เรื่องราวสั้นๆคือใช้เครื่องสำอางยี่ห้องหนึ่งแล้ว เกิดอาการแพ้ (ตรวจสอบแล้ว เกิดจากเครื่องสำอาง)
ในครั้งแรกตอนทดลองใช้ไม่แพ้ (เครื่องสำอางขายตรงยี่ห้อ หนึ่งขึ้นต้นด้วยตัวA)
เราต้องการคืนของ ในเมื่อเขาแจ้งก่อนหน้านั้นว่า " ไม่พอใจยินดีคืนเงิน ของเรามีคุณภาพผลิตจากวัตุดิบที่หายากและปลอดภัย "
เราเชื่อว่าของเขาดี ซื้อมาเป็นหมื่นบางตัวดีจริงมีแค่บางอันที่แพ้ เราเลยตัดสินใจเอาไปคืน
โดยเครื่องสำอางนั้นเป็นแป้งใช้ไป 2 ครั้ง
ทางบริษัทได้แจ้งกับเรา 2 เงื่อนไข ในการคืนของ
1.ถ้าเอาเป็นเงิน หักค่าภาษี 5% จากราคาซื้อ
(งงว่า..ทำไมลูกค้าต้องรับความเสี่ยงจากการซื้อของที่ทางบริษัทรับประกันคืนเงิน แต่ทำไมไม่ได้เงินคืนเต็มจำนวน)
2.ถ้าเลือกเป็นวอยเชอร์จะได้เงินเต็มจำนวน แต่ต้องใช้ซื้อของในร้านภายใน 1 ปี
(แต่ไม่มีเครื่องสำอางอื่นในราคานี้นะ หมายถึงถ้าจะใช้ ต้องเพิ่มเงินหรือยอมขาดทุน)
สุดท้ายคือเลือกอะไรก็ขาดทุน ใช่ป่าว>< (เป็นเพราะเราแพ้เอง) เราก็ต้องยอม
ต้องออกตัวว่าไม่เคยใช้ของแบรนด์ดังเลยไม่ทราบขั้นตอนการคืนของและการดำเนินการ
คือเราแค่สงสัยและติดใจจริงๆ ถ้าเข้าใจผิดต้องอภัยจริงๆคะ เราจะได้เอามาเรียนรู้ต่อไปว่าควรทำอย่างไร
คืนเครื่องสำอางแบรนด์ดังแต่ไม่ได้คืนเงิน คือ?
ในครั้งแรกตอนทดลองใช้ไม่แพ้ (เครื่องสำอางขายตรงยี่ห้อ หนึ่งขึ้นต้นด้วยตัวA)
เราต้องการคืนของ ในเมื่อเขาแจ้งก่อนหน้านั้นว่า " ไม่พอใจยินดีคืนเงิน ของเรามีคุณภาพผลิตจากวัตุดิบที่หายากและปลอดภัย "
เราเชื่อว่าของเขาดี ซื้อมาเป็นหมื่นบางตัวดีจริงมีแค่บางอันที่แพ้ เราเลยตัดสินใจเอาไปคืน
โดยเครื่องสำอางนั้นเป็นแป้งใช้ไป 2 ครั้ง
ทางบริษัทได้แจ้งกับเรา 2 เงื่อนไข ในการคืนของ
1.ถ้าเอาเป็นเงิน หักค่าภาษี 5% จากราคาซื้อ
(งงว่า..ทำไมลูกค้าต้องรับความเสี่ยงจากการซื้อของที่ทางบริษัทรับประกันคืนเงิน แต่ทำไมไม่ได้เงินคืนเต็มจำนวน)
2.ถ้าเลือกเป็นวอยเชอร์จะได้เงินเต็มจำนวน แต่ต้องใช้ซื้อของในร้านภายใน 1 ปี
(แต่ไม่มีเครื่องสำอางอื่นในราคานี้นะ หมายถึงถ้าจะใช้ ต้องเพิ่มเงินหรือยอมขาดทุน)
สุดท้ายคือเลือกอะไรก็ขาดทุน ใช่ป่าว>< (เป็นเพราะเราแพ้เอง) เราก็ต้องยอม
ต้องออกตัวว่าไม่เคยใช้ของแบรนด์ดังเลยไม่ทราบขั้นตอนการคืนของและการดำเนินการ
คือเราแค่สงสัยและติดใจจริงๆ ถ้าเข้าใจผิดต้องอภัยจริงๆคะ เราจะได้เอามาเรียนรู้ต่อไปว่าควรทำอย่างไร