"กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวแรกถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ"
ที่มาของทริปนี้เริ่มมาจากชีวิตมหาลัยที่โหดร้ายเหลือเกินนน TT ต้องขอไว้อาลัยกับคะแนนสอบมิดเทอมและไฟนอลเลยทีเดียว พอหลังสอบมิดเทอมไปได้ไม่นานก็มีเพื่อนในกรุ๊ปเสนอมาว่า " เอ้อ ธันวานี้จัดทริปกันมั้ย แล้วไปทีไหนดี " นึกถึงทริปหน้าหนาวก็ไม่พ้นภาคเหนือแหละะ . . . แต่เอ๊ะ ! หน้าหนาวกาญจนบุรีก็อากาศดีนี่นาาา รีวิวก็มีเยอะ (บังเอิญ จขกท เป็นคนกาญจนบุรีด้วยเลยถือโอกาสพาเพื่อนเที่ยวพอดี / เพื่อนๆเรียกทริปนี้ว่า "ทริปส่งเรากลับบ้าน" ) เอาละวะ เฮดกรุ๊ปก็เริ่มถามเพื่อนๆว่ามีใครจะไปบ้างจะได้วางแผนบลาๆๆ แรกๆก็มีมาแค่ประมาณ 10 คน สักพักก็ประมาณ 15 คนเราว่าเอ้ออ 15 คนก็กำลังดีแล้วก็คุยๆกับไปสักพักว่าอยากไปเที่ยวไหนในกาญบ้างก็มีคนเสนอ"น้ำตกเอราวัณ" เราว่ามันก็โอเคนะ แล้วอีกคนก็เสนอว่าอยากไปนอนแพก็เลยลงตัว ปรากฏว่าพอตกลงกันได้เราก็เริ่มหาแพหาที่พักกัน แต่...!! ช่วงกลางๆเดือนพฤศจิฯ ไม่รู้อะไรดลใจให้เพื่อนๆลงชื่อมาทริปถล่มทลายขนาดนี้ จากทริปขนาดเล็กกลายเป็นทริปขนาดกลางขึ้นมาทันใดเพราะต้องจัดทริปสำหรับคน 30 คน ( แต่วันไปจริงๆมีแค่ 27 คน ) ก็เลยกลายเป็นที่มาของทริปที่ จขกท จะบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางอย่างที่เรียกว่าอัดแน่นไปด้วยปริมาณและคุณภาพจริงๆ !! (ค่าใช้จ่ายจะสรุปให้ตอนท้ายนะครับบบ)
+ เราเดินทางโดยใช้รถสาธารณะตลอดการเดินทางครับ เลยอาจเป็นปัญหาแรกของการเดินทางเป็นหมู่คณะ
+ กระทู้นี้เน้นรายละเอียดการเดินทางเป็นหลัก รายละเอียดอาจจะเยอะนิดนึง // รูปอาจจะน้อยไปหน่อยเพราะส่วนมากมีแต่รูปหลุดๆ แหะๆ
[ เริ่มจากการเดินทางจาก กทม ไป กาญจนบุรี ]
ด้วยความ advanture ของเราเอง เราเลยอยากให้เพื่อนนั่งรถไฟฟรี จากสถานีรถไฟธนบุรี(ชื่อเดิมคือ สถานีรถไฟบางกอกน้อย) ไปยังสถานีรถไฟกาญจนบุรี

รถไฟสายออกจากสถานีธนบุรีเวลา 07.45 น. (ตอนออกไม่เลทนะครับแต่ตอนถึงอาจจะไม่ตรงเวลา 55555 ระวังตกรถนะครับ) มาถึงเราสามารถมาขอรับตั๋วรถไฟฟรีจากธนบุรีไปน้ำตกไทรโยคน้อยได้ครับ // แต่เราไม่ได้นั่งรถไฟจนสุดสายครับ เราลงตั้งแต่ถึงสถานีกาญจนบุรี

แรกๆเพื่อนก็กังวลกันว่าบนรถไฟจะมีที่นั่งหรือเปล่า ? (เพราะว่ามากันเยอะ) , บนรถไฟจะร้อนหรือเปล่า ?

