บันทึกของคนเดินเท้า
หนึ่งปีในถนนนักเขียน
ผมเพิ่งเข้ามาทำความรู้จักกับอินเตอร์เนต เมื่อสิบห้ามกราคมปีก่อนนี้เอง หลังจากที่ลูกชายคนเล็กติดต่อขอใช้บริการจากบริษัท และเสียค่าบริการรายเดือนให้ โดยเปิดดูลู่ทางอยู่หลายวัน แล้วก็ตกลงใจที่จะเข้ามาเสวนาในถนนนักเขียน ของห้องสมุดพันทิปนี้
เพราะผมเขียนหนังสือมานานมาก มีต้นฉบับที่เคยส่งไปลงพิมพ์ในวารสารต่าง ๆ และยังไม่ได้ลงมากมาย หลายประเภท ตั้งบทกลอน บันทึกของคนเดินเท้า เรื่องในอดีต เรื่องสั้นที่เขียนจากประสบการณ์ชีวิต ทั้งที่เป็นเรื่องจริง เรื่องเกินจริง และเรื่องเกือบจริง กับเรื่องอิงพงศาวดารจีนอีกหลายเรื่อง
ผมตั้งใจที่จะเอาเรื่องเหล่านั้น มาเสนอให้นักอ่านในถนนนักเขียน ได้พิจารณาดูบ้างว่าเรื่องของผมเหล่านั้น พอจะมีค่าควรแก่การอ่านหรือไม่
แล้วผมก็ได้รับคำวิจารณ์บ้าง คำติชมบ้าง แม้จะไม่มาก แต่ก็ทำให้ผมดีใจที่มีการต้อนรับจากผู้อ่าน อย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน
เพียงสองสามเดือนต่อมา ผมก็ได้รับคำทักทายจากนักอ่านระดับบรรณาธิการคนหนึ่ง หลังจากที่อ่านเรื่องอิงพงศาวดารจีน ตอน ขวากหนามของโจโฉ เป็นความว่า
“ผมเจอเพชรเม็ดหนึ่งในถนนนักเขียนเสียแล้วครับ ขออภัยที่เจอช้าไปหน่อย ตอนนี้ผมตามก๊อปชุดสามก๊กนี้ของคุณเจียวต้ายไว้หมดแล้ว มีสำนักพิมพ์ไหนรับพิมพ์งานชุดนี้หรือยังครับ”
แถมยังมีนักอ่านอีกคนหนึ่งสนับสนุนว่า
“ ดีใจแทนคุณเจียวต้ายมาก ๆ คุณ (บก.ที่ว่า) เหล่ ๆ แบบนี้ ไม่ธรรมดาเลยครับ เพราะตามปกติไม่เหล่ใครง่าย ๆ “
คงจะเดาได้ว่าผมจะมีความรู้สึกยินดีขนาดไหน แต่ก็ตอบแบบนอบน้อมถ่อมตน ว่ายังไม่เคยมีใครพิมพ์เรื่องของเจียวต้าย และก็ไม่ได้หวังด้วย ทั้ง ๆ ที่ผมเคยมีผลงานจากนิยายอิงพงศาวดารจีนมาแล้ว ในนามปากกาอื่น ซึ่งไม่มีใครรู้จัก ตั้งหลายเล่ม
นั่นก็เป็นกำลังใจอย่างสูงยิ่ง ที่ทำให้ผมเอางานมาแปะลงในถนนนักเขียนติดต่อกัน อย่างไม่ขาดสาย จนกระทั่งอีกสามเดือนต่อมา ผมก็ได้รู้จักตัวจริงของนักเขียนและนักอ่านผู้สนับสนุน ข้างต้น แล้วเราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมา
ส่วน บก.นั้น ผมเพิ่งได้พบและพูดคุยกัน เมื่อปลายปีที่แล้วนี้เอง และด้วยความประหลาดใจว่า เขาเป็นชายหนุ่มที่มีอายุน้อยกว่าที่ผมคาดไว้มาก แถมค่อนข้างไปทางหล่อมากเสียด้วย แล้วเราก็พูดคุยกันได้อย่างดียิ่งอีกคนหนึ่ง ในจำนวนผู้คนในอินเตอร์เนตทั้งหมดที่ผมได้มีโอกาสรู้จัก เพียงสิบคน
หลังจากนั้นอีกไม่นาน ผมก็ได้รับการขอร้องไหว้วาน จาก บก.หนุ่มคนนี้ ให้ช่วยเรียบเรียงเรื่องที่เกี่ยวกับความกตัญญู จากพงศาวดารจีน ที่ผมคุยว่าเรียบเรียงไว้หลายเรื่อง ส่งไปให้เขาพิจารณา
