เราคบกับแฟนเรามาอีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะครบรอบ 3 ปี เราเจอกันช่วงปี1ซึ่งตอนจะขึ้นปี2เขาโดนไทร์ออกไป นั่นทำให้เราเคว้ง กลายเป็นคนเกือบเป็นโรคซึมเศร้า (เนื่องจากสังคมเราโดนตัดหมดเลย เราไปเลือกเรียนสาขาที่เพื่อนเราไม่ได้ไปแล้วเพื่อนที่เรียนอยู่ก็ไม่รู้จักสักคน และยังมองเราด้วยสายตาแปลกๆ)
หลายๆอย่างรวมกับเราเองก็อยากให้เขากลับมา คือเราคิดกับเขาไกลกว่าที่จะคบกันเหมือนเด็ก แต่เรามองถึงอนาคต ซึ่งฐานะที่บ้านเราไม่ได้รวยแต่ว่ามีกินมีความสุขสบาย พ่อแม่เราก็อยากได้คนดีๆ เราก็พยายามหาทางช่วยให้เขาสอบโน่นนี่นั่น จนตอนเราขึ้นปี4 เขาก็ได้กลับมา (หมายความว่าตอนนี้เขาอยู่ปี1) ในระหว่างที่เขาไม่ได้มาเรียนเราก็หาสมัครงานให้เขาใกล้ๆบ้าน เป็นคนส่งเรซุเม่ให้ เขียนให้ จนทางนั้นติดต่อมา แต่สุดท้ายเขาก็บอกว่าเขาสมัครเองฝั่งนั้นติดต่อมาเอง เราก็ไม่ว่าอะไร
ระหว่างที่ห่างกันเราหาเช่าหอราคาถูกเพราะเวลาเรียนเรามันจะเป็นเช้า เย็นซะส่วนใหญ่ เราเคว้งไม่รู้จะไปไหน เลยกะว่ากลางวันจะไปนอนพักดีกว่า ซึ่งจ่ายได้ประมาณ5เดือน เขาก็อาสาว่าจะจ่ายค่าหอให้จากเงินเดือนเขา ราวๆ10000-12000 ค่าหอ 2500 ไม่มีค่าน้ำค่าไฟ เพราะเราใช้ไม่ถึง บางครั้งเขาก็จะมานอนเวลามาหาเรา พอใกล้ครบ1ปีสัญญาหอ เราบอกเขาว่า เราจะไม่ต่อสัญญา เราจะเก็บของแล้วเอามัดจำคืน แล้วพอเขากลับมาเรียนได้ เราก็ค่อยไปเช่าหอใหม่ที่ดีๆ ระหว่างนั้นก็เก็บเงินไป เพราะว่าพอมาเรียนก็ต้องไม่ทำงานแล้ว แต่เขาบอกให้หาหอใหม่เลยไม่ฟังอะไรเรา เราบอกว่างั้นเราไม่รู้ด้วยนะ ซึ่งได้หอข้างๆที่เป็นห้องแอร์ในราคา 3500 ซึ่งเรื่องก็ดำเนินเป็นปกติ เขาจ่ายอะไรเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือไม่มีเงินเก็บ (แฟนเราอยู่กับพ่อกับแม่นะคะ ค่าน้ำค่าไฟค่าบ้านอะไรไม่ต้องจ่าย แต่ต้องจ่ายค่าโทรศัพท์เอง ทุกๆเดือนเค้าจะขอเราซื้อเกมส์ 3DS เกมส์ในสตรีม สกินในเกมส์ คือเราเองก็เล่นเกมส์แล้วเห็นเป็นเงินเขา เขาทำงานเขาอยากซื้อเราไปบ่นมากก็ไม่ได้แต่ก็พยายามปรามเขาว่าเก็บเงินหน่อย อันนี้ไว้ซื้อเดือนหน้าก็ได้ไหม) เราเองเห็นแบบนั้นก็พยายามพูดว่า เค้าช่วยจ่ายไหม เขาก็ว่าเราว่า จะเอาตังมาจากไหน
