ผมเป็นคนผิวค่อนข้างขาว ถึงไม่ได้ขาวมากแต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับขาว (เท่าที่คนอื่นพูดบ่อยๆนะ) แต่ปัญหาผมคือผมเป็นสิวที่หน้าเยอะมากคับ เป็นแบบวันหนัก บางวันก็เริ่มหาย แล้วเป็นหนักแบบนี้วนเวียนไปเรื่อยๆ แล้วตอนนี้รู้สึกว่าการเป็นสิวทำให้เราตัดขาดกับครอบครัวเป็นอย่างมาก รวมถึงการแสดงความรู้สึกต่างๆ ต่อเพื่อน ต่อคนรอบข้างเปลี่ยนไป หงุดหงิดง่ายมาก ยิ่งถ้าเกิดได้ยินเกี่ยวกับเรื่องผิวหน้า ผมก็จะรู้สึกเป็นปมด้อยที่ถูกตรึงรากฝังลึกภายในจิตใจไม่มีทางดีขึ้นได้เลย มันเครียด ทำทุกอย่างด้วยความกลัวว่าเค้าจะรังเกียจ ด้วยความเครียด ไม่มีความสุขเลยคับ ผมลองทำหลายวิธีต่างๆนาๆ ทานผักกับผลไม้เยอะมากๆ กินข้าวเป็นเวลา ขับถ่ายทุกเช้า นอนไม่ดึกก็แล้ว มันรู้สึกว่าดีขึ้นไม่มาก ยังห่างไกลกับความเครียดที่มีอยู่ ชีวิตที่ตื่นเช้ามาต้องเจอสิวหัวหนองทุกเช้า วันละ 3-4 เม็ดตามกรอบหน้า ระหว่างคิ้วและหน้าผาก หนักสุดก็เป็นแนวกรามข้างหู ไม่กล้าออกไปไหนเลย เวลาออกไปไหนต้องใส่หน้ากากอนามัย คนรู้จักเดินผ่านมัดจะถามว่าเป็นอะไร นี่ก็ได้แต่บอกว่าไม่สบาย บางคืนก็นอนร้องไห้ คือหน้าตาผมก็ไม่ได้ดีอยู่แล้ว เจอซ้ำร้ายมีผิวทราม และประเด็นหนักอื้อคือ ผมเป็นโรคจิตรึเปล่า ผมเครียดมากถ้ามีสิวขึ้นใหม่ มันไม่ชินสักครั้ง มันไม่อยากเจอใครสักคน ไม่อยากเจอพ่อแม่ ไม่อยากเจอญาติพี่น้อง เพราะคิดว่าคงจะได้ยินคำว่า “เมื่อไหร่สิวจะหาย” “ทำไมเป็นสิวเยอะ” พอได้ยินในใจคือร้องไห้หนักเลยคับ และเรื่องแม่ตั้งคำถามทำไมไม่กลับบ้านบ้าง ผมไม่รู้จะตอบยังไง ผมจะทำยังไงกับชีวิตนี้ดี
ผมเป็นเครียดกับสิวบนผิวหน้าผมมากจนไม่อยากเจอใคร นี่อยู่หอมาไม่ได้กลับบ้าน ตจว. 2 เดือนเต็มแล้วคับ จนแม่เริ่มตั้งคำถาม?