สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกของผม ไม่รู้ว่าเค้าใช้งานเว็บกันยังไง แท็กห้องไหนกัน แต่อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ของผมให้ฟัง เรื่องคือผมเป็นคนภาคใต้เป็นชายรักชาย รู้ตัวมาตั้งแต่เด็กๆเเล้วตัวเองรักชอบผู้ชาย แต่ผมเพิ่งมีประสบการณ์ก็ตอนอายุ15ได้มั้งครับ ตอนนั้นเรียนชายล้วน ก็แบบหน้าตาผมจะดูหน่อมแน้มหน่อย (ไม่ถึงกับหล่อแต่เพื่อนๆจะมองแบบน่ารักน่าหยิกไรประมาณนี้) เพื่อนเลยชอบแกล้ง ชอบจับไปกอด มีทั้งรุ่นพี่รุ่นเดียวกันและรุ่นน้อง แต่ช่วงนั้นก็ไม่ได้หมกมุ่นกับเรื่องนี้มาก แค่อยากลองสนุกๆดู และมีแฟนคนแรกที่นั่น แต่คบกันได้ไม่นานก็เลิกกัน ไม่เชิงเลิกหรอก แต่ผมต้องออกจากโรงเรียน เพราะทางบ้านส่งไม่ไหว พ่อแม่แก่แล้ว ไหนน้องก็ต้องเรียนอีก เลยห่างๆละก็หายกันไปเลย เลยกลับมาทำงานที่บ้านช่วยพ่อแม่ส่งน้องๆเรียน ออกจากโรงเรียนใหม่ๆช่วงนั้นโทรศัพท์มือถือยังเป็นรุ่นโนเกีย n73 ที่ดังๆ แต่พวกแอพต่างๆนี่ไม่มีเลย ทำให้ผมห่างจากเรื่องพวกนี้ไปเลย แต่ความอยากมันยังมีอยู่นะคับ5555 เห็นผู้ชายหล่อๆรู้สึกรักชอบ แต่ก็ทำได้แค่คิดนั่นแหละ จนวงการมือถือเริ่มพัฒนา ผมก็ได้มือถือเครื่องแรกเป็นรุ่น ไอโมบาย ที่พอเล่นเน็ตได้ แต่ค่าเน็ตแพงมาก เว็บไรก็ไม่รู้จัก แต่ด้วยความพยายามอยากดูคลิป ก็พิมหาจนเจอสมใจ และช่วยตัวเองตลอด555 และหลังจากนั้นเริ่มจะมีแอพโน้นนี่มาบ้าง ก็อย่างว่าแหละ ความอยากของผม โพสหาในกลุ่มเฟสบุ๊คหาแฟนหาคนคบตามประสา เจอคับแต่ก็ไม่ได้เจอกันจริงๆเพราะอยู่ใกลกัน คบกันเลิกกันหลายคนมากโดยที่ไม่มีไรกันเลย ตอนนันเริ่มมีพวกแอพวอทแอพอะไรพวกนี้ ผมก็เล่นเอาจริงจังเลยแหละ แต่ก็อย่างว่า อยู่ไกลกันอีก แต่ก็เล่นมาเรื่อยๆ ส่วนตัวผมชอบหาดูคลิปและช่วยตัวเองบ่อยๆครับ555 หลังจากนั้นผมอายุ19ได้มีแฟนคนนึง คบกัน2-3ปี ตอนนั้นผมหนีไปอยู่กับแฟนเลยครับ (ลืมบอกไปที่บ้านผมจะไม่ยอมรับเรื่องพวกนี้เลย) ที่หนีเพราะทางบ้านรู้ครับ ไปอยู่กับเค้า ทำงานอยู่กินด้วยกันเลย แต่ชีวิตคู่ของเรามันไม่ราบรื่น มีปัญหาการงาน จนทำให้ผมต้องกลับมาอยู่บ้าน (ตอนนั้นที่บ้านโทรตามกลับด้วย เค้ารู้ทุกอย่าง ว่าผมเป็น แต่เค้าทำแบบไม่รู้เรื่อง ไม่พูดถึงเรื่องนั้นเลย) แฟนผมก็ไปทำงานที่กทม.