คำพูดที่ใช้ในการยกย่องคนไทยของชาวต่างชาติว่า "คนไทยใจดีมีน้ำใจ" "เมืองไทยแลนด์ออฟสไมล์" คงเป็นการกล่าวยกย่องภาพพจน์ที่เกินเลยไปสำหรับแม่ค้าสองคนในแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก "เยาวราช"
แม้จะไม่ใช่ไทยแท้ แต่คนจีนในเยาวราชได้ชื่อว่า เป็นชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งก็คือคนไทยน่ะแหละ เพราะถือบัตรประชาชนไทย ย่อมเป็นคนไทยทั่วหน้า ไม่ว่าเชื้อสายมาจากไหนก็ตาม โดยเฉพาะพ่อค้า แม่ต้าที่นี่เกือบ 100 ทั้ง 100 ถือกำเนิดในเมืองไทยทั้งสิ้น
ผมไปหาอาหารรับประทานที่เยาวราชเมื่อสองวันก่อน เห็นกทม.ได้พยายามจัดระเบียบพ่อค้า แม่ค้าแผงลอยที่ฝังตัวอยู่หน้าอาคารทุกแห่งตลอดแนวถนนทั้งสองฝั่งแล้ว แต่ก็เพียงแค่ความพยายาม ยังไม่เห็นวี่แววของความสำเร็จ มีที่สำเร็จได้ก็ตรงเอาเชือกมากั้นมิให้คนข้ามถนนนอกทางม้าลาย อันนี้ ผู้มาท่องเที่ยวปฏิบัติตัวตามระเบียบได้ดี แต่บนฟุตบาททั้งสองฝั่ง ยังเป็นเขตต้องห้ามสำหรับคนเดินเท้าอยู๋อย่างเดิม ต้องระเห็จไปเดินบนถนนกันเหมือนเดิม
แปลกนะครับ แทนที่จะให้พวกแผงลอยและรถเข็นต่างๆ ไปอยู่บนริมถนน แล้วเปิดทางให้ฟุตบาทโล่งตลอด คนจะได้เดินเท้าสะดวก ใครจะสนใจแวะชิมอาหารริมถนน ก็ให้นั่งที่โต๊ะริมถนนที่พ่อค้าแม่ค้าจัดไว้ให้ ก็จะเป็นระเบียบดี ไม่ต้องเบียดบังทางเดินเท้า แต่ไหงมันสลับกันก็ไม่รู้ กทม.น่าจะล้มเหลวนะ เพราะคนเดินต้องไปเดินบนถนน แต่ผู้ค้ายึดทางเท้าไว้ได้หมด
แต่ถึงจะจัดระเบียบกันอย่างไร ความเลวร้ายอันเป็นตำนานของการบ่อนทำลายความสุขในการท่องเที่ยวก็ไม่อาจขจัดได้หมด นั่นคือ "ความกักขฬะ" ของพ่อค้าแม่ขายที่นี่ เพราะกทม.หรือหน่วยงานรัฐใดๆ ก็ไม่อาจไปก้าวก่าย อบรมบ่มนิสัยคนเหล่านี้ให้ทำตัวดี มารยาทดี คำนึงถึงภาพพจน์ได้หรอกครับ
ตัวอย่างที่เกิดขึ้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งในหลายๆ ส่วนที่คุณอาจจะเจอเมื่อไปเดินเที่ยวที่นี่..