พอเริ่มเปิดเทอมปัญหาก็เริ่มมา เดือนแรกยังคงๆอยู่ไม่มีปัญหาอะไรเนื่องจากยังมีเงินเดือนที่ได้ ตอนแรกที่บ้านตกลงว่าจะให้เงินเขาเดือนละ8000บาทโอนแต่ละอาทิตย์2000-1500 แต่ตอนนี้คือโอนให้เขาตอนแรก5000 ปลายเดือนหลังอีก2000 ค่าหอที่จาก3500ก็กลายเป็น4500จากค่าไฟ(เค้าเสียบปลั๊กโน้ตบุคไว้ตลอด-.-) และค่าโทรศัพท์ที่ต้องจ่ายเอง เราจึงช่วยเขาออก 2500 บางครั้งก็2000 เพราะเราเรียนอย่างเดียว ตังที่เรามีจะเป็นเงินเก็บล้วนๆ ปัจจุบันเราเองก็ยังต้องขอพ่อกับแม่อยู่ เขาซื้อโน่นซื้อนี่ ซื้อกระต่ายมาเลี้ยง ตัวละเกือบๆ500 เขาร้านเกมส์ ประมาณกลางเดือนเงินเขาก็หมด
เราเป็นคนจ่ายค่าอยู่ค่ากินของเขา ค่ารถ ค่าข้าว เราบอกว่าให้ทวงจากคนที่ติดเงินรึยัง ทวงไปมาเขาก็บอกว่าขี้เกียจบอกว่า ถ้าเขาอยากคืนเขาก็ตอบมาแล้ว ถ้าเขาจะคืนเขาก็คงตอบมานี่คนมันจะไม่คืน เราเลยทะเลาะกันที่ว่า เอ้า เขาจะไม่คืน แถมเรายังไม่ทวง แล้วจะได้ตังไหม เขาก็ว่าเรา
เราเคยทะเลาะกันแล้วเราหนีไม่ไปหาเขา แต่เราโอนตังให้เขา500 ในวันพุธ ซึ่งหมดลงในวันศุกร์ ไม่เหลือเลย เราก็งงว่าเห้ย มันหมดไวขนาดนั้นเลยเหรอ เอาตังไปทำอะไร แล้วเราก็รู้ว่าเขาตะบีตะบันกินมาก แบบซื้อโน่นซื้อนี่ กินทั้งที่ไม่หิว กินเสร็จถ่าย แล้วไปซื้อมากินใหม่ เราเลยเอาวอยเชอร์ของคุณแม่ที่ได้จากโลตัส บอกว่าหนูจะเอาไปเลี้ยงน้อง ไปซื้อขนม มาม่า ซื้อเต็มไปหมดไปยัดตู้ที่หอ บอกให้เขากินเวลาแบบหิว อยากจะกิน หรือไม่มีอะไรกินตังไม่พอ แต่ต้องกินแบบประหยัดหน่อย ไม่ใช่แบบไม่หิวแต่จะกินแล้วกินหมดเลย ไม่นานนักก็หมด เข้าช่วงสอบ เราทะเลาะกับเขา เขาไม่มาสอบ เข้าสอบ9.30 เราโทรปลุกเขาตั้งแต่8.30 ตอน9.30เราโทรไปหาเขาอีก เขาบอกกำลังจะออก เราโอเคเดี๋ยวเค้ารอเพราะมันเข้าได้ถึง10.00โมง แต่แล้วโทรไปถามอีกตอน9.55ว่าอยู่ไหนเพราะเราไม่เห็นเค้าสักที เชื่อไหมคะ เขายังอยู่ที่หอ ซึ่งต้องใช้เวลาเดินออกมาอีกจากซอยกว่าจะถึงวิน เราโกรธมาก แล้วเราก็ต้องไปสอบเราวางสายแล้วเข้าห้อง ในห้องเราก็ภาวนาให้เขามาแล้วอาจารย์ให้เข้า แต่เชื่อไหมเขาไม่มาเลย
