ก่อนที่จะหมดโปรที่รัฐบาลมีไว้ให้คนไทย ก็ รถไฟฟรีในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ นั่งฟรีสะก่อนจะหมดโปรผมเลยนั่งไปเที่ยวกาญจนบุรีกันเลย จุดมุ่งหมายในการเที่ยวก็คิดเอาตอนใกล้ถึงวันหยุดที่จะไปนี่แหละ โทรไปจองที่พักหลายๆ ที่ในกาญจณบุรีก็เต็มหมดสะแล้ว เลยลองโทรไปถามจุดกางเต็นในน้ำตกเอราวัณ เจ้าหน้าที่บอกไม่เปิดให้จอง.... "แบบนี่ผมก็ต้องไปลุ้นเอาสิครับ" เราจะมีที่นอนกันไหม และแผนสองที่ผมวางไว้คือถ้าเต็นไม่เหลือให้เช่า ก็นอนแบบไม่ต้องกางเต็นในศาลาข้างแม่น้ำเลยได้บรรยากาศไปอีกแบบ

ถึงเช้าวันเดินทางออกรีบเดินทางออกไปสถานีรถไฟธนบุรี ตั้งแต่เช้าเพื่อรับตั๋วฟรี มาถึงแล้วก็ไม่รอช้ารีบไปต่อคิวรับตั๋วยื่นบัตรที่รัฐออกให้ เพื่อแสดงตนว่าผมเป็นคนไทยนะครับ แล้วก็รับตั๋ว ฟรี ฟรีสไตล์เลยครับ จะนั่งไหนก็เลือกเอาแต่ต้องว่องไวนิดนึงถ้าลุกเสียม้า คนเยอะมากกกก สงสัยตรงกับวันหยุดยาว พอรถไฟจอดเทียบชานชาลา เราก็พร้อมจะขึ้นรถกับผู้ร่วมทริปกันอีก 4 คนที่เต็มไปด้วยความหวัง หวังว่าจะมีเต็นนอน

รถไฟออกจากสถานี ประมาณ 8:00 น. น่าจะถึงประมาณ 13:30 น. สบายเลยจร้า ทั้งตื่นทั้งหลับบนรถไฟแน่ๆในเวลาที่ใช้ไปราว 6 ชม. แต่ไม่หลับหรอกครับ เพราะจะมีอะไรให้เราตื่นเต้นตลอดเวลา อย่างแม่ค้าพ่อค้าขายของต้องชวนหิวตลอดทาง มันเป็นเสน่ของรถไฟไทยเราจริงๆ แต่ที่เราไม่ควรหลับและพลาดไม่ได้เลยก็คือ ทิศทัวน์สองข้างทางมันชวนให้ผมอยากมุดหัวออกมาถ่ายรูปจริงๆ

แต่...ไม่แนะนำนะครับ เพราะท่านอาจจะโดนต้นหญ้าหรือสะพาน ประทะใบหน้าเอาได้ ขนาดนั่งอยู่ข้างในรถไฟ หญ้าคันๆ มันยังสลัดขนใส่ให้เราคันเล่นเลย พอรถไฟวิ่งออกจากกรุงเทพมหานคร ก็เริ่มมีวิวภูเขาให้เอากล้องออกมาส่องกัน รถไฟถึงสถานีกาญจบุรีคนก็เริ่มลงกันเยอะ ต่อจากนี้ก็จะเป็นเส้นทางที่สวยและน่าหวาดเสียวของทางรถไฟสายมรณะแล้วครับ

เรานั่งต่อไปถึงสถานีน้ำตกกะว่าจะไปหารถบัสเดินทางต่อไปน้ำตกเอราวัณ (เพื่อนในทริปบอกว่าดูรีวิวมาไปลงสถานีน้ำตกแล้วต่อรถไปได้)