ผมก็รับปากแล้วก็เลือกเรื่องที่ตัวละครแสดงความกตัญญูอย่างชัดเจน ออกมาจากเรื่อง สามก๊ก ซ้องกั๋ง เปาเล่งถูกงอั้น บ้วนฮ่วยเหลา โหงวโฮ้วเพงไซ โหงวโฮ้วเพงหนำ โหงวโฮ้วเพงปัก รีบส่งไปให้อย่างรวดเร็วจนผู้รับแปลกใจ
ก็ผมไม่ได้เขียนขึ้นใหม่ เพียงแต่เอาเรื่องที่เขียนไว้แล้ว มาปรับปรุงใหม่เท่านั้น รวบรวมได้มา ๗ ชุด คือ
ยอดกตัญญูในราชวงศ์ฮั่น
สามทหารเสือ
ตัวตายเพราะนายเขลา
เจ้าเมืองความคิดน้อย
โจรกตัญญู
ผู้ทรงความยุติธรรม
ยอดกตัญญูในราชวงศ์ซ้อง
แล้วก็รอฟังคำตอบด้วยใจระทึก
และในระหว่างนั้น ผมก็ได้นำบางตอน ในชุด ผู้ทรงความยุติธรรม และชุด ยอดกตัญญูในราชวงศ์ซ้อง มาแปะลงในถนนนักเขียนไปพลาง ๆ
พอถึงเดือนมีนาคมของปีนี้ บก.ก็มาปรึกษาหารือในการปรับปรุงการจัดในการจัดหน้าของเรื่องยอดกตัญญูที่ผมส่งไปให้ พร้อมกับขอแผ่นดิสก์ต้นฉบับ ไปตรวจแก้ก่อนจะลงคอมพิวเตอร์ และดำเนินกรรมวิธีของการพิมพ์ด้วย
ความหวังของผมก็เพิ่มขึ้นอีกหลายสิบเปอร์เซ็นต์ ในการที่จะได้เห็นเรื่องของเจียวต้ายเป็นรูปธรรม ให้เพื่อนจับต้องได้ ในไม่ช้านี้
และเมื่อถึงเวลาอีกห้าวัน จะถึงงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ ๓๔ ผมก็ได้รับการเรียกร้องจาก บก.ให้ไปดูปรู๊ฟแรก และหน้าปก หนังสือของเจียวต้าย ที่สำนักพิมพ์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนประชาอุทิศ ฝั่งธนบุรี
ผมจึงดั้นด้นจากถนนสามเสน หน้าวชิรพยาบาล ด้วยรถโดยสารสาย ๓ ลงบางลำพู ต่อด้วยรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ สาย ๘๒ ไปลงที่ใกล้จะถึงทางด่วนที่ข้ามสะพานพระราม ๙ แล้วก็นั่งรถแท็กซี่เลี้ยวเข้าไปในถนนประชาอุทิศ จนถึงปากซอย ๔๕ สุดท้ายนั่งมอเตอร์ไซค์ เข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง และจอดที่หน้าอาคาร ๗
มองลอดเข้าไปในช่องประตูเหล็กยืด ก็เห็นป้าย สำนักพิมพ์ บ้านหนังสือโกสินทร์ แขวนอยู่
เมื่อกดกริ่งแล้วรออยู่ครู่หนึ่ง ผมก็ได้พบกับ บรรณาธิการที่ต้องการพบผม แล้วผมก็ได้ตรวจแก้ต้นฉบับเรื่อง ยอดกตัญญูในพงศาวดารจีน ซึ่งหนากว่า ๑๘๐ หน้า และได้สัมผัสหน้าปกสีขาวกับชื่อตัวอักษรสีชมพูสวยเรียบ ๆ โปรยหัวไว้ด้วยความว่า
“ ถ้าคนไม่รู้จักคุณบิดามารดา ถึงโดยว่าเป็นมนุษย์ ก็เหมือนสัตว์เดรัจฉาน “
ต่อท้ายด้วยนามปากกาของผู้เรียบเรียง และมีชื่อหนังสือเรียงอยู่ทางขวา
บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องอภัย
คราวนี้ความหวังของผมก็เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว
หนึ่งปีในถนนนักเขียน ของเจียวต้าย ก็จบลง
.................แบบ สุขนาฏกรรม.
