สวัสดีค่ะ
กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวครั้งแรก ผิดพลาดประการใด
ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
เราอยากจะแชร์ข้อมูล เผื่อจะมีประโยชน์สำหรับใครที่สนใจ
อาจจะยาวหน่อยนะคะ

เราเป็นนักศึกษาค่ะ
ยอมรับเราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า มีการคุมกำเนิดแบบฝัง
จนวันนึงเพื่อนสมัยมัธยมทักมา
นางบอกว่า นางจะไปฝังยาคุม
จริงๆเพื่อนเรายังไม่มีแฟนนะคะ แต่นางบอกว่าเพื่อความสบายใจ เพราะมันเป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแล้ว
เราเลย ค้นอินเตอร์เน็ต อ่านกระทู้ในพันทิป55555
เราเจอหลายๆคอมเม้นท์บอกว่า อายุไม่ถึง 20 ฝังฟรีนะ
ซึ่งถ้าจะฝังแบบจ่ายเอง ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 2500 (แบบ 3 ปีนะคะ)

เราจึงตัดสินใจที่จะฝัง โดยปรึกษาเพื่อนคนนึง (ขอสมมติชื่อ เอ นะคะ)
เรามีแฟนแล้วค่ะ คบกันมาปีกว่า
เคยมีเพศสัมพันธ์ แต่ก็ป้องกันตลอด (ใส่ถุง) เคยมีครั้งนึง ถุงรั่วค่ะ TT แต่ก็กินยาคุมฉุกเฉิน ซึ่งเราไม่อยากกินบ่อยๆ

ก่อนฝังเราเคยพูดกับแม่ แค่พูดแหย่ๆ ไม่ได้จริงจัง
โดนบ่นค่ะ555555555555555
แม่เราบอกน้องชายตลอดค่ะ ว่าอย่าล่วงเกินแฟนนะ อย่าไปทำอะไรเขานะ ถึงขั้นที่ว่าจะพาแฟนน้องชายเราไปฉีดยาคุม
ส่วนเรา แม่ไม่เคยพูดถึงเรื่องแบบนี้เลยค่ะ จริงๆแม่ก็รู้ว่า เรามีแฟนแล้วเราอยู่หอคนเดียวด้วย555555
เราจึงตัดสินใจไม่บอกแม่ คนในครอบครัวไม่มีใครรู้ค่ะ ครอบครัวเราไม่ได้เปิดกว้างเรื่องแบบนี้

เราไปโรงพยาบาลเดือนสิงหาคม แต่ไปโรงพยาบาลมหาลัย เพราะสิทธิการรักษาเราอยู่ที่นั่น
เราไปกับเอค่ะ
หมอ : วันนี้เป็นอะไรมาคะ
เรา : หนูขอใบส่งตัวไปฝังยาคุมค่ะ
หมอ : จะฝังทำไม
แล้วหมอก็บ่นอะไรไม่รู้ค่ะ เราก็ได้แต่ทำหน้างงๆ TT
สรุปวันนั้น ไม่ได้ใบส่งตัวค่ะ เขาไม่ทำให้ พยาบาลบอกว่า
ไม่เคยได้ยินโครงการแบบนี้นะ
จะฝังทำไม
ฝังก็ต้องใส่ถุงยางอยู่ดีนะ
เรากับเอ รู้สึกเฟลมากค่ะ555555555
เราเลยลองไปถามโรงพยาบาลจังหวัดค่ะ
แผนกสูติของโรงพยาบาลบอกว่า
มาทำได้เลยค่ะ ไม่จำเป็นต้องมีสิทธิการรักษาที่โรงพยาบาลนี้
อายุไม่เกิน 20 ปี ฟรีค่ะ
รอให้ประจำเดือนมา
ต้องฝังในช่วงประจำเดือน 1-5 วันแรก
ช่วงนั้นประจำเดือนเรายังไม่มาค่ะ