ปรากฏว่าที่นั่งพอก็โล่งใจ(ถึงแม้จะต้องนั่งแยกโบกี้แต่ก็ยังได้นั่งเป็นกลุ่มๆ) และเนื่องจากว่ามันเป็นหน้าหนาวพอดี ลมเย็นๆที่พัดเข้ามาเรื่อยๆกับบรรยากาศบนรถไฟที่ชวนให้เปิดประเด็นการพูดคุยได้ตลอดการเดินทาง

บ้างก็หลับ บ้างก็ถ่ายรูป บ้างก็นั่งเมาท์ คิดไม่ผิดจริงๆครับที่มานั่งรถไฟ // ใครอยากจะมาลองสัมผัสอากาศดีๆบนรถไฟแนะนำให้ไปหน้าหนาวนะครับ หน้าร้อนนี่ร้อนจนตับละลายเลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถ้าใครไม่ได้วางแผนไว้ หรือจะวันเดย์ทริป สามารถนั่งรถไฟขบวนนี้ต่อไปได้เรื่อยๆเลยครับ รถไฟจะผ่านสะพานข้ามแม่น้ำแคว ผ่านเส้นทางรถไฟสายมรณะ ผ่านถ้ำกระแซ ผ่านไปเรื่อยๆจนถึงน้ำตกไทรโยคน้อย แล้วสามารถนั่งจากไทรโยคน้อยกลับออกมาได้ครับ // เรื่องลำดับสถานีและเวลา จขกท ก็ไม่แม่นครับ

เอ๊ะ ! นอกเรื่องไปตั้งไกล . . . กลับมาที่แผนของเราดีกว่า เริ่มแรกตั้งใจจะไปน้ำตกเอราวัณก่อน แต่ดันเกิดปัญหาตอนจองห้องพักจากเว็บอุทยานก็เลยต้องไปแพก่อนแล้วค่อยไปน้ำตก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ http://nps.dnp.go.th/ เข้าไปแล้วด้านบนซ้ายจะมีจองห้องพักแต่ต้องสมัครสมาชิกก่อนนะครับ เว็บจะช้านิดนึงตอนผมจองครั้งแรกเว็บค้างพอรีเฟรชใหม่ปรากฎว่าบ้าน 3 หลังที่จองไว้หาย แล้วจะจองใหม่ก็ไม่ได้โทรไปทางอุทยานเบอร์ที่ดูแลเรื่องนี้ก็ขึ้นสายไม่ว่าง = = เลยโทรไปหาคอลเซนเตอร์ให้เขาติดต่อแผนกนี้ให้ก็รอนานพอสมควร สุดท้ายขอให้เขาเช็คชื่อคนจองเขาก็บอกว่าถ้าไม่มีบ้านให้จองหมายความว่ามีคนจองไปแล้ว(ก็เรานี่ไง TT จองแล้วเว็บค้างชื่อไม่อยู่ในระบบ บ้านก็หายไปด้วย) แล้วเขาก็ไม่เช็คให้ว่าใครจองเขาบอกว่าเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล บลาๆๆๆ ก็เลยต้องเปลี่ยนวันจองเลยกลายเป็นว่าต้องสลับวันไปแพก่อนแล้วค่อยไปน้ำตก จากนั้นพอวันที่ไปอุทยานจริงๆก็สอบถามเขาไปว่าวันนั้น(วันที่พนักงานบอกมีคนจองไปแล้ว)มีคนมาเข้าพักที่บ้าน 3 หลังนี้ไหม(บ้านที่ผมจอง) เขาก็บอกว่าระบบมีปัญหาก็เลยไม่มีคนเข้าพัก // ไอเราก็ว่าแล้วแหละ =^= ถ้าใครจองแล้วระบบค้างอย่าเพิ่งรีเฟรชนะครับอดทนรอนิดนึง T^T
บนรถไฟบรรยากาศชิลล์มากครับ ลมเย็นๆหน้าหนาวควบกับเส้นเล็กอร่อยๆ เอ๊ะ !!
