ขอสอบถามเกี่ยวกับสภาพของจักรวาลในพระพุทธศาสนาหน่อยครับ แบบละเอียด ตั้งแต่รูปร่าง ลักษณะ สี ประกอบด้วย ชื่อเรียก ฯลฯ

เพิ่มเติมจากหัวข้อกระทู้
จะนำไปใช้ในการศึกษาครับ
ทราบมาว่า จักรวาลนั้น ต่างจากโลก เพราะโลกกลม แต่จักรวาลแบน
ไอ้แบนที่ว่ามันแบนยังไง
จักรวาลประกอบด้วยอะไรบ้าง สภาพเป็นแบบไหน
ขอคำบรรยายสภาพจักรวาลให้ได้ละเอียดที่สุดหน่อยนะครับ

ขอบพระคุณครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
พระราชาทรงพระนามว่าพิมพิสาร ทรงสดับว่า "ได้ยินว่า ปราสาท ๗ ชั้นซึ่งสำเร็จด้วยแก้ว ๗ ประการ ผุดขึ้นแล้วเพื่อโชติกะ, กำแพง ๗ ชั้น ซุ้มประตู ๗ ซุ้ม ขุมทรัพย์ ๔ ขุมก็ผุดขึ้นแล้ว (เพื่อโชติกะเหมือนกัน)" ทรงส่งฉัตรตำแหน่งเศรษฐีไป (ให้) แล้ว, เขาได้เป็นผู้ชื่อว่า โชติกเศรษฐี. ก็กรรมอันหญิงผู้มีบุญทำไว้แล้วกับโชติกเศรษฐีนั้น เกิดแล้วในอุตตรกุรุทวีป.

ครั้งนั้น เทพดานำนางมาจากอุตตรกุรุทวีปนั้นแล้ว ให้นั่งในห้องอันเป็นสิริ.
หญิงนั้นเมื่อมา ถือเอาทะนานข้าวสารทะนานหนึ่ง และแผ่นศิลาอันลุกโพลง ๓ แผ่น (มา), ภัตของชนทั้งสองนั้นได้มีแล้วด้วยทะนานข้าวสารนั้นนั่นเทียว ตลอดชีวิต.
ดังได้สดับมา ถ้าชนเหล่านั้นเป็นผู้มีประสงค์จะยังแม้เกวียน ๑๐๐ เล่มให้เต็มด้วยข้าวสาร, มันก็คงปรากฏเป็นทะนานอันเต็มด้วยข้าวสารอยู่นั่นเอง. ในเวลาหุงภัต พวกเขาใส่ข้าวสารในหม้อ แล้ววางไว้เบื้องบนแผ่นศิลาเหล่านั้น. แผ่นศิลาก็ลุกโพลงขึ้นในขณะนั้นนั่นเอง เมื่อภัตสักว่าสุกแล้ว ย่อมดับไป พวกเขารู้ความที่ภัตสุกแล้ว ด้วยสัญญาณนั้นนั่นแหละ. แม้ในเวลาแกงของควรแกงเป็นต้น ก็นัยนี้เหมือนกัน.
เขาทั้งสองย่อมหุงต้มอาหารด้วยแผ่นศิลาอันลุกโพลงด้วยอาการอย่างนี้.
ชนเหล่านั้นย่อมอยู่ด้วยแสงสว่างแห่งแก้วมณี ไม่รู้แสงสว่างของไฟหรือประทีปเลย.