เมื่อสอบเสร็จเราโทรหาเขา เราถามสาเหตุถามเขาอยู่ไหน ทำไมเราโทรไปปลุกไม่ตื่นอีกรู้ว่าสอบทำไมทำแบบนี้ โทรไปไม่ใช่รอบเดียวหลายรอบ กลายเป็นทะเลาะกัน แล้วเขาไล่เราว่าอย่ามายุ่งกับชีวิตเขา อย่ามา

มีเราแล้วชีวิตเขาแย่ มีดีบ้างแย่บ้างแต่ไม่มีดีกว่า ตอนนั้นเราร้องไห้หนักมากถามเขาว่าทำแบบนี้คืออะไร เลิกใช่ไหม เขาก็ตอบว่าไม่น่าโง่นะ เราแอบไปร้องเช็ดน้ำตาเพราะเพื่อนอยู่ด้วย แล้วก็พยายามทำตัวปกติ จริงๆก็ค่อนข้างชินเพราะทะเลาะกันเขาก็จะไล่เรา แต่เขาพูดแบบนี้เราโกรธมากทั้งๆที่เขาผิด ทั้งๆทีเราอยู่ข้างๆเขามาตลอดเราตัดใจ เพื่อนชวนไปร้านเกมส์ เราก็ไป เย็นๆเขาโทรมาหา เราไม่ตอบ ไม่รับ มันยังวนเวียนอยู่ในหัวว่า เราทำให้ชีวิตเขาแย่ สักพักเขาเข้าร้านเกมส์มานั่งข้างๆเรา มาจับมือเรา เราพยายามไม่สนใจ แล้วเขาพูดว่าขอโทษเค้าไม่ดีเอง เราก็เงียบ แล้วเขาก็ทำเสียงออดอ้อนว่า งืออ หิวข้าว ขอตังกินข้าวหน่อยยังไม่ได้กินไรเลย ทำให้สมองเราคิดว่า เห้ย นี่ตั้งใจง้อหรือว่ามาเพราะไม่มีตังกินข้าว เราให้เขาไปแล้วเราก็เดินออกจากร้านเกมส์ ซึ่งเขาก็ไมได้ตามมา
หลังจากนั้นไม่นานเราก็ใจอ่อนกลับไปหาเขาด้วยความเป็นห่วง วนลูปเดิมในการเปย์และเลี้ยงเขา จ่ายค่าร้านเกมส์ 100บาท 12ชมให้เขา ค่าข้าวค่ากินค่าดูแล ซึ่งเขาก็ไม่คิดจะทวงคนที่ยืมแล้วไม่คิดจะคืน เวลาแม่ไม่โอนตังมาให้ทั้งที่ถึงเวลาเขาก็จะไม่โทรหา เขาบอกเหมือนโทรไปทวง ซึ่งแม่เขาไม่โอนก็คือไม่โอนเลย เดือนนั้นอาจได้แค่5000เฉยๆ เราก็แอบสงสัยว่าเขาไม่ห่วงลูกเลยเหรอ เพราะเขาไม่เคยโทรมาถามว่าเป็นไงบ้างมีเงินพอกินไหม กินข้าวหรือยังสบายดีไหม ต่างจากแม่เราที่เรามีเงินแล้วพอกินข้าววันนี้ก็จะยัดใส่กระเป๋าเราไว้เพราะกลัวลูกไม่อิ่มท้อง