แม่ค้าสองคนในวัยกลางคนเจ้าของแผงลอยบนฟุตบาทที่อยู่ใกล้ๆ ร้านฮั่วเซ่งฮง ใกล้กับทางเข้าของตลาดเก่า ติดป้ายขายโปะเกี้ยเต้าทึงเยาวราช โดยตั้งแผงค้าติดกับตัวอาคาร มีโต๊ะแบบสองที่นั่งบริการอยู่ 2 โต๊ะ ตัวนึงอยู่ติดอาคาร อีกตัวอยู่ติดขอบฟุตบาท เหลือที่แคบๆ ไม่เกิน 50-60 ซม.ให้คนเดินแทรกผ่านไปได้
ผมไปกัน 3 คน พ่อแม่ลูก ก็ยึดโต๊ะติดตัวอาคารไว้ สั่งเต้าทึงไป 2 ถ้วย เอามาแบ่งกันครับ เพราะ 3 ถ้วยทานไม่หมด ขณะที่นั่งทานอยู่ มีรถเข็นขายไอศครีมจอดอยู่บนถนน เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวแวะซื้อ แม่ค้าไอศครีมก็ต้องหยุดแล้วตักขายให้ แต่บังเอิญนักท่องเที่ยวมาเป็นคณะหลายคน ก็เลยต้องตักนานหน่อย
แม่ค้าโปะเกี้ยเต้าทึงมีสองคน หน้าตาละม้ายกัน คนนึงอายุมากกว่าคอยเสิร์ฟและเช็ดโต๊ะ อีกคนอยู่ติดแผงคอยตักเครื่องและไสน้ำแข็ง พอเห็นรถไอศครีมจอดน่านหน่อย แม่ค้าที่แก่กว่าก็บอกกับคนตักเครื่องว่า "รถไอติม ๆ" แม่ค้าที่ตักเครื่องได้ยินเข้าก็ตะโกนออกไป "รถไอติมๆ อย่าจอดบังหน้าร้าน ลูกค้าเข้ามาไม่ได้" ผมมองออกไปก็งงๆ เพราะแม่ค้ารถเข็นไอศครีมจอดอยู่บนถนน เลยขอบฟุตบาทไปประมาณหนึ่งเมตรกว่า มิได้อยู่ติดฟุตบาทเพราะต้องพร้อมจะเข็นต่อไป เนื่องจากถนนริมฟุตบาทเป็นถนนคนเดิน งงว่า ทำไมเขาจอดรถขายชั่วคราวตรงนั้นไม่ได้ แล้วมันก็ไม่ได้บังหน้าร้านจนคนเดินเข้าร้านไม่ได้ แล้วเจ้าของแผงขายโปะเกี้ยเต้าทึง มีสิทธิ์อะไรไปไล่เขา ในเมื่อตนเองก็ไม่ใช่เจ้าของที่ทาง ก็แค่เช่าพื้นที่ด้านหน้าอาคาร และจ่ายเงินให้ท้องที่หรือเทศกิจเพื่อขายของได้ชั่วคราว นอกจากเบียดบังทางสัญจรของคนเดินเท้าได้อย่างมีอภิสิทธิ์แล้ว ยังมีสิทธิ์ครอบคลุมไปถึงถนนทางเดินรถได้ด้วยหรือ? อยากดูเอกสารสิทธิ์ของแม่ค้าเจ้านี้จริงๆ
รถเข็นขายไอศครีมนั้น เขาไม่มีเจตนาจะจอดแช่อยู่แล้ว ถ้าเจ้าของแผงขายโปะเกี้ยเต้าทึงมีสิทธิ์ขายบนทางเท้า เขาก็มีสิทธิ์ที่จะเข็นรถขาย หยุดรถเมื่อคนซื้อต้องการจุดไหนก็ได้ เพราะมันก็ทำผิดกฎหมายจราจรด้วยกันทั้งคู่นั้นแหละ คนทำมาหากินด้วยกัน ก็น่าจะมีน้ำใจให้แก่กัน อะลุ่มอะล่วยให้กันถึงจะถูก
ขณะที่ผมยังทานอยู่นั้น โต๊ะอีกโต๊ะหนึ่งเป็นคนจีน เขามากันสองคน สั่งเต้าทึงหนึ่งถ้วย แล้วขอช้อนคนขาย 2 คันเพื่อจะแบ่งกันกิน แม่ค้าที่ตักเครื่องบอกว่า ไม่ได้ เดี๋ยวช้อนไม่พอให้ลูกค้า ผมก็มองดูในถาดที่เก็บช้อน ก็เห็นมีช้อนอยู่ในนั้นเป็น สิบ คัน เทียบกับจำนวนลูกค้า 2 โต๊ะเล็กๆ ที่นั่งทานอยู่นี้ ก็ไม่มีวี่แววว่าช้อนจะไม่พอแต่อย่างใด นักท่องเที่ยวจีนซึ่งคงเป็นเพื่อนกัน มิใช่คนในครอบครัวแบบของผมที่แชร์ช้อนคันเดียวกันได้ ก็เลยต้องผิดหวังไป