ที่มา:
http://pantip.com/topic/33418754/comment6

ทวีปใหญ่ในทิศทั้ง  ๔  ของภูเขาสิเนรุ  แต่ละทวีปใหญ่ทั้ง ๔  ทิศนั้น  แลดล้อมด้วยทวีปน้อยเป็นบริวาร  อีกทวีปละ  ๕๐๐  รวมทวีปน้อยมี  ๒๐๐๐  ทวีป
    ทวีปใหญ่  หรือพื้นแผ่นดินทั้ง  ๔  ทิศ  ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์นั้น  มีชื่อเรียกกันดังนี้คือ
๑.          อุตตรกุรุทวีป  อยู่ทางทิศเหนือของภูเขาสิเนรุ  มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้  มีลักษณะใบหน้าเป็นรูปสี่เหลี่ยม  มีคุณสมบัติ  ๓  ประการ  คือ
๑)          ไม่ยึดถือเอาทรัพย์สินเงินทองว่าเป็นของตน
๒)          ไม่มีการยึดถือในบุตร, ภริยา, สามี  ว่าเป็นของตน
๓)          มีอายุยืนถึง  ๑๐๐๐  ปี
มนุษย์ในอุตตรกุรุทวีปนี้มีการรักษาศีล  ๕  เป็นนิจ  เมื่อตายไปแล้วย่อมเกิดในเทวโลก  แน่นอน ดังสารัตถทีปนีฏีกา  แสดงว่า
คติปิ  นิพฺพตฺถา  มโต  สคฺเคเยว  นิพฺพตฺตนฺติ
แปลความว่า  มนุษย์อุตตกุรุนี้  เมื่อตายแล้ว  ย่อมไปบังเกิดในชั้นเทวโลกอย่างแน่นอน
หมายความว่า  เมื่อตายจากภพมนุษย์แล้วย่อมไปบังเกิดในชั้นเทวโลกแต่ถึงเวลาที่จุติจากเทวโลกแล้ว  อาจไปเกิดในอบายภูมิ  ๔  หรือมนุษย์ในทวีปอื่นใดก็ได้  จะไม่ไปสู่อบายภูมิเพียงชั่วภพถัดไปจากที่กำลังเป็นมนุษย์อุตตรกุรุเท่านั้น

๒.          ปุพพวิเทหทวีป  อยู่ทางทิศตะวันออกของภูเขาสิเนรุ  มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้  มีลักษณะใบหน้าตอนบนตัดโค้งมนลงส่วนล่างคล้ายบาตร  มีอายุยืนถึง  ๗๐๐  ปี

๓.          อปรโคยานทวีป  อยู่ทางทิศตะวันตกของภูเขาสิเนรุ  มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้  มีลักษณะใบหน้ากลม  คล้ายวงพระจันทร์  มีอายุยืนถึง  ๕๐๐  ปี

๔.          ชมพูทวีป  อยู่ทางทิศใต้ของภูเขาสิเนรุ  มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้  มีลักษณะใบหน้ารูปไข่  กำหนดอายุขัยไม่แน่นอน  โดยความยิ่งหย่อนในคุณธรรม  สมัยใดคนชมพูทวีปมีกาย  วาจา  ใจ  เพียบพร้อมยิ่งด้วยคุณธรรมสมัยนั้นคนชมพูทวีปมีอายุยืนถึงอสงไขยปี  สมัยใด  คนชมพูทวีป  กาย  วาจา  ใจ  ย่อหย่อนด้วยคุณธรรม  สมัยนั้นมีอายุลดน้อยถอยลงมาเพียง  ๑๐  ปี เป็นอายุขัย
กำหนดเกณฑ์อายุขัยของผู้เกิดใน  ๔  ทวีปนี้มาใน  สังยุตตนิกายอรรถกถา  ว่า
http://pantip.com/topic/33418754/comment7
-------------------------------------------------------

จากสารานุกรม พระไตรปิฏกฉบับธรรมทาน (cd)

ทวีป ๔,พื้นที่ในจักรวาล
จักรวาลหนึ่ง ๆ ซึ่งประดับด้วยทวีปใหญ่ ๔ ทวีป และ
ทวีปน้อย ๒ พันทวีป อย่างนี้ คือ
๑. ปุพพวิเทหทวีป ซึ่งมีปริมณฑลถึง ๗ พันโยชน์
ซึ่งประดับด้วยทวีปน้อย ๕๐๐.
๒. อุตตรกุรุทวีป ซึ่งมีปริมณฑล ๘ พันโยชน์
ประดับด้วยทวีปน้อย ๕๐๐.
๓. อมรโคยานทวีป ซึ่งมีปริมณฑล ๗ พันโยชน์
ประดับด้วยทวีปน้อย ๕๐๐.
๔. ชมพูทวีป ซึ่งมีปริมณฑล ๑ หมื่นโยชน์
ประดับด้วยทวีปน้อย ๕๐๐.