แต่....... มันไม่ใช่อย่างงั้นเลยพอไปถึงสถานีน้ำตก ตามหารถที่จะเดินทางต่อไปน้ำตกเอราวัณ (ไม่มีจร้าาา) ต้องเหมารถอย่างเดียว 1000 บาทเรามากัน 5 คนเหมา 1000 บาทถือว่าทริปนี้ไม่ประหยัดละ สมาชิกในทริปก็พากันเริ่มหาแนวร่วมที่จะแชร์ค่ารถไปกับเรา (หายากมาก) เหมือนเราหลงมากลุ่มเดียว
แต่...ในที่สุดเราก็ได้แนวร่วมที่จะแชร์ค่ารถไปกับเราอีก 3 คนน้องๆ ก็ไม่ได้วางแผนอะไรเลยเหมือนกันเลยชวนไปน้ำตกเอราวัณด้วยกัน ในทริปเราก็เพิ่มมาอีก 3 คน และได้เหมารถสองแถวจากพี่เบสลดราคาให้เหลือ 800 บาท ในๆก็เหมารถละแกเลยแนะนำร้านเพื่อจะซื้ออาหารไปทำกินที่จุดกางเต็น แวะตลาดใกล้ๆสถานีน้ำตกจำไม่ได้ว่าชื่อตลาดอะไร ซื้อหมูเพื่อทำน้ำจิ้มกันเอง เจ้าของร้านก็ใจดีมากให้เครื่องครัวอุปกรณ์ให้เราทำกันเองเต็มที่ ทั้งหมักหมู ทำน้ำจิ้มใน ราคา 20 บาท


เดินทางมาถึงน้ำตกเราใช้เวลาประมาณ 30 นาทีไกลเหมือนกันระหว่างทางบรรยากาศธรรมชาติ ผ่านภูเขา หมู่บ้าน แม่น้ำ เหมารถ800 ผมคิดว่าคุ้ม เพราะเราได้บรรยากาศที่แตกต่าง
ถึงทางเข้าอุทยานเอราวัณเก็บเงินค่าเข้า
ผู้ใหญ่ 100 บาท นักศึกษา 50 บาท น้องที่มากับเรา 3 คนเป๋็นนักศึกษาทั้ง 3 คน แต่ 1 คนลืมเอาบัตรนักศึกษามาโดนเต็มๆเหมือนเรา 100 แต่พอขออนุโลมให้น้องกลับโดนชักสีหน้า (ส่วนตัวผมคิดว่า ค่าเข้าอุทยานสำหรับคนไทยมันแพงขนาดนี้เลยหรอวะ ในบอกว่าป่าทรัพยากรของไทย ) แต่ก็ช่างเหอะถือว่ามาซื้อแบตธรรมชาติชาร์จพลังในการทำงานต่อ เสียค่าเข้า 100 บาทถ้าเอาเต็นเอาของเข้ามาเองโดนไม่ต้องเช่าก็ถือว่าคุ้มครับ (แต่ผมไม่แน่ใจว่ารถต้องเสียค่าเข้าด้วยป่าว)

สมาชิกร่วมทริปเราจากมากัน 5 คน เพิ่มน้อง ๆ 3 คน เป็นทริปที่มีมิตรภาพใหม่ๆจริงๆ


เดินทางถึงประมาณ 5 โมงเย๋็น รีบเลยครับ รีบไปเช่าเต็นกลัวได้นอนศาลา พอถึงจุดเช่าก็โล่งใจมาเยอะเต็นยังไม่เต็มได้ไปต่อ แล้วรีบเอาของเป็นเก็บเช่าเต่าย่าง อาบน้ำหลังจากหนียวตัวคันๆ จากดอกหญ้าที่ปลิวใส่บนรถไฟ