##########
จากคุณ : เจียวต้าย - [ 29 มี.ค. 49 06:13:30 ]
--------------------------------------------------------------------------------
หนึ่งปีในถนนนักเขียน
หนึ่งปีในถนนนักเขียน
ผมเพิ่งเข้ามาทำความรู้จักกับอินเตอร์เนต เมื่อสิบห้ามกราคมปีก่อนนี้เอง หลังจากที่ลูกชายคนเล็กติดต่อขอใช้บริการจากบริษัท และเสียค่าบริการรายเดือนให้ โดยเปิดดูลู่ทางอยู่หลายวัน แล้วก็ตกลงใจที่จะเข้ามาเสวนาในถนนนักเขียน ของห้องสมุดพันทิปนี้
เพราะผมเขียนหนังสือมานานมาก มีต้นฉบับที่เคยส่งไปลงพิมพ์ในวารสารต่าง ๆ และยังไม่ได้ลงมากมาย หลายประเภท ตั้งบทกลอน บันทึกของคนเดินเท้า เรื่องในอดีต เรื่องสั้นที่เขียนจากประสบการณ์ชีวิต ทั้งที่เป็นเรื่องจริง เรื่องเกินจริง และเรื่องเกือบจริง กับเรื่องอิงพงศาวดารจีนอีกหลายเรื่อง
ผมตั้งใจที่จะเอาเรื่องเหล่านั้น มาเสนอให้นักอ่านในถนนนักเขียน ได้พิจารณาดูบ้างว่าเรื่องของผมเหล่านั้น พอจะมีค่าควรแก่การอ่านหรือไม่
แล้วผมก็ได้รับคำวิจารณ์บ้าง คำติชมบ้าง แม้จะไม่มาก แต่ก็ทำให้ผมดีใจที่มีการต้อนรับจากผู้อ่าน อย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน
เพียงสองสามเดือนต่อมา ผมก็ได้รับคำทักทายจากนักอ่านระดับบรรณาธิการคนหนึ่ง หลังจากที่อ่านเรื่องอิงพงศาวดารจีน ตอน ขวากหนามของโจโฉ เป็นความว่า
“ผมเจอเพชรเม็ดหนึ่งในถนนนักเขียนเสียแล้วครับ ขออภัยที่เจอช้าไปหน่อย ตอนนี้ผมตามก๊อปชุดสามก๊กนี้ของคุณเจียวต้ายไว้หมดแล้ว มีสำนักพิมพ์ไหนรับพิมพ์งานชุดนี้หรือยังครับ”
แถมยังมีนักอ่านอีกคนหนึ่งสนับสนุนว่า
“ ดีใจแทนคุณเจียวต้ายมาก ๆ คุณ (บก.ที่ว่า) เหล่ ๆ แบบนี้ ไม่ธรรมดาเลยครับ เพราะตามปกติไม่เหล่ใครง่าย ๆ “
คงจะเดาได้ว่าผมจะมีความรู้สึกยินดีขนาดไหน แต่ก็ตอบแบบนอบน้อมถ่อมตน ว่ายังไม่เคยมีใครพิมพ์เรื่องของเจียวต้าย และก็ไม่ได้หวังด้วย ทั้ง ๆ ที่ผมเคยมีผลงานจากนิยายอิงพงศาวดารจีนมาแล้ว ในนามปากกาอื่น ซึ่งไม่มีใครรู้จัก ตั้งหลายเล่ม
นั่นก็เป็นกำลังใจอย่างสูงยิ่ง ที่ทำให้ผมเอางานมาแปะลงในถนนนักเขียนติดต่อกัน อย่างไม่ขาดสาย จนกระทั่งอีกสามเดือนต่อมา ผมก็ได้รู้จักตัวจริงของนักเขียนและนักอ่านผู้สนับสนุน ข้างต้น แล้วเราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมา
ส่วน บก.นั้น ผมเพิ่งได้พบและพูดคุยกัน เมื่อปลายปีที่แล้วนี้เอง และด้วยความประหลาดใจว่า เขาเป็นชายหนุ่มที่มีอายุน้อยกว่าที่ผมคาดไว้มาก แถมค่อนข้างไปทางหล่อมากเสียด้วย แล้วเราก็พูดคุยกันได้อย่างดียิ่งอีกคนหนึ่ง ในจำนวนผู้คนในอินเตอร์เนตทั้งหมดที่ผมได้มีโอกาสรู้จัก เพียงสิบคน
หลังจากนั้นอีกไม่นาน ผมก็ได้รับการขอร้องไหว้วาน จาก บก.หนุ่มคนนี้ ให้ช่วยเรียบเรียงเรื่องที่เกี่ยวกับความกตัญญู จากพงศาวดารจีน ที่ผมคุยว่าเรียบเรียงไว้หลายเรื่อง ส่งไปให้เขาพิจารณา