บนรถไฟจะมีคนหาบเร่ขายพวกอาหารเครื่องดื่มตลอดทาง

แต่เห็นเพื่อนบอกว่าก๋วยเตี๋ยวอร่อยจริงๆนะ ราคาแค่ 10 บาทต่อห่อเอง(เพื่อนยังบอกอีกว่าเคี้ยวน้ำตาลสนุกเลยแต่ก็อร่อยดี) // ไอเราก็กินข้าวเหนียวไก่ทอดมาแล้วก็เลยยังอิ่มๆเสียดายไม่ได้ลองกิน
พอมาถึงสถานีกาญจนบุรีก็ถ่ายรูปพอหอมปากหอมคอ แล้วก็เตรียมตัวเดินทางต่อ

[เดิมตั้งใจว่าจะหารถสองแถวนั่งไปลงขนส่ง แล้วต่อรถมินิบัสไปลงเอราวัณ โดยเราได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ของเอราวัณเพื่อที่จะเช่ารถไปเขื่อนศรีฯไว้ก่อนแล้ว]
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เริ่มแรกตอนวางแผนเราหาแพบนเว็บ บนรีวิวพันทิปเช็คราคาบลาๆ จนเจอที่นึงเริ่มถูกใจเราก็จะหาทางไปซึ่งอาจจะต้องนั่งรถต่อจากเอราวัณไปแพเพราะไม่มีรถที่ไปเขื่อนศรีฯโดยตรงเลย เราก็เลยติดต่อหารถจากเจ้าหน้าที่อุทยานเพื่อจะไปแพที่เราเล็งไว้ (หาทางไปก่อนถ้าไปได้ค่อยโอนมัดจำ) ปรากฏว่าเพื่อนลูกชายบลาๆๆของเจ้าหน้าที่เองก็ทำแพอยู่เหมือนกันซึ่งราคาถูกกว่าและออพชั่นดีกว่า เราก็เออก็เอาวะเลยเปลี่ยนใจกระทันหันไปแพนี้ละกันเพื่อนๆก็โอเค ก็เลยโทรคุยรายละเอียดแล้วก็มัดจำ
แต่เห้ยยย !! บังเอิญว่ามีรถสองแถว(เช่าเหมา)มารับตรงสถานีรถไฟเลย เรามากัน 27 คนก็เลยเช่าเหมารถ 2 คันเลยต้องเปลี่ยนแผนนิดหน่อย (โทรไปแจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามีรถไปแพแล้วไม่ต้องรอรับเรา/รถที่ติดต่อไว้เป็นรถส่วนตัวของเจ้าหน้าที่เองก็เลยไม่มีปัญหาอะไร)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เหมารถ 2 คัน 1800 แต่เจรจาแล้วลดเหลือ 1700 ซึ่งถ้าเราไปเมือง แล้วต่อรถไปเอราวัณ แล้วต่อรถเขื่อนอีกน่าจะไม่คุ้มเพราะจำนวนมันเยอะ กลายเป็นว่าจากที่จะแวะกินข้าวกลางวันที่ขนส่งก็เลยไม่ได้กินกัน เนื่องจากเรามีแผนที่จะทำอาหารกินกันเองบนแพ (บนแพมีเตาแก๊ส+แก๊ส และเตาถ่านให้รวมถึงจานชามช้อนอยู่ในราคาเริ่มต้น ส่วนถ่านซื้อเพิ่มเองต่างหาก) เราเลยต้องไปตุนเสบียงก็เลยบอกให้คนขับแวะ BigC คนขับก็รอเราเดินช้อปปิ้งกันเป็นชั่วโมง เมื่อซื้อเสบียงสำหรับแพคืนนี้เสร็จก็เดินทางไปแพกันเลย . . . .
เมื่อรถมาถึงท่าลงแพ (เป็นท่าที่เอาไว้จอดเรือขนสัมภาระ มันเป็นเรือที่เอาไว้ลากแพแหละ) ก็ไม่รอช้าที่จะควักโทรศัพท์จับกล้องขึ้นมาถ่ายรูปกัน พอถ่ายรูปกันเสร็จเราก็ขึ้นเรือจากตรงนั้นแล้วเอาของไปลงแพที่จองไว้(เจ้าของแพเป็นกันเองมากๆ)