จากนั้นก็เริ่มห่างๆกัน ติดต่อกันนานๆที และก็หายไปเลย จนมารู้อีกทีเค้ามีแฟนใหม่แล้ว ซึ่งผมก็เฉยๆไปแล้วล่ะ คงเพราะเราอยู่ด้วยกันมาตลอด3ปี มันมีอะไรที่ไม่ชอบใจ ไม่ถูกใจกันบ้าง พอห่างกันมันเลยไม่ค่อยรู้สึกอะไรแล้ว และเค้าก็ไปมีคนใหม่ด้วย เราก็เลิกคุยกันไปโดยปริยาย และหลังจากนั้นผมก็ได้รู้จักกับแอพ สีส้ม เป็นแอพที่พวกชายรักชายรู้จักกันดี ผมก็มีนัดบ้าง แต่ผมก็เลือกนะครับ ไม่ได้เอาทุกคน ป้องกันตลอด ไม่ได้มั่ว555 และ HIV ผมก็ไม่ได้ติดจากคนในแอพนี้ด้วย เพราะผมไปตรวจเลือดมาแล้ว ผลปกติ จนปี59ผมได้มารู้จักกับแอพนกสีฟ้า เล่นได้เกือบๆ1ปี ก็ได้รู้จักคนเยอะแยะเลย ช่วงนั้นผมโตแล้ว จะไปไหนมาไหนทางบ้านก็ไม่ว่าไรมาก จนปีกลางๆปี60 ผมก็ขึ้นไปเที่ยวกทม. ด้วยความที่ผมมีอิสระ อยากทำไรก็ได้ เลยนัดกับคนในแอพนกสีฟ้า ผมไปอยู่2-3เดือน ก็มีนัดเรื่อยๆ แต่ผมป้องกันนะคับ มีแค่บางคนที่แบบเคยคุยกันมาตั้งแต่เล่นแอพนี้แรกๆ ผมไม่ได้ป้องกันครับ ผมถามเค้าว่าไว้ใจได้มั้ย เค้าบอกว่าไว้ใจได้ ด้วยความที่ผมมักง่าย ก็มีอะไรกันโดยที่ไม่ได้ป้องกันแค่ครั้งเดียว และหลังจากนั้นไม่กี่วันผมก็ไม่สบาย และเริ่มกังวล ก็ไม่หาหมอตรวจเลือด ผลก็ปกติ ก็คิดว่าเป็นแค่ไข้ธรรมดา ผมก็กินยาจนหาย และหลังจากนั้นผมได้กลับมาใต้ 2-3เดือน เริ่มไม่สบายอีกรอบ รอบนี้เป็นนานมาก ไออยู่เดือนกว่าๆ มีไข้บ้างพอกินยาก็หาย เป็นๆหายๆ จนผมเริ่มไม่แน่ใจ เลยไปร.พ. เพื่อจะรักษาอาการที่ไอ หมอเลยขอตรวจเสมหะเพื่อจะไปตรวจดูว่าใช่วัณโรครึป่าว หมอก็ซักประวัติจนมารู้ว่าผมได้ไปเสี่ยงมา หมอเลยขอตรวจเลือดด้วย แต่วันนั้นเป็นบ่ายวันศุกร์ หมอบอกว่าถ้าไม่ทันต้องมาฟังผลวันจันทร์ เพราะเราต้องมาทำความเข้าใจและเซ็นรับรองว่าเรายินยอมให้ตรวจ ซึ่งหมอก็ถามว่าถ้าเกิดเป็นขึ้นมา จะคิดฆ่าตัวตายมั้ย ผมก็นิ่งพักนึงและตอบไปว่าไม่แน่นอนครับ หมอก็ยิ้มและตอบกลับว่าดีมากครับ และถ้าเป็นจริงๆหมอจะไม่ทิ้งคนไข้หรอกครับ ไม่ต้องกังวล ผมก็กลับบ้าน ระหว่างนั้นผมก็กังวลไม่น้อยเลย รอจนถึงวันจันทร์ ก็ไปร.พ.ด้วยความมั่นใจว่าต้องไม่ใช่แน่ๆ ไปถึงร.พ.