ควายยังมียันมาร์ แล้วทำไมคนจะมีหุ่นยนต์มาทุ่นแรงไม่ได้

หลายคนกำลังกังวลว่า หลายอาชีพ ในอนาคตจะมีโอกาสเสี่ยงตกงานสูง เพียงเพราะธุรกิจต่างๆ กำลังเลือกใช้หุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติทำงานแทนมนุษย์แล้ว แต่สำหรับผม เป็นสิ่งที่น่ายินดีที่หุ่นยนต์ หรือระบบอัตโนมัติเหล่านั้นถูกสร้างโดยมนุษย์เช่นกัน

ทำไมในประเทศที่พัฒนาแล้ว ถึงมีการใช้งานแรงงานจากหุ่นยนต์ หรือระบบอัตโนมัติเพิ่มสูงขึ้นทุกปีๆ อย่างเช่น ญี่ปุ่น ที่มีจำนวนเครื่องขายของหยอดเหรียญอัตโนมัติ เห็นได้ทุกซอกซอย ทุกมุมของประเทศ แม้แต่ในที่ห่างไกลความเจริญ ตู้ขายสินค้าอัตโนมัติมีมากกว่าร้านค้าโชห่วย ขายทุกอย่างตั้งแต่สากกะเบือ ยันเรือรบ เรียกว่าตู้กดสินค้าของญี่ปุ่นมีทุกอย่างให้เลิอกซื้อจริงๆ

หลายสิ่งหลายอย่างรอบๆ ตัวในประเทศไทย ก็ลดการใช้แรงงานมนุษย์อยู่แล้วเช่นกัน ตั้งแต่ด่านเก็บค่าผ่านทางที่ใช้ระบบเก็บเงินอัตโนมัติ หักค่าเดินทางผ่านบัตร Easy Pass / M Pass ที่ช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการเก็บเงิน และความคล่องตัวในการเดินทางมากขึ้น นั่นยังไม่รวมไปถึงงานที่อันตรายต่างๆ ที่หุ่นยนต์สามารถเข้ามาช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับชีวิตของมนุษย์ ผ่านการควบคุมของมนุษย์ เช่น หุ่นยนต์กู้ระเบิด หรือหุ่นยนต์โดรนสำรวจในพื้นที่อันตรายที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าไปอย่างปลอดภัยได้

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า ทุกธุรกิจยังคงต้องการแรงงานคนอยู่ แต่เนื่องจากกระแสของการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของโลกยุค 4.0 ทำให้ธุรกิจมีการแข่งขันสูงขึ้น การเตรียมความพร้อมของแรงงานเพื่อรองรับการผลิตจึงไม่เพียงพอกับความต้องการ รวมถึงการขาดแรงงานคนที่มีทักษะ ความรู้ และความสามารถ หรือก็คือ โรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยกำลังผลิตแรงงานออกมาไม่ตอบสนองต่อความต้องการ และเหมาะสมกับตลาดแรงงานของไทยในปัจจุบัน

"จากภาพรวมสถานประกอบการต่างๆ ยังมีความต้องการแรงงานที่มีคุณวุฒิ และทักษะเข้าสู่ตลาดของแรงงาน แต่ด้วยคุณสมบัติของแรงงานไทยที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการ จึงทำให้ต้องมีการแนะแนวอาชีพให้แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนให้เข้าใจถึงความต้องการของตลาดแรงงาน และจะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ" ที่มา : สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.)

พูดง่ายๆ ก็คือ "ประเทศไทยกำลังผลิตแรงงานไม่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน" บางสาขาเกินความต้องการ บางสาขาก็ผลิตออกมาน้อย หรือไม่มีการผลิตเลย จนทำให้เกิดผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ จนทำให้แรงงานเกิดภาวะว่างงาน แต่ธุรกิจก็ยังขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมต่างๆ เป็นจำนวนมากเช่นกัน

ตามข้อมูลอ้างอิงจาก สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) ระบุว่า ประเทศไทยมีอัตราคนว่างงาน 1.1 % แต่ความต้องการแรงงานในอุตสาหกรรมต่างๆ ยังมีความต้องการแรงงานอยู่ แต่ก็ขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะตามที่ต้องการ จนต้องมีการพึ่งพาแรงงานจากเครื่องจักร และใช้เทคโนโลยีระบบอัตโนมัติเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้น มนุษย์เงินเดือนทั้งหลายจึงควรจะต้องมีการปรับตัวได้แล้ว ไม่ควรจะทำงานแบบให้ผ่านไปวันๆ ทำงานซ้ำๆ ในรูปแบบเดิมๆ เหมือนที่เรามักจะได้ยินว่า "ข้าราชการไทย มักทำงานกันแบบเช้าชาม เย็นชาม" หากยังไม่เพิ่มคุณค่าของตัวเอง ตำแหน่งงานเดิมที่มีการใช้แรงงานจากคนอยู่ก็อาจจะถูกแทนที่ด้วยพนักงานใหม่ ที่มีเงินเดือนถูกกว่า หรือนำเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ ที่มีกำลังการผลิตได้มากกว่า เช่น หุ่นยนต์ หรือระบบอัตโนมัติ

อย่างประเทศเยอรมันเอง ตำแหน่งด้านการผลิตในอุตสาหกรรมเอง เริ่มถูกวางแผนในอนาคตให้ถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ แต่ในขณะเดียวกันก็จะมีตำแหน่งใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า โดยแรงงานคนจะพัฒนาทักษะ ความรู้ และความสามารถสูงขึ้น

แต่ประเทศไทยยังคงถูกปลูกฝังด้วยวัฒนธรมเดิมๆ ความคิดเดิมๆ  จากคนรุ่นเก่าที่บอกให้เรียน ตามที่พ่อ-แม่บอกให้เรียน โดยไม่รู้ว่าจบมาแล้วจะทำอะไร หรือ เรียนเพื่อเอาใบปริญญาเท่านั้น สังคมไทยเป็นประเภทที่เห็นคนอื่นทำอะไรได้ดีก็มักจะให้ทำตาม เห็นคนเป็นหมอ วิศวะ มีตำแหน่งหน้าที่การงานสูง มีเงินเดือนดี ใช้ของหรูหรา ฟุ่มเฟือย เป็นเจ้าคนนายคน ก็อยากให้ลูก-หลานเป็นอย่างนั้นบ้าง จนไม่ได้เหลียวแลในภาพรวมว่า ตำแหน่งที่มีอยู่ในตอนนี้มีเกินความต้องการแล้วหรือไม่

ภาพรวมของสังคมยุคปัจจุบัน กับสังคมยุคปู่-ย่า-ตา-ทวดของเรา แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สังคมทุกวันนี้เน้นเป็นสังคมการผลิตออกมาเป็นจำนวนมากกว่าเดิม ถ้าหากมีหุ่นยนต์มาช่วยทำ มนุษย์ก็จะยิ่งสบายมากขึ้น

หากวันนี้ แรงงานยุคใหม่ยังคิดแบบเดิมๆ ทำอะไรแบบเดิมๆ นั่นเป็นสัญญาณอันตรายที่บอกว่า ตำแหน่งของคุณอาจจะถูกแทนที่ในอนาคตอย่างแน่นอน