เราไปฝังจริงๆช่วงเดือนตุลาคมค่ะ (เราครบ 20 ปี เดือนธันวาคม)
ส่วนเอฝังเดือนกันยายน
เราไปช่วงนอกเวลา ประมาณ 4 โมงเย็น พยาบาลทุกคนน่ารัก ใจดีมากๆค่ะ
แต่ข้อมูลในระบบของเราขึ้นว่า เราอายุ 20 ปี
เพราะโรงพยาบาลนำปีมาลบกัน (2560-2540)
เราจึงต้องไปขอใบส่งตัวที่โรงพยาบาลมหาลัย แล้วก็เจอคำถามเดิม คำพูดเดิมของพยาบาล TT
เราฝังในวันนั้นเลยค่ะ ไปขอใบส่งตัวเสร็จก็กลับมา
วัดความดัน ซักประวัติเสร็จ ก็เข้าพบหมอ
หมออาจจะถามโน่นถามนี่
เราต้องตอบตามความจริงนะคะ ไม่ต้องอายค่ะ5555555
มันสำคัญมากๆ
หมอจะอธิบายอาการข้างเคียงของการฝังยา
ประจำเดือนมาบ่อย
ประจำเดือนไม่มา
ตกขาว ฯลฯ
ถนัดฝั่งไหน
ถ้าถนัดซ้าก็ฝังทางขวา
ถนัดขวาฝังทางซ้าย
ตอนที่ฝัง
เจ็บค่ะ เจ็บมากๆ555555
เจ็บตอนฉีดยาชา
เจ็บกว่าฉีดยาชาถอนฟัน
แล้ววหลังจากนั้นก็ไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ
หมอพยายามพูดตลอดว่า
แนะนำเพื่อนหรือแนะนำน้องได้นะ
มันดีมากๆเลยนะ ดีกว่าท้องไม่พร้อมนะ
ฝังเสร็จ พยาบาลก็ให้คำแนะนำ
แผลห้ามโดนน้ำ 3-4 วัน
จะมีรอยช้ำบริเวณที่ฝัง
แล้วก็จะมีใบนัด
เราฝังวันที่ 8/10/2560
นัดเอายาออก 8/10/2563
รับใบนัดเสร็จแล้ว กลับบ้านได้เลยค่ะ
ข้อสำคัญก่อนฝังยาคุมกำเนิด
-ต้องฝังในช่วง 1-5 วันแรกของการเป็นประจำเดือน
-ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์(ไม่ป้องกัน) ใน 7 วันก่อนการฝังยาคุมกำเนิด
ข้อสำคัญหลังการฝังยาคุมกำเนิด
-ในช่วงแรกของห้ามยกของหนัก เดี๋ยวยาหลุดค่ะ555
-แผลห้ามโดนน้ำประมาณ 3-4 วัน
-พยายามคลำยาที่ฝังเป็นประจำ เผื่อยามีการเคลื่อนจากตำแหน่งเดิม
-สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ 7 วันหลังการฝังยาคุมกำเนิด
-การฝังยาคุมกำเนิด ไม่ได้ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

เรากับเพื่อนเริ่มมีประจำเดือนกระปริบกระปรอยประมาณวันที่ 7 หลังจากฝังยาค่ะ

===> เพิ่มเติมจาก คห ที่ 56 ค่ะ
ผลข้างเคียงมีดังนี้นะคะ
> ประจำเดือนมีกระปริบกระปรอยตลอดช่วง หรือ โชคดีจะไม่มีประจำเดือนตลอดระยะเวลาการฝัง(ไม่ผิดปกติ)
> ฮอร์โมนเป็นคนละตัวกับยาคุมแบบแผง ผลข้างเคียงที่ได้จึงคนละแบบเพราะฉะนั้นอาจจะไม่มีเอฟเฟค ปวดหัว คลื่นไส้ น้ำหนักขึ้น บวมน้ำ ถือว่าดีกว่าแบบแผงมากๆ
> สำหรับผู้ที่มีประจำเดือนผิดปกติ การฝังยาคุมมีโอกาสช่วยเรื่องประจำเดือนให้มาปกติได้ ถ้าฮอร์โมนที่ผิดปกตินั้นตัวเดียวกับยาคุมกำเนิดแบบฝัง
> การฝังยาคุมมีโอกาสท้องเพียงแค่ 0.05% มีโอกาสป้องกันได้มากกว่าถุงยาง(โอกาสท้อง 18%) หรือการทำหมัน(โอกาสท้องหมันญ 0.5% /ช 0.15%) แต่มิได้ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จึงเหมาะกับผู้ที่แต่งงานแล้วมากที่สุด แต่ถ้ายังไม่แต่งงานก็ควรเพิ่มถุงยางนะคะ

ข้อแนะนำ การฝังยาคุมและหลังฝังต้องจัดการยังไงบ้าง
> งดการออกกำลังการหรือการใช้แขนในช่วง 3-4วันแรก หรือเป็นไปได้7วันเลยก็ดีค่ะ
> ควรฝังข้างที่ไม่ถนัดเพื่อความสะดวก
> ห้ามให้แผลโดนน้ำใน 3-4วันแรก อาจจะเปิดแผลได้ใน3-4 วันแล้วแต่คำแนะนำของหมอและพยาบาล
> หากมีอาการปวดบวมแสบหรือเลือดออก ควรรีบพบแพทย์เพื่อดูอาการทันที เผื่อมีการติดเชื้อ จะได้ทำการเอาออก(แต่โอกาสน้อย)
> ระยะแรกๆจะคันๆเจ็บๆหน่อยนะคะ 2-3วันก็ดีขึ้น
> หลังฝังเสร็จคุณหมอจะให้ใบเวลาการฝังมาค่ะ ว่าเราฝังวันนี้ และควรเอาออกวันไหน การเอาออกจะกรีดออกค่ะ มีรอยแผลเป็นเป็นขีดนิดเดียวบางๆ

รูปแผลค่ะ
วันแรก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ครบ 1 วันเอาผ้าพันแผลออกค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

วันที่ 6 ค่ะ มีรอยช้ำ แต่ไม่เจ็บไม่ปวดค่ะ (เราเป็นคนแผลหายช้า)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

