เปิดงบฯ แบงก์ Q3/60 ภาพรวม 10 แห่งกำไรวูบ 9.19% เผยแบงก์ใหญ่ตั้งสำรองเพิ่มเพียบ ทั้ง “KBANK-KTB” ขณะที่เอ็นพีแอลหลายแบงก์ยังพุ่งต่อ นักวิเคราะห์โฟกัสไตรมาส 4 แบงก์ใหญ่ยังเผชิญแรงกดดันตั้งสำรองหนี้-มาตรฐานบัญชีใหม่ หวั่นกำไรวูบต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานผลดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ 10 แห่งของงวดไตรมาส 3/2560 โดยมีภาพรวมกำไรสุทธิอยู่ที่ 47,454 ล้านบาท
ลดลง 9.19% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ มีกำไรสุทธิรวม 52,255 ล้านบาท ซึ่งพบว่ากำไรสุทธิที่ลดลงส่วนใหญ่มาจากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้นทำให้สำรองหนี้สูญรวม ไตรมาส 3 อยู่ที่ 55,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่ตั้งสำรอง 44,397 ล้านบาท
โดยแบงก์ที่ตั้งสำรองเพิ่ม ยังเป็นแบงก์พาณิชย์ขนาดใหญ่ ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ที่ตั้งสำรองถึง 10,405 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.52% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน รองลงมาธนาคารกรุงไทย (KTB) ตั้งสำรอง 9,918 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.88% และ ธนาคารทิสโก้ (TISCO) ตั้งสำรอง 9,363 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.28%
ขณะที่
หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) รวมของ 10 แบงก์อยู่ที่ 415,203 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.09% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเพิ่มเกือบทุกแบงก์ แต่แบงก์ที่เพิ่มสูงสุด 3 อันดับแรก คือ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LHBANK) มีเอ็นพีแอลอยู่ที่ 3,442 ล้านบาท เพิ่ม 38.1% ส่งผลให้เอ็นพีแอลต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 2.07% รองลงมา ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย มีเอ็นพีแอลอยู่ที่ 12,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.88% มีเอ็นพีแอลรวมที่ 5.7% และ ธนาคารกรุงเทพ(BBL) มีเอ็นพีแอลที่ 88,231 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.56% มีเอ็นพีแอลรวมที่ 3.8%
นาย
ธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส บล.อาเอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลประกอบการแบงก์ ไตรมาส 3 ที่ออกมาของ 10 แบงก์ ถือว่าต่ำกว่าประมาณการที่ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินไว้ เนื่องจากแบงก์ขนาดใหญ่มีการตั้งสำรองเพิ่ม ทำให้กระทบต่อกำไรสุทธิลดลง โดยเฉพาะ KTB และ SCB ที่มีการตั้งสำรองเผื่ออนาคต ทั้งสำรองหนี้เสีย และการตั้งสำรองเพื่อเตรียมรับมือกับมาตรฐานบัญชี IFRS9 ขณะที่บางแบงก์ยังมีแนวโน้มเอ็นพีแอลเพิ่มต่อเนื่องคือ KTB
“ไตรมาส 4 ยังมีตัวแปรสำคัญที่ต้องจับตา คือการตั้งสำรอง ว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 3 หรือไม่ ทั้งสำรองที่เกิดจากหนี้เสีย หรือตามมาตรฐานบัญชีใหม่ ซึ่งหากยังต้องสำรองเพิ่ม ก็จะกดดันกำไรไตรมาส 4 ให้ลดลงต่อเนื่อง”
นาย
ปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ผลประกอบการของ KBANK ในไตรมาส 3 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ส่วนใหญ่มาจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น 1.57% ขณะที่สินเชื่อรวมปีนี้คาดว่าจะยังเติบโตที่ 4-6% ตามเป้า
ส่วนเอ็นพีแอลถือว่าเริ่มทรงตัว โดยสิ้นปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 3.20-3.30% ได้ และจะเริ่มเห็นเอ็นพีแอลทยอยลดลง ในปีหน้า
นาย
อาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า กำไร ไตรมาส 3 ของธนาคารปีนี้ลดลง 12.2% มาจากการตั้งสำรองหนี้เพิ่มตามมาตรฐานบัญชี IFRS9 ขณะที่ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานเพิ่ม 13.8% ตามแผนของธนาคารที่กำลังปรับองค์กรและเทคโนโลยีสู่ยุคดิจิทัล ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ลดลงมาอยู่ที่ 3.23% สะท้อนต้นทุนเงินฝากที่ลดลงต่อเนื่อง
นาย
โนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ไตรมาส 3 ธนาคารยังมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นที่ 3.2% ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ค่าธรรมเนียม ขณะที่ด้าน NIM อยู่ที่ 3.89% เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ระดับ 3.77% ซึ่งเติบโตตามเทรนด์สินเชื่อ ทั้งนี้ ในช่วงที่เหลือของปี ธนาคารกรุงศรีฯ ยังคงเป้าสินเชื่อทั้งปีโต 6-8%