ผมมานั่งคิดดู ลูกค้าชาวจีนที่ผิดหวังขอช้อนไม่ได้ ก็คงเอาไปเม้าส์กันต่อในคณะทัวร์เรื่องความแล้งน้ำใจของแม่ค้าไทยในเยาวราช พวกเขาไม่อาจแยกได้หรอกครับ ว่า เป็นไทยแท้หรือไทยเชื้อสายจีน มาเที่ยวเมืองไทย เจอคนที่พูดภาษาไทยได้ เขาเหมาหมดว่าเป็นคนไทย แล้วมันก็จะเสียถึงคนไทยทั้งหมดอย่างน่าเจ็บใจ
ก็คงไม่ต่างไปจากพวกเราที่เคยไปเที่ยวประเทศจีนกันมาแล้ว ต่างก็มีประเด็นความเลวร้ายของชาวจีนเจ้าของประเทศเป็นของฝากให้เม้าส์มันในกันรถทัวร์จนพากันเข็ดขยาดไม่อยากมาอีก
ดีนะเนี่ย ผมมา 3 คน สั่ง 2 ถ้วย ไม่ขอช้อน 3 คัน ไม่งั้นคงหมดอร่อยแน่นอน
**โปะเกี้ยเต้าทึงเยาวราช..ตัวอย่างแม่ค้าแล้งน้ำใจ ความเลวร้ายที่ทำลายภาพพจน์แหล่งท่องเที่ยวไทย**
แม้จะไม่ใช่ไทยแท้ แต่คนจีนในเยาวราชได้ชื่อว่า เป็นชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งก็คือคนไทยน่ะแหละ เพราะถือบัตรประชาชนไทย ย่อมเป็นคนไทยทั่วหน้า ไม่ว่าเชื้อสายมาจากไหนก็ตาม โดยเฉพาะพ่อค้า แม่ต้าที่นี่เกือบ 100 ทั้ง 100 ถือกำเนิดในเมืองไทยทั้งสิ้น
ผมไปหาอาหารรับประทานที่เยาวราชเมื่อสองวันก่อน เห็นกทม.ได้พยายามจัดระเบียบพ่อค้า แม่ค้าแผงลอยที่ฝังตัวอยู่หน้าอาคารทุกแห่งตลอดแนวถนนทั้งสองฝั่งแล้ว แต่ก็เพียงแค่ความพยายาม ยังไม่เห็นวี่แววของความสำเร็จ มีที่สำเร็จได้ก็ตรงเอาเชือกมากั้นมิให้คนข้ามถนนนอกทางม้าลาย อันนี้ ผู้มาท่องเที่ยวปฏิบัติตัวตามระเบียบได้ดี แต่บนฟุตบาททั้งสองฝั่ง ยังเป็นเขตต้องห้ามสำหรับคนเดินเท้าอยู๋อย่างเดิม ต้องระเห็จไปเดินบนถนนกันเหมือนเดิม
แปลกนะครับ แทนที่จะให้พวกแผงลอยและรถเข็นต่างๆ ไปอยู่บนริมถนน แล้วเปิดทางให้ฟุตบาทโล่งตลอด คนจะได้เดินเท้าสะดวก ใครจะสนใจแวะชิมอาหารริมถนน ก็ให้นั่งที่โต๊ะริมถนนที่พ่อค้าแม่ค้าจัดไว้ให้ ก็จะเป็นระเบียบดี ไม่ต้องเบียดบังทางเดินเท้า แต่ไหงมันสลับกันก็ไม่รู้ กทม.น่าจะล้มเหลวนะ เพราะคนเดินต้องไปเดินบนถนน แต่ผู้ค้ายึดทางเท้าไว้ได้หมด
แต่ถึงจะจัดระเบียบกันอย่างไร ความเลวร้ายอันเป็นตำนานของการบ่อนทำลายความสุขในการท่องเที่ยวก็ไม่อาจขจัดได้หมด นั่นคือ "ความกักขฬะ" ของพ่อค้าแม่ขายที่นี่ เพราะกทม.หรือหน่วยงานรัฐใดๆ ก็ไม่อาจไปก้าวก่าย อบรมบ่มนิสัยคนเหล่านี้ให้ทำตัวดี มารยาทดี คำนึงถึงภาพพจน์ได้หรอกครับ
ตัวอย่างที่เกิดขึ้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งในหลายๆ ส่วนที่คุณอาจจะเจอเมื่อไปเดินเที่ยวที่นี่..
แม่ค้าสองคนในวัยกลางคนเจ้าของแผงลอยบนฟุตบาทที่อยู่ใกล้ๆ ร้านฮั่วเซ่งฮง ใกล้กับทางเข้าของตลาดเก่า ติดป้ายขายโปะเกี้ยเต้าทึงเยาวราช โดยตั้งแผงค้าติดกับตัวอาคาร มีโต๊ะแบบสองที่นั่งบริการอยู่ 2 โต๊ะ ตัวนึงอยู่ติดอาคาร อีกตัวอยู่ติดขอบฟุตบาท เหลือที่แคบๆ ไม่เกิน 50-60 ซม.ให้คนเดินแทรกผ่านไปได้