บรรยากาศวันที่เรามาก็ถือว่าเงียบดีครับ เย็นๆ ไม่วุ่นวายคนไม่เยอะดีขนาดตรงวันหยุดยาว แอ๊ะ..หรือเขาไปที่อื่นกันหมด
เช้าวันที่ 2 ก่อนจะเดินทางกลับไปเล่นน้ำกันก่อน ไปชั้น 7 เลยเอาให้คุ้ม เขาบอกว่าถ้ามาน้ำตกเอราวัณถ้าไม่ไปถึงชั้น 7 จะมาไม่ถึงเราก็เดินขึ้นไปเล่นชั้น 7 เลยครับ น้ำกำลังพอดีเล่น และน้ำเย็นมากๆ

ศาลานั่งพักจุดนี้ อากาศดีมาก

อยากถ่ายใกล้ๆ แต่กลัวเปียก

แช่น้ำ เย็นๆ ประทะน้ำตก ส่องสาวๆบ้าง มันก็ชิวไปอีกแบบ

ฝึกเคล็ดลับวิชา

ทริปแห่งมิตรภาพเที่ยวกับเพื่อนมัน มันส์กว่าเที่ยวคนเดียว เราจึงต้องหามิตรภาพกับเพื่อนร่วมทางเสมอ
เล่นน้ำเสร็จ อยู่เกือบชั่วโมง ก็เริ่มหิวสิครับชวนกันลงมากินข้าวแล้วเดินทางกลับกัน ขาลงก็แวะเล่นน้ำเกือบทุกชั้น ยกเว้นชั้นที่ลึกๆ กลัว.... ยิ่งตอนโดนขึ้นเจอกับศาลระหว่างทางยิ่งทำให้เราต้องคิดระวังในการเล่นน้ำ ฝากเพื่อนๆ ไปเล่นน้ำก็ระวังด้วยนะครับ แนะนำให้สังเกตตรงต้นไม้ที่มีของไหว้แล้วท่านจะระมัดระวังในการเล่นน้ำ อาบน้ำอาบน้ำเสร็จนั่งพักรอขึ้นรถเอราวัณ - กาญจนบุรี 50 บาท ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 1.30 ชม. แล้วต่อรถตู้มาลง กทม. 120 บาท (รู้แบบนี้ลงขึ้นรถบัสต่อตั้งแต่สถานีกาญจบุรีแล้วครับ) แต่ถ้าเราลงที่สถานีรถไฟกาญจนบุรี เราคงไม่เจอมิตรภาพจากการร่วมเดินทางและบรรยากาศใหม่ๆ ที่เราต้องสัมผัส
สรุปค่าใช้จ่ายในการเดินทาง / ต่อคน
1. ค่ารถไฟ = ฟรี
2. ค่ารถสองแถวเหมา = 100 *800/8
3. ค่าเข้าอุทยาน = 100
4. ค่าเช่าเต็น = 100 ราคาเช่า 300 แต่หาร 3
5. ค่าเต่าย่าง = 20
6. ค่ารถบัสเอราวัณ - กาญจนบุรี = 50
7. ค่ารถตู้กาญ - BTS หมอชิต = 120
รวม 490 บาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/touryesss/
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.youtube.com/channel%2FUCDb4OdJDI0pioRqmH1wmCNg
[CR] น้ำตกเอราวัณ....น่าไปจริงเหรอ ?
แต่...ในที่สุดเราก็ได้แนวร่วมที่จะแชร์ค่ารถไปกับเราอีก 3 คนน้องๆ ก็ไม่ได้วางแผนอะไรเลยเหมือนกันเลยชวนไปน้ำตกเอราวัณด้วยกัน ในทริปเราก็เพิ่มมาอีก 3 คน และได้เหมารถสองแถวจากพี่เบสลดราคาให้เหลือ 800 บาท ในๆก็เหมารถละแกเลยแนะนำร้านเพื่อจะซื้ออาหารไปทำกินที่จุดกางเต็น แวะตลาดใกล้ๆสถานีน้ำตกจำไม่ได้ว่าชื่อตลาดอะไร ซื้อหมูเพื่อทำน้ำจิ้มกันเอง เจ้าของร้านก็ใจดีมากให้เครื่องครัวอุปกรณ์ให้เราทำกันเองเต็มที่ ทั้งหมักหมู ทำน้ำจิ้มใน ราคา 20 บาท