#ขุทฺทก.อ. ๑/๖/๓๕-๓
-----------------------------------------------------------------

จักรวาล ในทางพระพุทธศาสนา
http://pantip.com/topic/30876472/comment34


----------------------------------------------------

จากหนังสือ พระพุทธเจ้าองค์ใหม่ที่จะตรัสรู้ต่อจาก "เจ้าชายสิทธัตถะ" ได้อ้างอิง อมตรสธารา อรรถกถาอนาคตวงศ์ รจนาโดย พระอุปติสสะเถระ พระอรรถกถาจารย์ แห่งลังกาทวีป อธิบายว่า


ชมพูทวีป เป็นทวีปเดียวใน ๔ ทวีปที่พระโพธิสัตว์ทั้งหลายเลือกลงมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เพราะอายุขัยของมนุษย์ในชมพูทวีปมีกำหนดไม่แน่นอน มนุษย์ในชมพูทวีปนี้ จึงไม่ประมาทมากนัก พอที่พระพุทธเจ้าจะแสดงพระธรรมเทสนาสั่งสอนให้ตรัสรู้ตามได้ ซึ่งแตกต่างจากมนุษย์ในทวีปอื่นที่เหลืออีก ๓ ทวีป คือ มนุษย์ในปุพพวิเทหทวีป มีอายุยืนได้ ๑๐๐ ปีจึงตาย มนุษย์ในอมรโคยานทวีปมีอายุยืนได้ ๔๐๐ ปีจึงตาย มนุษย์ในอุตตรกุรุทวีป มีอายุยืนได้ ๑,๐๐๐ ปีจึงตาย และเหตุที่มนุษย์ทั้ง ๓ ทวีปนี้ มีอายุยืนและมีกำหนดแน่นอนเพราะมนุษย์ทั้งหลายมีปกติรักษาศีล ๕ อยู่เสมอ

ชมพูทวีปตั้งอยู่ในมหาสมุทรโสณสาคร ทางทิศใต้ของเขาพระสุเมรุ มีทวีปเป็นเกาะใหญ่ มีสัณฐานเป็นรูปเรือนเกวียนหรือรูปไข่ ใบหน้าของมนุษย์ในทวีปนี้ ก็เป็นรูปไข่ด้วย ทวีปนี้มีไม้ชมพู หรือ ไม้หว้า เป็นไม้ประจำทวีป เหตุนี้จึงเรียกว่า “ชมพูทวีป”

--------------------------------------------------------

จากหนังสือ ซอกตู้พระไตรปิฏก ที่เล่าถึงภพภูมิต่าง ๆ (จากการบรรยายของท่านอาจารย์วิชิต ธรรมรังษี เรื่องภพภูมิต่าง ๆ ประกอบการบรรยายพระอภิธัมมัตสังคหะ ปริเฉทที่ ๕ วิถีมุตตสังคหวิภาค ในหมวดที่ ๑ ภูมิจตุกะ)



อุตตรกุรุทวีป อายุขัย ๑,๐๐๐ ปี มีความเป็นอยู่สุขสบายมาก เพราะเกิดด้วยอำนาจบุญอันแรง คือ ทำบุญแก่กล้ามาก แต่ไม่ประกอบด้วยปัญญา ข้าวก็ไม่ต้องปลูก(เมล็ดใหญ่มาก ๆ เมล็ดเดียวอิ่ม) เมื่อเด็ดไป ก็งอกขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น ไม่ต้องปรุง ที่นั้นมีหินชนิดหนึ่ง กลางวันให้ความร้อน นำไปปรุงอาหารได้ กลางคืนให้ความสว่าง ใบหน้าของเขาเป็นรูปสี่เหลี่ยมตัดหมด