ตอนไปถึงแพไม่มีกระจิตกระใจจะถ่ายรูปเลย เห็นน้ำเห็นเสื้อชูชีพแขวนอยู่เรียงรายแล้วอดใจไม่ไหว ฮ่าๆๆ สวมชูชีพแล้วกระโดดลงน้ำอย่างเร็วไว บางคนก็หิวเนื่องจากไม่ได้กินข้าวกลางวันก็นั่งกินขนมแก้หิวไปพลางๆ แผนกแม่ครัวก็ลงมือหมักหมูเตรียมย่างล้างผักเตรียมทำสุกี้ ฯลฯ (รูปบางรูปอาจเป็นรูปที่ถ่ายตอนก่อนออกจากแพ)
#จขกท เริ่มง่วงแล้วบ่ายๆจะมาอัพต่อนะครับ
ทริปกาญฯ 3 วัน 2 คืน #ล่องแพเขื่อนศรีฯ #อุทยานฯน้ำตกเอราวัณ
ที่มาของทริปนี้เริ่มมาจากชีวิตมหาลัยที่โหดร้ายเหลือเกินนน TT ต้องขอไว้อาลัยกับคะแนนสอบมิดเทอมและไฟนอลเลยทีเดียว พอหลังสอบมิดเทอมไปได้ไม่นานก็มีเพื่อนในกรุ๊ปเสนอมาว่า " เอ้อ ธันวานี้จัดทริปกันมั้ย แล้วไปทีไหนดี " นึกถึงทริปหน้าหนาวก็ไม่พ้นภาคเหนือแหละะ . . . แต่เอ๊ะ ! หน้าหนาวกาญจนบุรีก็อากาศดีนี่นาาา รีวิวก็มีเยอะ (บังเอิญ จขกท เป็นคนกาญจนบุรีด้วยเลยถือโอกาสพาเพื่อนเที่ยวพอดี / เพื่อนๆเรียกทริปนี้ว่า "ทริปส่งเรากลับบ้าน" ) เอาละวะ เฮดกรุ๊ปก็เริ่มถามเพื่อนๆว่ามีใครจะไปบ้างจะได้วางแผนบลาๆๆ แรกๆก็มีมาแค่ประมาณ 10 คน สักพักก็ประมาณ 15 คนเราว่าเอ้ออ 15 คนก็กำลังดีแล้วก็คุยๆกับไปสักพักว่าอยากไปเที่ยวไหนในกาญบ้างก็มีคนเสนอ"น้ำตกเอราวัณ" เราว่ามันก็โอเคนะ แล้วอีกคนก็เสนอว่าอยากไปนอนแพก็เลยลงตัว ปรากฏว่าพอตกลงกันได้เราก็เริ่มหาแพหาที่พักกัน แต่...!! ช่วงกลางๆเดือนพฤศจิฯ ไม่รู้อะไรดลใจให้เพื่อนๆลงชื่อมาทริปถล่มทลายขนาดนี้ จากทริปขนาดเล็กกลายเป็นทริปขนาดกลางขึ้นมาทันใดเพราะต้องจัดทริปสำหรับคน 30 คน ( แต่วันไปจริงๆมีแค่ 27 คน ) ก็เลยกลายเป็นที่มาของทริปที่ จขกท จะบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางอย่างที่เรียกว่าอัดแน่นไปด้วยปริมาณและคุณภาพจริงๆ !! (ค่าใช้จ่ายจะสรุปให้ตอนท้ายนะครับบบ)
+ เราเดินทางโดยใช้รถสาธารณะตลอดการเดินทางครับ เลยอาจเป็นปัญหาแรกของการเดินทางเป็นหมู่คณะ
+ กระทู้นี้เน้นรายละเอียดการเดินทางเป็นหลัก รายละเอียดอาจจะเยอะนิดนึง // รูปอาจจะน้อยไปหน่อยเพราะส่วนมากมีแต่รูปหลุดๆ แหะๆ
[ เริ่มจากการเดินทางจาก กทม ไป กาญจนบุรี ]
ด้วยความ advanture ของเราเอง เราเลยอยากให้เพื่อนนั่งรถไฟฟรี จากสถานีรถไฟธนบุรี(ชื่อเดิมคือ สถานีรถไฟบางกอกน้อย) ไปยังสถานีรถไฟกาญจนบุรี
รถไฟสายออกจากสถานีธนบุรีเวลา 07.45 น. (ตอนออกไม่เลทนะครับแต่ตอนถึงอาจจะไม่ตรงเวลา 55555 ระวังตกรถนะครับ) มาถึงเราสามารถมาขอรับตั๋วรถไฟฟรีจากธนบุรีไปน้ำตกไทรโยคน้อยได้ครับ // แต่เราไม่ได้นั่งรถไฟจนสุดสายครับ เราลงตั้งแต่ถึงสถานีกาญจนบุรี
แรกๆเพื่อนก็กังวลกันว่าบนรถไฟจะมีที่นั่งหรือเปล่า ? (เพราะว่ามากันเยอะ) , บนรถไฟจะร้อนหรือเปล่า ?
