เมื่อฉันพบว่าพ่อเป็นโรคมะเร็งลำไส้ที่กำลังลุกลาม

สวัสดีทุกท่านที่กำลังเข้ามาอ่านกระทู้นี้นะคะ เรื่องราวของฉันเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วแต่ตอนนี้อยากจะมาแบ่งปันเรื่องราวที่ฉันเจอให้กับเพื่อนๆทุกคน หวังว่าจะเป็นประโยชน์เป็นกำลังใจกับผู้ที่กำลังเจอปัญหานี้เหมือนฉันได้
ขอเล่าก่อนนะคะว่าพ่อของฉันเป็นคนแข็งแรงมากตัวอ้วนท้วนสมบูรณ์ดีไม่มีโรคประจำตัวทั้งนั้น อายุ 60 กว่าต้นๆ และชอบกินอาหารมันๆ หัวหมู คอหมู เครื่องใน หมูเนื้อแดงต่างๆ กินผักหรืออาหารคลีนๆนี่แทบจะไม่ค่อยกินเลย แต่เรื่องมันเริ่มขึ้นเมื่อประมารกลางปีที่แล้วคะพ่อเริ่มมีอาการปวดท้องบ่อยๆ และเวลาปวดท้องก็ชอบกินยาเองไม่เคยไปหาหมอเลยคะกินพวกยาธาตุต่างๆ พออาการดีขึ้นก็มาเป็นอีกซ้ำๆ จนคนในครอบครัวเริ่มสงสัยค่ะ จากนั้นมีอยู่วันนั้นพ่ออาการคล้ายอาหารเป็นพิษประมาณเดือนกันยายน ปี 2559 เข้ารพ ประจำจังหวัดแต่หมอก็ไม่ค่อยตรวจอาการใดๆ ทั้งทีคนในครอบครัวเห็นว่าพ่ออาการหนักมาก ปวดท้องท้องโต มีอาการตัวเหลือง ซีด หมอขั้นเบื้องต้นก็ตรวจแค่จับหน้าท้องละก็ให้นอนแค่นั้น ขณะที่นอนอยู่ที่มาตรวจด้วยหมอฝึกหัด หมอฝึกหัดก็ไม่ทราบอาการเช่นกัน ก็มีการให้เลือด ให้น้ำเกลือแค่นั้นคะ หลังจากนั้นพ่อก็ออกจาก รพ. เมื่อออกมาแล้วไม่นานพ่อก็อาการไม่ดีเช่นเคย คนในครอบครัวเริ่มเครียดกันกันไม่รู้ว่าพ่อเป็นอะไรกันแน่ ก็ไป รพ.แถวศาลายาอีกก็ยังไม่สามารถตรวจได้ว่าเป็นอะไรกันแน่ ตอนนี้พ่อหาหลายรพ.ก็ไม่มีใครตรวจเจอสักที จนวันหนึ่งตอนที่ฉันไปเรียนและกำลังจะกลับบ้านน่าจะวันที่ 14 พฤศจิกายน 2559 แม่ก็โทรมาบอกว่าพ่อไม่ไหวแล้วเลยไป รพ. เอกชนแถวราชบุรีค่ะ พ่อไปตรวจ ct scan เราก็นั่งรอผลตรวจกัน หมอเรียกเราเข้าไปคุยส่วนตัวและบอกว่าพ่อเป็นมะเร็งลำไส้ระยะที่3 เกือบ4 ลุกลามไปยังส่วนอื่นบ้างแล้ว และหมอก็ทำอะไรไม่ได้ บอกว่าต้องรีบเปิดช่องท้องเพราะเดี๋ยวจะอุจจาระอุดตัน เนื่องจากพ่อตอนนี้มีก้อนเนื้อใหญ่ 9 cm ที่ตรงลำไส้เล็ก พวกเราช็อคมากค่ะ ทำตัวไม่ถูก น้ำตาไหลโดยที่บอกไม่ถูกเลย และก็ไม่รู้ว่าจะต้องรักษายังไงต่อ หลังจากออกมาห้องนั้นเราก็ไปนั่งร้องไห้ในห้องน้ำคนเดียว พี่สาวของเราก็ร้องไห้กับแม่ ตอนนั้นเราเพิ่งเลิกกับแฟนด้วยเราเสียใจมากที่ต้องมาเจอเรื่องที่เสียใจที่สุดแบบนี้ เราไม่รู้จะโทรไประบายกับใครเลย เราต้องร้องไห้ให้สุดละออกมาจากห้องน้ำ เพราะให้พ่อเห็นเราร้องไม่ได้ เราออกมาพ่อก็นั่งรออยู่ข้างนอก หน้าตาไม่รู้เรื่องไรเลย เราก็ปิดบังพ่อกันคะ เมื่อเรากลับมาบ้านก็บอกกับคนอื่นในครอบครัวทุกคน มาปรึกษากันว่าจะรักษายังไงต่อ ไร้หนทางมากๆ จนป้าเรามาจาก กทม ป้าก็มีเพื่อนเป็นพยาบาลคนหนึ่งคะ เขาก็ติดต่อที่ รพ บ้านแพ้วให้ และวันที่ 16 พ.