ผมก็รับปากแล้วก็เลือกเรื่องที่ตัวละครแสดงความกตัญญูอย่างชัดเจน ออกมาจากเรื่อง สามก๊ก ซ้องกั๋ง เปาเล่งถูกงอั้น บ้วนฮ่วยเหลา โหงวโฮ้วเพงไซ โหงวโฮ้วเพงหนำ โหงวโฮ้วเพงปัก รีบส่งไปให้อย่างรวดเร็วจนผู้รับแปลกใจ
ก็ผมไม่ได้เขียนขึ้นใหม่ เพียงแต่เอาเรื่องที่เขียนไว้แล้ว มาปรับปรุงใหม่เท่านั้น รวบรวมได้มา ๗ ชุด คือ
ยอดกตัญญูในราชวงศ์ฮั่น
สามทหารเสือ
ตัวตายเพราะนายเขลา
เจ้าเมืองความคิดน้อย
โจรกตัญญู
ผู้ทรงความยุติธรรม
ยอดกตัญญูในราชวงศ์ซ้อง
แล้วก็รอฟังคำตอบด้วยใจระทึก
และในระหว่างนั้น ผมก็ได้นำบางตอน ในชุด ผู้ทรงความยุติธรรม และชุด ยอดกตัญญูในราชวงศ์ซ้อง มาแปะลงในถนนนักเขียนไปพลาง ๆ
พอถึงเดือนมีนาคมของปีนี้ บก.ก็มาปรึกษาหารือในการปรับปรุงการจัดในการจัดหน้าของเรื่องยอดกตัญญูที่ผมส่งไปให้ พร้อมกับขอแผ่นดิสก์ต้นฉบับ ไปตรวจแก้ก่อนจะลงคอมพิวเตอร์ และดำเนินกรรมวิธีของการพิมพ์ด้วย
ความหวังของผมก็เพิ่มขึ้นอีกหลายสิบเปอร์เซ็นต์ ในการที่จะได้เห็นเรื่องของเจียวต้ายเป็นรูปธรรม ให้เพื่อนจับต้องได้ ในไม่ช้านี้
และเมื่อถึงเวลาอีกห้าวัน จะถึงงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ ๓๔ ผมก็ได้รับการเรียกร้องจาก บก.ให้ไปดูปรู๊ฟแรก และหน้าปก หนังสือของเจียวต้าย ที่สำนักพิมพ์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนประชาอุทิศ ฝั่งธนบุรี
ผมจึงดั้นด้นจากถนนสามเสน หน้าวชิรพยาบาล ด้วยรถโดยสารสาย ๓ ลงบางลำพู ต่อด้วยรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ สาย ๘๒ ไปลงที่ใกล้จะถึงทางด่วนที่ข้ามสะพานพระราม ๙ แล้วก็นั่งรถแท็กซี่เลี้ยวเข้าไปในถนนประชาอุทิศ จนถึงปากซอย ๔๕ สุดท้ายนั่งมอเตอร์ไซค์ เข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง และจอดที่หน้าอาคาร ๗
มองลอดเข้าไปในช่องประตูเหล็กยืด ก็เห็นป้าย สำนักพิมพ์ บ้านหนังสือโกสินทร์ แขวนอยู่
เมื่อกดกริ่งแล้วรออยู่ครู่หนึ่ง ผมก็ได้พบกับ บรรณาธิการที่ต้องการพบผม แล้วผมก็ได้ตรวจแก้ต้นฉบับเรื่อง ยอดกตัญญูในพงศาวดารจีน ซึ่งหนากว่า ๑๘๐ หน้า และได้สัมผัสหน้าปกสีขาวกับชื่อตัวอักษรสีชมพูสวยเรียบ ๆ โปรยหัวไว้ด้วยความว่า
“ ถ้าคนไม่รู้จักคุณบิดามารดา ถึงโดยว่าเป็นมนุษย์ ก็เหมือนสัตว์เดรัจฉาน “
ต่อท้ายด้วยนามปากกาของผู้เรียบเรียง และมีชื่อหนังสือเรียงอยู่ทางขวา
บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องอภัย
คราวนี้ความหวังของผมก็เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว
หนึ่งปีในถนนนักเขียน ของเจียวต้าย ก็จบลง
.................แบบ สุขนาฏกรรม.
##########
จากคุณ : เจียวต้าย - [ 29 มี.ค. 49 06:13:30 ]
--------------------------------------------------------------------------------