หมอให้ไปนั่งรอที่ห้องแยกโรค รอเกือบ1ชม. หลังจากนั้นมีหมอคนนึงถือซองมาและเรียกผมให้เดินตามหมอไปอีกห้อง ผมเริ่มใจไม่ดีล่ะ แต่ก็ยังมั่นใจอยู่ว่าไม่เป็นแน่ พอเข้าไปอีกห้องหมอบอกว่าเสมหะไม่ติดเชื้ออะไรนะครับ ไวรัสตับอักเสบB หรืออื่นๆก็ไม่มีนะครับ ผมก็ยิ้ม และหมอก็ถามกลับมาว่าเหมือนที่คุยกันวันนั้น ถ้าผมเป็นจริงๆจะไม่ฆ่าตัวตายใช่มั้ย ผมก็พยักหน้าแบบยิ้มแห้งๆ นึกใจในว่าเอาแล้วสิ ผมติดเชื้อหรอ ผมก็ถามกลับไปว่าสรุปผมติดเชื้อมั้ยครับ หมอเงียบ และหันมาพยักหน้าพร้อมยื่นซองมาให้ผม พอผมเห็นผลเลือดแค่นั้นแหละ ทุกอย่างมืดไปหมดเลย หูก็ไม่ได้ยินอะไรทีหมอพูดเลย ผมอึ้งอยู่นานมาก คิดไปต่างๆนานา ว่านี่ผมต้องมาติดเชื้อจริงๆหรอ นี่มันคือความจริงหรอ ผมรวบรวมสติกลับมา และได้ยินหมอถามว่าโอเคมั้ย จะถามไรหมออีกมั้ย ถามมาได้เลยนะ ผมก็เลยยิ้มทั้งน้ำตาคลอและบอกว่าไม่ครับ หมอก็ถามว่าไม่ฆ่าตัวตายใช่มั้ย ผมก็ตอบให้พ้นๆไปก่อนว่าไม่ครับ หมอบอกงั้น จะเริ่มกระบวนการรักษาเลยมั้ย ผมก็พยักหน้า หมอก็ส่งผมไปอีกที่นึงซึ่งเป็นที่รักษาคนที่ติดเชื้อโดยเฉพาะ และก็เจาะเลือดผมไปตรวจcd4(ภูมิต้านทาน) และนัดมารับยาต้าน วันนั้นผมขับรถกลับบ้านไม่รู้สึกอะไรเลยตั้งแต่ออกจากร.พ.มาจนถึงบ้านมีทั้งไฟแดง ทั้งโค้ง แต่ไม่รู้ผมขับมาได้ไง รู้สึกตัวอีกทีก็ถึงบ้านแล้ว555 ตอนนั้นมืดแปดด้าน คิดแต่ว่านี่มันจริงหรอ ใช่เรืองจริงหรอ ผมร้องไห้หนักมาก แบบไม่เคยร้องไห้แบบนี้มาก่อนเลย ผมอยากจะย้อนเวลากลับไปมากเลย แต่ทำไงได้นี่มันโลกความจริง ผมมักง่ายเอง ก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำ หมอนัดไปเริ่มยาต้าน ผลCD4 ผม266 ถือว่าไม่ดีเท่าไหร่ แต่ก็ยังอยู่ในเลข3ตัว ผมเริ่มยาได้เดือนนึงแล้ว ร่างกายก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ กินยาวันละครั้ง และต้องกินตลอดชีวิต ผมไม่ได้บอกใครเลย เพราะในครอบครัวผมไม่มีใครยอมรับเรื่องพวกนี้เลย ถ้าเกิดรู้ขึ้นมา มันคงจะไม่ดีแน่ แต่ผมคิดว่าถ้าเกิดวันนึงผมทรุดผมก็ต้องบอกแหละ แต่ตอนนี้ทำตัวปกติไปก่อนจนถึงวันนั้นจริงๆ ตอนนี้อยากรู้ว่าผมสามารถมีแฟนได้อีกมั้ย เค้าจะรับผมได้มั้ย จริงๆก็มีคนเข้าหาอยู่ตลอดเลยนะคับ แต่ผมไม่อยากไปทำให้เค้ารู้สึกดีกับผมเเล้ว อยากให้เค้าไปเจอคนที่ดีๆ มีอนาคตดีกว่า ตอนนี้ผมรู้สึกไงหรอ. อยากจะบอกเพื่อนๆพี่ๆน้องๆว่า ป้องกันเถอะครับ อนาคตเราอย่าให้มันมาพังเพราะเรื่องนี้เลย เดี่ยวนี้มันมียาต้านก็จริง แต่ไม่เป็นมันก็ดีกว่าเยอะเลยนะครับ
การใช้ชีวิตกับ HIV ในวัย22 จะมีความรักได้อีกมั้ยครับ