ 1,000 เยน
รวมค่าเดินทางทริปนี้ 6,400 เยน = 1,920 บาท
5.ค่าโทรศัพท์
พี่ใช้ sim2fly 359 บาท ซึ่งเอาไปไว้ดูเวลาเดินทาง หารกับเพื่อนค่ะ เพราะปกติเล่น wifi ฟรี
คนละ 180 บาท
พี่ไปวันที่ 7-11 ตค รวมเป็น 5 วัน แต่วันสุดท้ายเราออกแต่เช้าค่ะ กินแค่มื้อเดียว เราไม่มีกินมาม่านะคะ แต่ก็ไม่มีบุปเฟต์ ค่าอาหารประมาณ 4,000 ค่ะ
รวมค่าใช้จ่าย ตั๋ว 9,300
ที่พัก 4,000
ประกัน 600
Sim2fly 180
เดินทาง 1920
ค่ากิน 4,000
รวม 20,000 บาท
อุต๊ะ เลยทำไมกลมดิ๊กเหมือนแต่งแต้ม แต่เราไปด้วยราคานี้จริงๆ แต่ นี่ยังไม่รวมชอปปิ้งนะคะ เราหมดกะครีม รองเท้า เสื้อผ้าเยอะมาก ล้มละลายตรงนั้นจ้า
ขอจบรีวิวการเตรียมตัวไปโตเกียวเท่านี้ หวังว่าจะสร้างประโยชน์ให้คนอื่นบ้างเนอะ เจอกันรีวิวหน้า จะพาไปทริปไหว้ศาลเจ้า ><