เราเองรักเขาไม่อยากให้เขาอดๆอยากๆ เราจึงเลือกที่จะอดๆอยากๆเอง เพราะยังไงเราเองก็กลับมากินข้าวบ้าน จึงเลือกซื้อข้าวให้เขาซื้อของให้เขาแต่ไม่กินในสิ่งที่ตัวเองอยากกิน เราเองก็ช่วยพ่อกับแม่ทำงานมาตั้งแต่เด็ก รู้ว่าเงินเหมือนจะได้มาง่ายแต่มันก็ลำบาก เรารู้สึกไม่ดีที่แบมือขอตังแม่มาเลี้ยงผู้ัชายไปเฉยๆ เราคิดว่าถ้าเกิดว่าเราทำงานเองเราคงเปย์เขาหมดไปแล้ว เราเองก็แค่อยากให้เขาประหยัดบ้าง ที่เราให้ไปบางทีกินได้ทั้งวัน แต่มันหมดเร็วมาก บางทีกินข้าวด้วยกันสองทุ่มเขาอยากกินโจ๊กเราให้เขาสั่งโจ๊กเรารอพ่อมารับกินน้ำเปล่าเล่นเกมส์ วันต่อมาเขาบอกไม่ได้กินไรทั้งคืนหิวมากแล้วโมโหใส่เรา เราถามว่าเอ้าโจ๊กที่กินละ เขาบอกมันไม่ใช่ข้าว
เราดูเห็นแก่ตัวมากไหมที่คิดแบบนี้ บางทีมันก็รู้สึกหงุดหงิด บางทีก็ทำไมละ บางทีก็รู้สึกแย่แบบนี่ยังอยู่กับเรา ง้อเราเพราะไม่มีตังรึเปล่า
เมื่อเราต้องเลี้ยงแฟนแล้วรู้สึกแปลกๆ
หลายๆอย่างรวมกับเราเองก็อยากให้เขากลับมา คือเราคิดกับเขาไกลกว่าที่จะคบกันเหมือนเด็ก แต่เรามองถึงอนาคต ซึ่งฐานะที่บ้านเราไม่ได้รวยแต่ว่ามีกินมีความสุขสบาย พ่อแม่เราก็อยากได้คนดีๆ เราก็พยายามหาทางช่วยให้เขาสอบโน่นนี่นั่น จนตอนเราขึ้นปี4 เขาก็ได้กลับมา (หมายความว่าตอนนี้เขาอยู่ปี1) ในระหว่างที่เขาไม่ได้มาเรียนเราก็หาสมัครงานให้เขาใกล้ๆบ้าน เป็นคนส่งเรซุเม่ให้ เขียนให้ จนทางนั้นติดต่อมา แต่สุดท้ายเขาก็บอกว่าเขาสมัครเองฝั่งนั้นติดต่อมาเอง เราก็ไม่ว่าอะไร
ระหว่างที่ห่างกันเราหาเช่าหอราคาถูกเพราะเวลาเรียนเรามันจะเป็นเช้า เย็นซะส่วนใหญ่ เราเคว้งไม่รู้จะไปไหน เลยกะว่ากลางวันจะไปนอนพักดีกว่า ซึ่งจ่ายได้ประมาณ5เดือน เขาก็อาสาว่าจะจ่ายค่าหอให้จากเงินเดือนเขา ราวๆ10000-12000 ค่าหอ 2500 ไม่มีค่าน้ำค่าไฟ เพราะเราใช้ไม่ถึง บางครั้งเขาก็จะมานอนเวลามาหาเรา พอใกล้ครบ1ปีสัญญาหอ เราบอกเขาว่า เราจะไม่ต่อสัญญา เราจะเก็บของแล้วเอามัดจำคืน แล้วพอเขากลับมาเรียนได้ เราก็ค่อยไปเช่าหอใหม่ที่ดีๆ ระหว่างนั้นก็เก็บเงินไป เพราะว่าพอมาเรียนก็ต้องไม่ทำงานแล้ว แต่เขาบอกให้หาหอใหม่เลยไม่ฟังอะไรเรา เราบอกว่างั้นเราไม่รู้ด้วยนะ ซึ่งได้หอข้างๆที่เป็นห้องแอร์ในราคา 3500 ซึ่งเรื่องก็ดำเนินเป็นปกติ เขาจ่ายอะไรเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือไม่มีเงินเก็บ (แฟนเราอยู่กับพ่อกับแม่นะคะ ค่าน้ำค่าไฟค่าบ้านอะไรไม่ต้องจ่าย