วันที่ 8 ยังมีรอยช้ำ แผลคือจุดเล็กๆใต้รอยช้ำค่ะ ไม่เจ็บไม่ปวดเลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

วันที่ 17 เราเป็นคนที่แผลหายช้า เพื่อนเรามีรอยช้ำแปปเดียว ขีดสีขาวคือแท่งยาค่ะ วงกลมเป็นแผลที่ฝังค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

วันที่ 22 รอยแผลจากการฝังยาคุมกำเนิด คือ จุดเล็กๆค่ะ แผลเล็กนิดเดียว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

*****อัพเดตปัจจุบันนะคะ (8 ก.พ. 61) ตอนนี้ไม่มีประจำเดือนเลยค่ะ
- เดือนธันวาคมประจำเดือนมา 3 วัน มาแค่นิดเดียว
- เดือนมกราคมมาแบบประปริบกระปรอย 1 วันค่ะ
หลังจากนั้นยังไม่มีประจำเดือนเลยค่ะ
-น้ำหนักปกติ ไม่เพิ่มไม่ลดค่ะ
-สิวไม่มีเลยค่ะ (เรื่องสิวเราไม่แน่ใจนะคะ เพราะเราไปหาหมอผิวหนังทุกเดือนเลยไม่มีสิวเลย เพื่อนที่ฝังด้วยกันสิวก็ไม่ขึ้นเลยค่ะ)

*แก้ไข ใส่สปอยรูปภาพ
เราไม่ได้อยู่กินกับแฟนค่ะ อยู่คนละจังหวัดค่ะ เรียนคนละที่กัน 2-3 เดือนเจอกันครั้งนึง
*แก้ไขครั้งที่ 2 เพิ่มข้อมูลของ คห ที่ 56
*แก้ไขครั้งที่ 3 เพิ่มรูปแผลวันที่ 17
*แก้ไขครั้งที่ 4 เพิ่มรูปแผลวันที่ 22
 ############################################################################

******อัพเดต 21 เมษา 2564*********
เราครบรอบเอายาคุมที่ฝังออก เมื่อเดือน ตุลาคมปี 2563
กำหนดเอาออกคือวันที่ 10 ตุลา แต่เราไม่ได้ไปตรงวันเป๊ะๆค่ะ
ทีแรกว่าจะเอาออกแล้วไม่ฝังต่อ แต่ก็เปลี่ยนใจฝังต่อ
ตอนนี้โรงพยาบาลมหาลัยมีแผนกสูตินารีเวชแล้วค่ะ
เราเอาออกที่โรงพยาบาลมหาลัย และฝังต่ออีก 3 ปี 
ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เขาบอกว่าอนุโลมให้ครั้งเดียว 
คือเรามีสิทธิ์การรักษาที่นี่ แต่เราเรียนจบไปเป็นปีแล้ว 
แต่เนื่องด้วยเรามีปัญหาด้านสุขภาพที่ต้องรักษาต่อเนื่อง 
ทำให้สามารถใช้สิทธิ์นี้ได้ค่ะ

จากที่ผ่านมา อาการข้างเคียงที่เห็นได้ชัด คือ การไม่มีประจำเดือนค่ะ
อาการที่มีช่วงนึงคือ เจ็บเต้านนมค่ะ อัตราซาวน์แล้วไม่เจออะไร สักพักอาการเจ็บก็หายไปเองค่ะ
เรื่องสิวน้ำหนัก ปกติดี ไม่เพิ่มไม่ลด และไม่มีอาการอื่นๆค่ะ
เราไม่เป็นประจำเดือนรวมๆแล้ว 3 ปีกว่าๆ และคงไม่มีไปอีก 2-3 ปีค่ะ 
อาการเราที่ประจำเดือนไม่มาก็ปกติดีนะคะ ไม่ปวดไม่เจ็บไม่ตกขาว หน้าไม่หมอง โดยรวมๆคือปกติดีเลย
ประหยัดค่าผ้าอนามัยได้มหาศาลเลยค่ะ

วิธีเอาแท่งยาออกจะค่อนข้างรุนแรงและเจ็บนิดนึงนะคะ
เพราะหมอจะฉีดยาชา กรีดแผลเดิม แล้วใช้อุปกรณ์คล้ายคีมควานหาแท่งยา สิ่งขั้นตอนนี้ จะค่อนข้างนาน
และหมอจะใช้แรงดึงแท่งยาออก แล้วก็ฝังต่อเลย
เราได้ทำเป็นคิวสุดท้ายนะคะ เพราะต้องเอาอันเก่าออกแล้วใส่อันใหม่
แผลที่กรีดใหญขึ้นนิดเดียว (แบบนิดดดดดดจริงงงงงๆๆๆ)
มีแผบลช้ำ แต่ไม่นานและไม่หนักเท่ากับการฝังครั้งแรก

หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์กับทุกคนที่กำลังหาข้อมูลนะคะ
ขอบคุณค่ะ