เมื่อจุติจากอุตตรกุรุทวีปจะปฏิสนธิเป็นเทวดาหรือไม่ก็นางฟ้าไปเป็นภูมิรองรับแน่นอนเลย ในชั้นจาตุมหาราชิกาและดาวดึงส์ ๒ ชั้นเท่านั้น เพราะบุญที่ทำไว้นี่แรงมาก แล้วอยู่ที่นั่นมีโมหะ แต่ไม่มีโอกาสทำบาป เมื่อหมดบุญจากเทวดา ส่วนใหญ่จะไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เพราะชีวิตที่เป็นอยู่เป็นโมหะตลอด

คนที่นี้ความเป็นอยู่สุขสบาย เพราะว่าเกิดด้วยอำนาจบุญอันแรง คือทำบุญแก่กล้ามาก แต่เป็นบุญที่ไม่ประกอบด้วยปัญญา เช่น ทำบุญสร้างโบสถ์คนเดียวไม่ยอมให้ใครร่วมเลย



บุพเพวิทหทวีป อายุขัย ๗๐๐ ปี ใบหน้ารูปทรงบาตรหน้าตัด ชีวิตความเป็นอยู่ต้องดิ้นรน มีแต่ภูเขา ส่วนใหญ่เป็นกลางคืนและมืดมากเนื่องจากได้รับแสงอาทิตย์ค่อนข้างน้อย ผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย สมสู่กันตลอดเวลา ออกลูกแฝดและเสียชีวิตเป็นส่วนใหญ่

ตายจากที่นี้จะไปนรกเสียมาก เพราะการเกิดได้ที่บุพพวิเทหทวีปนี่มีปัญญาพอดี แต่เป็นปัญญาทางโลก คือนักวิจัย นักค้นคว้า แล้วก็ไม่มีบุญ เพราะพวกนี้เห็นไหม การทำนี่มันจะต้องทุ่มเทชีวิตอยู่ในห้องวิจัย โอกาสจะแสวงหาบุญก็ไม่มี

อปรโคยานทวีป ไม่มีบุญแล้วก็ไม่มีปัญญา ความเป็นอยู่แบบป่าเถื่อน ชอบกินของสด ๆ คาว ๆ ชอบกินเนื้อคน ไม่กินเนื้อสัตว์อื่น ออกลูกแล้วกินลูกตัวเองเป็นอาหาร บางคนต้องหลบหนีไปออกลูกบนเขา

สองพวกนี้ คือมนุษย์ในบุพพวิเทหทวีป และ อปรโคยานทวีป ในพระไตรปิฏกไม่ได้อธิบายมากมาย เพราะว่าไม่เป็นเรื่องน่านิยม อุตตรกุรุทวีปนี่เป็นเรื่องน่าศึกษาเพราะไปด้วยบุญและมีโอกาสไปเป็นเทวดา และเผื่อตั้งตนไว้ชอบ ไปเจออาจารย์ดีมันก็มีโอกาสเปลี่ยนจริต ส่วนอีก ๒ ทวีปนั้นมีโมหจริตและวิตกจริตเสียมาก ไม่มีโอกาสที่จะแก้ไข ห่างไกลรัศมีพระธรรม ถึงมีโอกาสเกิดในชมพูทวีป ตอนพระพุทธเจ้าประกาสศาสนาก็จะเป็นพวกเดียรถีย์หรือไม่ก็นิยตมิจฉาทิฏฐิเสียมาก

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จขกท  ครับ   ที่  อุตรกุรุทวีป  นี้มีหินพิเศษ ที่ให้พลังงานความร้อนและแสงสว่าง ด้วยตัวเอง

ถ้ามีหินนี้ ไม่ต้องใช้หม้อหุงข้าว หรือ เตาแกส น่ะครับ  

mr_tree ครับ พอดี โลกมนุษย์ต่างดาว ทั้ง ๔ นี้  เป็นรูปหยาบ  อยู่ในมุมต่าง ๆ ของจักรวาล  ไม่รู้จะเปรียบอย่างไร  
จึงขอยืมภาพ galaxy มาประกอบด้วยน่ะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่