ย. 59 เราก็ไปที่รพคะ พ่อก็ยังไม่รู้เรื่องเช่นเดิม เราไปพบหมอศัลคะ พ่อก็แอดมิดเลยเพื่อการผ่าตัด (คือขอบอกก่อนว่าพ่อคิดว่าตัวเองนั้นเป็นแค่ลำไส้อุดตัน เพราะถ้าบอกมะเร็งไปช่วงนี้พ่ออาจจะรับไม่ได้มันต้องใช้เวลาคะ) คือก็อยู่รพ 2วันรอการผ่าตัดคะ เรากับแม่ก็เฝ้าพ่อกัน  พ่อผ่าตัดไป นานน่าจะประมาณ 4-6 ชม เราไม่แน่ใจเวลาคะ เมื่ออกมากก็พักฟื้นเยอะมาก กินข้าวไม่ได้เลย อุปกรณ์เต็มตัวพ่อมากคะ อยู่รพ ประมาณ เกือบ1 เดือนได้ ก็ออกจาก รพ ค่ะ ก่อนออกจากรพ เราก็ค่อยๆบอกพ่อว่าหลังผ่าตัดพ่อก็ยังต้องรักษาต่อนะ ต้องใช้ยาเคมีเพื่อฆ่าเซลล์ไม่ดี เพราะไม่รู้ว่าแค่ผ่าตัดจะหายหมดรึเปล่า พ่อก็เชื่อฟังพวกเราค่ะ เพราะปกติพ่อดื้อมาก กลัวการรักษาทุกอย่าง เราว่าพ่อคงรู้ว่าเป็นอะไรแล้วแต่เราไม่อยากพูดออกไปตรงๆ เหมือนเวลาทำให้พ่อไม่ช็อคกับโรคที่เป็นอยู่ พออยู่บ้านพ่อก็ต้องกินอาหารที่ดีมีประโยชน์อาหารอ่อนๆ เลี่ยงพวกเนื้อสัตว์แดงคะ มันอันตรายมากเลยนะคะ หลังจาดนั้นพ่อก็เริ่มเข้ารับยา พ่อของเราให้ยาโดยการกิน แบบว่าไปที่ รพ.แล้วก็ให้ทางสายแล้วก็เอายามากินเองที่บ้านอีก14 วัน ช่วงนี้งดของกินทุกอย่างนะคะ ให้ยาช่วงแรกๆพ่อก็จะมีอาการอ่อนเพลียอ่อนแรงไปบ้าง กินอาหารไม่ค่อยลง
พ่อของเราให้ยาทั้งหมดจนถึงปัจจุบันประมาณ 10 ครั้งพ่อแล้วคะ เพราะตอนนี้เหมือนร่างกายพ่อเราจะรับยาเคมีไม่ค่อยไหว และตอนที่พ่อให้ยาก็มีกินสมุนไพรบ้างคะ( อันนี้อยู่ที่ความเชื่อของแต่ละบุคคลนะคะ) ตอนกินเรารู้สึกว่าพ่อเราดีขึ้น แต่พ่อให้ยาครั้งที่10นี้ เรารู้สึกว่าพ่ออาการไม่ค่อยดี ผลข้างเคียงยาเยอะ และตอนนี้เหมือนไอหนักไอบ่อย เหใือนมีเลือดออกมาด้วยไม่รู้ว่าจากโพรงจมูกหรือปากกันแน่แต่พ่อบอกว่าโพรงจมูก ไม่รู้ว่าจะลามไปปอดหรือเปล่า เราเครียดมากเลยคะ คิดว่าอีก2วันจะไปหาหมออีกทีเพราะติดวันหยุดยาว เราจะมาเล่าเรื่อยๆ อยากเป็นกำลังใจให้คนที่เจอเรื่องนี้จริงๆ มีการรักษาได้ เราว่ากำลังใจเป็นสิ่งสำคัญมากเลย ไว้เราจะมาเล่าให้ฟังใหม่ขอบคุณทุกคนที่มาอ่านด้วยนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่