แต่ต้องจ่ายค่าโทรศัพท์เอง ทุกๆเดือนเค้าจะขอเราซื้อเกมส์ 3DS เกมส์ในสตรีม สกินในเกมส์ คือเราเองก็เล่นเกมส์แล้วเห็นเป็นเงินเขา เขาทำงานเขาอยากซื้อเราไปบ่นมากก็ไม่ได้แต่ก็พยายามปรามเขาว่าเก็บเงินหน่อย อันนี้ไว้ซื้อเดือนหน้าก็ได้ไหม) เราเองเห็นแบบนั้นก็พยายามพูดว่า เค้าช่วยจ่ายไหม เขาก็ว่าเราว่า จะเอาตังมาจากไหน
พอเริ่มเปิดเทอมปัญหาก็เริ่มมา เดือนแรกยังคงๆอยู่ไม่มีปัญหาอะไรเนื่องจากยังมีเงินเดือนที่ได้ ตอนแรกที่บ้านตกลงว่าจะให้เงินเขาเดือนละ8000บาทโอนแต่ละอาทิตย์2000-1500 แต่ตอนนี้คือโอนให้เขาตอนแรก5000 ปลายเดือนหลังอีก2000 ค่าหอที่จาก3500ก็กลายเป็น4500จากค่าไฟ(เค้าเสียบปลั๊กโน้ตบุคไว้ตลอด-.-) และค่าโทรศัพท์ที่ต้องจ่ายเอง เราจึงช่วยเขาออก 2500 บางครั้งก็2000 เพราะเราเรียนอย่างเดียว ตังที่เรามีจะเป็นเงินเก็บล้วนๆ ปัจจุบันเราเองก็ยังต้องขอพ่อกับแม่อยู่ เขาซื้อโน่นซื้อนี่ ซื้อกระต่ายมาเลี้ยง ตัวละเกือบๆ500 เขาร้านเกมส์ ประมาณกลางเดือนเงินเขาก็หมด
เราเป็นคนจ่ายค่าอยู่ค่ากินของเขา ค่ารถ ค่าข้าว เราบอกว่าให้ทวงจากคนที่ติดเงินรึยัง ทวงไปมาเขาก็บอกว่าขี้เกียจบอกว่า ถ้าเขาอยากคืนเขาก็ตอบมาแล้ว ถ้าเขาจะคืนเขาก็คงตอบมานี่คนมันจะไม่คืน เราเลยทะเลาะกันที่ว่า เอ้า เขาจะไม่คืน แถมเรายังไม่ทวง แล้วจะได้ตังไหม เขาก็ว่าเรา
เราเคยทะเลาะกันแล้วเราหนีไม่ไปหาเขา แต่เราโอนตังให้เขา500 ในวันพุธ ซึ่งหมดลงในวันศุกร์ ไม่เหลือเลย เราก็งงว่าเห้ย มันหมดไวขนาดนั้นเลยเหรอ เอาตังไปทำอะไร แล้วเราก็รู้ว่าเขาตะบีตะบันกินมาก แบบซื้อโน่นซื้อนี่ กินทั้งที่ไม่หิว กินเสร็จถ่าย แล้วไปซื้อมากินใหม่ เราเลยเอาวอยเชอร์ของคุณแม่ที่ได้จากโลตัส บอกว่าหนูจะเอาไปเลี้ยงน้อง ไปซื้อขนม มาม่า ซื้อเต็มไปหมดไปยัดตู้ที่หอ บอกให้เขากินเวลาแบบหิว อยากจะกิน หรือไม่มีอะไรกินตังไม่พอ แต่ต้องกินแบบประหยัดหน่อย ไม่ใช่แบบไม่หิวแต่จะกินแล้วกินหมดเลย ไม่นานนักก็หมด เข้าช่วงสอบ เราทะเลาะกับเขา เขาไม่มาสอบ เข้าสอบ9.30 เราโทรปลุกเขาตั้งแต่8.30 ตอน9.30เราโทรไปหาเขาอีก เขาบอกกำลังจะออก