ผมไปกัน 3 คน พ่อแม่ลูก ก็ยึดโต๊ะติดตัวอาคารไว้ สั่งเต้าทึงไป 2 ถ้วย เอามาแบ่งกันครับ เพราะ 3 ถ้วยทานไม่หมด ขณะที่นั่งทานอยู่ มีรถเข็นขายไอศครีมจอดอยู่บนถนน เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวแวะซื้อ แม่ค้าไอศครีมก็ต้องหยุดแล้วตักขายให้ แต่บังเอิญนักท่องเที่ยวมาเป็นคณะหลายคน ก็เลยต้องตักนานหน่อย
แม่ค้าโปะเกี้ยเต้าทึงมีสองคน หน้าตาละม้ายกัน คนนึงอายุมากกว่าคอยเสิร์ฟและเช็ดโต๊ะ อีกคนอยู่ติดแผงคอยตักเครื่องและไสน้ำแข็ง พอเห็นรถไอศครีมจอดน่านหน่อย แม่ค้าที่แก่กว่าก็บอกกับคนตักเครื่องว่า "รถไอติม ๆ" แม่ค้าที่ตักเครื่องได้ยินเข้าก็ตะโกนออกไป "รถไอติมๆ อย่าจอดบังหน้าร้าน ลูกค้าเข้ามาไม่ได้" ผมมองออกไปก็งงๆ เพราะแม่ค้ารถเข็นไอศครีมจอดอยู่บนถนน เลยขอบฟุตบาทไปประมาณหนึ่งเมตรกว่า มิได้อยู่ติดฟุตบาทเพราะต้องพร้อมจะเข็นต่อไป เนื่องจากถนนริมฟุตบาทเป็นถนนคนเดิน งงว่า ทำไมเขาจอดรถขายชั่วคราวตรงนั้นไม่ได้ แล้วมันก็ไม่ได้บังหน้าร้านจนคนเดินเข้าร้านไม่ได้ แล้วเจ้าของแผงขายโปะเกี้ยเต้าทึง มีสิทธิ์อะไรไปไล่เขา ในเมื่อตนเองก็ไม่ใช่เจ้าของที่ทาง ก็แค่เช่าพื้นที่ด้านหน้าอาคาร และจ่ายเงินให้ท้องที่หรือเทศกิจเพื่อขายของได้ชั่วคราว นอกจากเบียดบังทางสัญจรของคนเดินเท้าได้อย่างมีอภิสิทธิ์แล้ว ยังมีสิทธิ์ครอบคลุมไปถึงถนนทางเดินรถได้ด้วยหรือ? อยากดูเอกสารสิทธิ์ของแม่ค้าเจ้านี้จริงๆ
รถเข็นขายไอศครีมนั้น เขาไม่มีเจตนาจะจอดแช่อยู่แล้ว ถ้าเจ้าของแผงขายโปะเกี้ยเต้าทึงมีสิทธิ์ขายบนทางเท้า เขาก็มีสิทธิ์ที่จะเข็นรถขาย หยุดรถเมื่อคนซื้อต้องการจุดไหนก็ได้ เพราะมันก็ทำผิดกฎหมายจราจรด้วยกันทั้งคู่นั้นแหละ คนทำมาหากินด้วยกัน ก็น่าจะมีน้ำใจให้แก่กัน อะลุ่มอะล่วยให้กันถึงจะถูก
ขณะที่ผมยังทานอยู่นั้น โต๊ะอีกโต๊ะหนึ่งเป็นคนจีน เขามากันสองคน สั่งเต้าทึงหนึ่งถ้วย แล้วขอช้อนคนขาย 2 คันเพื่อจะแบ่งกันกิน แม่ค้าที่ตักเครื่องบอกว่า ไม่ได้ เดี๋ยวช้อนไม่พอให้ลูกค้า ผมก็มองดูในถาดที่เก็บช้อน ก็เห็นมีช้อนอยู่ในนั้นเป็น สิบ คัน เทียบกับจำนวนลูกค้า 2 โต๊ะเล็กๆ ที่นั่งทานอยู่นี้ ก็ไม่มีวี่แววว่าช้อนจะไม่พอแต่อย่างใด นักท่องเที่ยวจีนซึ่งคงเป็นเพื่อนกัน มิใช่คนในครอบครัวแบบของผมที่แชร์ช้อนคันเดียวกันได้ ก็เลยต้องผิดหวังไป
ผมมานั่งคิดดู ลูกค้าชาวจีนที่ผิดหวังขอช้อนไม่ได้ ก็คงเอาไปเม้าส์กันต่อในคณะทัวร์เรื่องความแล้งน้ำใจของแม่ค้าไทยในเยาวราช พวกเขาไม่อาจแยกได้หรอกครับ ว่า เป็นไทยแท้หรือไทยเชื้อสายจีน มาเที่ยวเมืองไทย เจอคนที่พูดภาษาไทยได้ เขาเหมาหมดว่าเป็นคนไทย แล้วมันก็จะเสียถึงคนไทยทั้งหมดอย่างน่าเจ็บใจ
ก็คงไม่ต่างไปจากพวกเราที่เคยไปเที่ยวประเทศจีนกันมาแล้ว ต่างก็มีประเด็นความเลวร้ายของชาวจีนเจ้าของประเทศเป็นของฝากให้เม้าส์มันในกันรถทัวร์จนพากันเข็ดขยาดไม่อยากมาอีก
ดีนะเนี่ย ผมมา 3 คน สั่ง 2 ถ้วย ไม่ขอช้อน 3 คัน ไม่งั้นคงหมดอร่อยแน่นอน