JJNY : เสดตะกิดดี๊ดี...ซี้จุกสูญ ชำแหละงบแบงก์ Q3 กำไรวูบ 9% “KBANK-KTB” ตั้งสำรองพุ่ง NPL เพิ่ม
เปิดงบฯ แบงก์ Q3/60 ภาพรวม 10 แห่งกำไรวูบ 9.19% เผยแบงก์ใหญ่ตั้งสำรองเพิ่มเพียบ ทั้ง “KBANK-KTB” ขณะที่เอ็นพีแอลหลายแบงก์ยังพุ่งต่อ นักวิเคราะห์โฟกัสไตรมาส 4 แบงก์ใหญ่ยังเผชิญแรงกดดันตั้งสำรองหนี้-มาตรฐานบัญชีใหม่ หวั่นกำไรวูบต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานผลดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ 10 แห่งของงวดไตรมาส 3/2560 โดยมีภาพรวมกำไรสุทธิอยู่ที่ 47,454 ล้านบาท ลดลง 9.19% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ มีกำไรสุทธิรวม 52,255 ล้านบาท ซึ่งพบว่ากำไรสุทธิที่ลดลงส่วนใหญ่มาจากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้นทำให้สำรองหนี้สูญรวม ไตรมาส 3 อยู่ที่ 55,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่ตั้งสำรอง 44,397 ล้านบาท
โดยแบงก์ที่ตั้งสำรองเพิ่ม ยังเป็นแบงก์พาณิชย์ขนาดใหญ่ ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ที่ตั้งสำรองถึง 10,405 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.52% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน รองลงมาธนาคารกรุงไทย (KTB) ตั้งสำรอง 9,918 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.88% และ ธนาคารทิสโก้ (TISCO) ตั้งสำรอง 9,363 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.28%
ขณะที่หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) รวมของ 10 แบงก์อยู่ที่ 415,203 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.09% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเพิ่มเกือบทุกแบงก์ แต่แบงก์ที่เพิ่มสูงสุด 3 อันดับแรก คือ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LHBANK) มีเอ็นพีแอลอยู่ที่ 3,442 ล้านบาท เพิ่ม 38.1% ส่งผลให้เอ็นพีแอลต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 2.07% รองลงมา ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย มีเอ็นพีแอลอยู่ที่ 12,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.88% มีเอ็นพีแอลรวมที่ 5.7% และ ธนาคารกรุงเทพ(BBL) มีเอ็นพีแอลที่ 88,231 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.56% มีเอ็นพีแอลรวมที่ 3.8%
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส บล.อาเอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลประกอบการแบงก์ ไตรมาส 3 ที่ออกมาของ 10 แบงก์ ถือว่าต่ำกว่าประมาณการที่ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินไว้ เนื่องจากแบงก์ขนาดใหญ่มีการตั้งสำรองเพิ่ม ทำให้กระทบต่อกำไรสุทธิลดลง โดยเฉพาะ KTB และ SCB ที่มีการตั้งสำรองเผื่ออนาคต ทั้งสำรองหนี้เสีย และการตั้งสำรองเพื่อเตรียมรับมือกับมาตรฐานบัญชี IFRS9 ขณะที่บางแบงก์ยังมีแนวโน้มเอ็นพีแอลเพิ่มต่อเนื่องคือ KTB
“ไตรมาส 4 ยังมีตัวแปรสำคัญที่ต้องจับตา คือการตั้งสำรอง ว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 3 หรือไม่ ทั้งสำรองที่เกิดจากหนี้เสีย หรือตามมาตรฐานบัญชีใหม่ ซึ่งหากยังต้องสำรองเพิ่ม ก็จะกดดันกำไรไตรมาส 4 ให้ลดลงต่อเนื่อง”
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ผลประกอบการของ KBANK ในไตรมาส 3 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ส่วนใหญ่มาจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น 1.57% ขณะที่สินเชื่อรวมปีนี้คาดว่าจะยังเติบโตที่ 4-6% ตามเป้า
ส่วนเอ็นพีแอลถือว่าเริ่มทรงตัว โดยสิ้นปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 3.20-3.30% ได้ และจะเริ่มเห็นเอ็นพีแอลทยอยลดลง ในปีหน้า
นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า กำไร ไตรมาส 3 ของธนาคารปีนี้ลดลง 12.2% มาจากการตั้งสำรองหนี้เพิ่มตามมาตรฐานบัญชี IFRS9 ขณะที่ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานเพิ่ม 13.8% ตามแผนของธนาคารที่กำลังปรับองค์กรและเทคโนโลยีสู่ยุคดิจิทัล ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ลดลงมาอยู่ที่ 3.23% สะท้อนต้นทุนเงินฝากที่ลดลงต่อเนื่อง
นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ไตรมาส 3 ธนาคารยังมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นที่ 3.2% ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ค่าธรรมเนียม ขณะที่ด้าน NIM อยู่ที่ 3.89% เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ระดับ 3.77% ซึ่งเติบโตตามเทรนด์สินเชื่อ ทั้งนี้ ในช่วงที่เหลือของปี ธนาคารกรุงศรีฯ ยังคงเป้าสินเชื่อทั้งปีโต 6-8%