เราโอเคเดี๋ยวเค้ารอเพราะมันเข้าได้ถึง10.00โมง แต่แล้วโทรไปถามอีกตอน9.55ว่าอยู่ไหนเพราะเราไม่เห็นเค้าสักที เชื่อไหมคะ เขายังอยู่ที่หอ ซึ่งต้องใช้เวลาเดินออกมาอีกจากซอยกว่าจะถึงวิน เราโกรธมาก แล้วเราก็ต้องไปสอบเราวางสายแล้วเข้าห้อง ในห้องเราก็ภาวนาให้เขามาแล้วอาจารย์ให้เข้า แต่เชื่อไหมเขาไม่มาเลย
เมื่อสอบเสร็จเราโทรหาเขา เราถามสาเหตุถามเขาอยู่ไหน ทำไมเราโทรไปปลุกไม่ตื่นอีกรู้ว่าสอบทำไมทำแบบนี้ โทรไปไม่ใช่รอบเดียวหลายรอบ กลายเป็นทะเลาะกัน แล้วเขาไล่เราว่าอย่ามายุ่งกับชีวิตเขา อย่ามา
หลังจากนั้นไม่นานเราก็ใจอ่อนกลับไปหาเขาด้วยความเป็นห่วง วนลูปเดิมในการเปย์และเลี้ยงเขา จ่ายค่าร้านเกมส์ 100บาท 12ชมให้เขา ค่าข้าวค่ากินค่าดูแล ซึ่งเขาก็ไม่คิดจะทวงคนที่ยืมแล้วไม่คิดจะคืน เวลาแม่ไม่โอนตังมาให้ทั้งที่ถึงเวลาเขาก็จะไม่โทรหา เขาบอกเหมือนโทรไปทวง ซึ่งแม่เขาไม่โอนก็คือไม่โอนเลย เดือนนั้นอาจได้แค่5000เฉยๆ เราก็แอบสงสัยว่าเขาไม่ห่วงลูกเลยเหรอ เพราะเขาไม่เคยโทรมาถามว่าเป็นไงบ้างมีเงินพอกินไหม กินข้าวหรือยังสบายดีไหม ต่างจากแม่เราที่เรามีเงินแล้วพอกินข้าววันนี้ก็จะยัดใส่กระเป๋าเราไว้เพราะกลัวลูกไม่อิ่มท้อง
เราเองรักเขาไม่อยากให้เขาอดๆอยากๆ เราจึงเลือกที่จะอดๆอยากๆเอง เพราะยังไงเราเองก็กลับมากินข้าวบ้าน จึงเลือกซื้อข้าวให้เขาซื้อของให้เขาแต่ไม่กินในสิ่งที่ตัวเองอยากกิน เราเองก็ช่วยพ่อกับแม่ทำงานมาตั้งแต่เด็ก รู้ว่าเงินเหมือนจะได้มาง่ายแต่มันก็ลำบาก เรารู้สึกไม่ดีที่แบมือขอตังแม่มาเลี้ยงผู้ัชายไปเฉยๆ เราคิดว่าถ้าเกิดว่าเราทำงานเองเราคงเปย์เขาหมดไปแล้ว เราเองก็แค่อยากให้เขาประหยัดบ้าง ที่เราให้ไปบางทีกินได้ทั้งวัน แต่มันหมดเร็วมาก บางทีกินข้าวด้วยกันสองทุ่มเขาอยากกินโจ๊กเราให้เขาสั่งโจ๊กเรารอพ่อมารับกินน้ำเปล่าเล่นเกมส์ วันต่อมาเขาบอกไม่ได้กินไรทั้งคืนหิวมากแล้วโมโหใส่เรา เราถามว่าเอ้าโจ๊กที่กินละ เขาบอกมันไม่ใช่ข้าว
เราดูเห็นแก่ตัวมากไหมที่คิดแบบนี้ บางทีมันก็รู้สึกหงุดหงิด บางทีก็ทำไมละ บางทีก็รู้สึกแย่แบบนี่ยังอยู่กับเรา ง้อเราเพราะไม่มีตังรึเปล่า