ปรากฏว่าที่นั่งพอก็โล่งใจ(ถึงแม้จะต้องนั่งแยกโบกี้แต่ก็ยังได้นั่งเป็นกลุ่มๆ) และเนื่องจากว่ามันเป็นหน้าหนาวพอดี ลมเย็นๆที่พัดเข้ามาเรื่อยๆกับบรรยากาศบนรถไฟที่ชวนให้เปิดประเด็นการพูดคุยได้ตลอดการเดินทาง
บ้างก็หลับ บ้างก็ถ่ายรูป บ้างก็นั่งเมาท์ คิดไม่ผิดจริงๆครับที่มานั่งรถไฟ // ใครอยากจะมาลองสัมผัสอากาศดีๆบนรถไฟแนะนำให้ไปหน้าหนาวนะครับ หน้าร้อนนี่ร้อนจนตับละลายเลยครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เอ๊ะ ! นอกเรื่องไปตั้งไกล . . . กลับมาที่แผนของเราดีกว่า เริ่มแรกตั้งใจจะไปน้ำตกเอราวัณก่อน แต่ดันเกิดปัญหาตอนจองห้องพักจากเว็บอุทยานก็เลยต้องไปแพก่อนแล้วค่อยไปน้ำตก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บนรถไฟบรรยากาศชิลล์มากครับ ลมเย็นๆหน้าหนาวควบกับเส้นเล็กอร่อยๆ เอ๊ะ !!
บนรถไฟจะมีคนหาบเร่ขายพวกอาหารเครื่องดื่มตลอดทาง
แต่เห็นเพื่อนบอกว่าก๋วยเตี๋ยวอร่อยจริงๆนะ ราคาแค่ 10 บาทต่อห่อเอง(เพื่อนยังบอกอีกว่าเคี้ยวน้ำตาลสนุกเลยแต่ก็อร่อยดี) // ไอเราก็กินข้าวเหนียวไก่ทอดมาแล้วก็เลยยังอิ่มๆเสียดายไม่ได้ลองกิน
พอมาถึงสถานีกาญจนบุรีก็ถ่ายรูปพอหอมปากหอมคอ แล้วก็เตรียมตัวเดินทางต่อ
[เดิมตั้งใจว่าจะหารถสองแถวนั่งไปลงขนส่ง แล้วต่อรถมินิบัสไปลงเอราวัณ โดยเราได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ของเอราวัณเพื่อที่จะเช่ารถไปเขื่อนศรีฯไว้ก่อนแล้ว] [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่เห้ยยย !! บังเอิญว่ามีรถสองแถว(เช่าเหมา)มารับตรงสถานีรถไฟเลย เรามากัน 27 คนก็เลยเช่าเหมารถ 2 คันเลยต้องเปลี่ยนแผนนิดหน่อย (โทรไปแจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามีรถไปแพแล้วไม่ต้องรอรับเรา/รถที่ติดต่อไว้เป็นรถส่วนตัวของเจ้าหน้าที่เองก็เลยไม่มีปัญหาอะไร) [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ กลายเป็นว่าจากที่จะแวะกินข้าวกลางวันที่ขนส่งก็เลยไม่ได้กินกัน เนื่องจากเรามีแผนที่จะทำอาหารกินกันเองบนแพ (บนแพมีเตาแก๊ส+แก๊ส และเตาถ่านให้รวมถึงจานชามช้อนอยู่ในราคาเริ่มต้น ส่วนถ่านซื้อเพิ่มเองต่างหาก) เราเลยต้องไปตุนเสบียงก็เลยบอกให้คนขับแวะ BigC คนขับก็รอเราเดินช้อปปิ้งกันเป็นชั่วโมง เมื่อซื้อเสบียงสำหรับแพคืนนี้เสร็จก็เดินทางไปแพกันเลย . . . .
เมื่อรถมาถึงท่าลงแพ (เป็นท่าที่เอาไว้จอดเรือขนสัมภาระ มันเป็นเรือที่เอาไว้ลากแพแหละ) ก็ไม่รอช้าที่จะควักโทรศัพท์จับกล้องขึ้นมาถ่ายรูปกัน พอถ่ายรูปกันเสร็จเราก็ขึ้นเรือจากตรงนั้นแล้วเอาของไปลงแพที่จองไว้(เจ้าของแพเป็นกันเองมากๆ)
ตอนไปถึงแพไม่มีกระจิตกระใจจะถ่ายรูปเลย เห็นน้ำเห็นเสื้อชูชีพแขวนอยู่เรียงรายแล้วอดใจไม่ไหว ฮ่าๆๆ สวมชูชีพแล้วกระโดดลงน้ำอย่างเร็วไว บางคนก็หิวเนื่องจากไม่ได้กินข้าวกลางวันก็นั่งกินขนมแก้หิวไปพลางๆ แผนกแม่ครัวก็ลงมือหมักหมูเตรียมย่างล้างผักเตรียมทำสุกี้ ฯลฯ (รูปบางรูปอาจเป็นรูปที่ถ่ายตอนก่อนออกจากแพ)
#จขกท เริ่มง่วงแล้วบ่ายๆจะมาอัพต่อนะครับ