เดินทางมาถึงน้ำตกเราใช้เวลาประมาณ 30 นาทีไกลเหมือนกันระหว่างทางบรรยากาศธรรมชาติ ผ่านภูเขา หมู่บ้าน แม่น้ำ เหมารถ800 ผมคิดว่าคุ้ม เพราะเราได้บรรยากาศที่แตกต่าง
ถึงทางเข้าอุทยานเอราวัณเก็บเงินค่าเข้า
ผู้ใหญ่ 100 บาท นักศึกษา 50 บาท น้องที่มากับเรา 3 คนเป๋็นนักศึกษาทั้ง 3 คน แต่ 1 คนลืมเอาบัตรนักศึกษามาโดนเต็มๆเหมือนเรา 100 แต่พอขออนุโลมให้น้องกลับโดนชักสีหน้า (ส่วนตัวผมคิดว่า ค่าเข้าอุทยานสำหรับคนไทยมันแพงขนาดนี้เลยหรอวะ ในบอกว่าป่าทรัพยากรของไทย ) แต่ก็ช่างเหอะถือว่ามาซื้อแบตธรรมชาติชาร์จพลังในการทำงานต่อ เสียค่าเข้า 100 บาทถ้าเอาเต็นเอาของเข้ามาเองโดนไม่ต้องเช่าก็ถือว่าคุ้มครับ (แต่ผมไม่แน่ใจว่ารถต้องเสียค่าเข้าด้วยป่าว)
เช้าวันที่ 2 ก่อนจะเดินทางกลับไปเล่นน้ำกันก่อน ไปชั้น 7 เลยเอาให้คุ้ม เขาบอกว่าถ้ามาน้ำตกเอราวัณถ้าไม่ไปถึงชั้น 7 จะมาไม่ถึงเราก็เดินขึ้นไปเล่นชั้น 7 เลยครับ น้ำกำลังพอดีเล่น และน้ำเย็นมากๆ
เล่นน้ำเสร็จ อยู่เกือบชั่วโมง ก็เริ่มหิวสิครับชวนกันลงมากินข้าวแล้วเดินทางกลับกัน ขาลงก็แวะเล่นน้ำเกือบทุกชั้น ยกเว้นชั้นที่ลึกๆ กลัว.... ยิ่งตอนโดนขึ้นเจอกับศาลระหว่างทางยิ่งทำให้เราต้องคิดระวังในการเล่นน้ำ ฝากเพื่อนๆ ไปเล่นน้ำก็ระวังด้วยนะครับ แนะนำให้สังเกตตรงต้นไม้ที่มีของไหว้แล้วท่านจะระมัดระวังในการเล่นน้ำ อาบน้ำอาบน้ำเสร็จนั่งพักรอขึ้นรถเอราวัณ - กาญจนบุรี 50 บาท ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 1.30 ชม. แล้วต่อรถตู้มาลง กทม. 120 บาท (รู้แบบนี้ลงขึ้นรถบัสต่อตั้งแต่สถานีกาญจบุรีแล้วครับ) แต่ถ้าเราลงที่สถานีรถไฟกาญจนบุรี เราคงไม่เจอมิตรภาพจากการร่วมเดินทางและบรรยากาศใหม่ๆ ที่เราต้องสัมผัส
สรุปค่าใช้จ่ายในการเดินทาง / ต่อคน
1. ค่ารถไฟ = ฟรี
2. ค่ารถสองแถวเหมา = 100 *800/8
3. ค่าเข้าอุทยาน = 100
4. ค่าเช่าเต็น = 100 ราคาเช่า 300 แต่หาร 3
5. ค่าเต่าย่าง = 20
6. ค่ารถบัสเอราวัณ - กาญจนบุรี = 50
7. ค่ารถตู้กาญ - BTS หมอชิต = 120
รวม 490 บาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้