มาต่อภาค 2 กันนะคะ
ไม่เพียงแค่ไกด์ที่ดูแลเราดีมากมาก พนักงานทุกคนบนเกาะยิ้มแย้มทักทาย ชวนพูดคุยให้ความเป็นกันเองและให้ความช่วยเหลือดีมากทุกคน อีกหนึ่งคนที่ลืมไม่ได้คือ Chef ชาวอินโดนีเซียที่ห้องอาหาร Amaya Food Gallery หลังจากพูดคุยกันในคืนแรกที่เรามาทานอาหารจนรู้ว่าเรามาจากเมืองไทย เค้าดูชอบเมืองไทยและคนไทยมาก เช้าวันที่ 2 ที่ห้องอาหารเชฟเดินมาบอกว่าเราวันเย็นนี้มี Spicy Soup Tom Yum Kung พิเศษเฉพาะคนไทย ให้เรากับเพื่อนอย่าลืมมาทานนะ และเมื่อมื้อเย็นมาถึง เชฟเห็นเรากับเพื่อนเดินเข้ามา ก็รีบจัดแจงหาโต๊ะให้นั่งพร้อมนำต้มยำกุ้งออกมาเสิร์พ และถามเราว่าชอบกิน Sushi? เรารีบตอบทันควันว่าชอบมาก ทันใดนั้นเชฟก็แจ้งให้พนักงานจัด Sushi set มาเสิร์พให้เรากับเพื่อนคนละ 1 เซตใหญ่ตามรูป เป็นอะไรที่เรารู้สึก WOW และประทับใจมากๆ
เมนูพิเศษจากเชฟชาวอินโดนีเซีย
Staff กำลงัเล่น Paddle Board ให้ดู
ไกด์ทั้ง 2 คนที่พาเราไปดำน้ำ
กิจกรรมที่โรงแรมเยอะมาก ใครอยากทำอะไรก็ลองเลือกดูได้เลย ค่าใช้จ่ายแต่ละอันก็แตกต่างกันไป
ความประทับใจยังไม่หมดเพียงเท่านี้ระหว่างทางเดินกลับห้องเราได้เจอกับพนักงานคนนึง เค้าทักทายและชวนเราคุยอย่างสุภาพ เราคุยกันเรื่องต่างๆเกี่ยวกับมัลดีฟส์ เค้าแนะนำและให้ข้อมูลเราหลายอย่าง ระหว่างนั้นเค้าก็บอกเราว่า “ดาวตก” และรีบชี้ชวนให้หันไปดู และนั่นเป็นความประทับใจที่พูดไม่ออกเลย ดาวตกดวงใหญ่มาก ลูกไฟกลมโตดวงใหญ่ค่อยๆไหม้ลงมาเป็นทางจนบางทีเราคิดว่ามันอาจจะเป็นดาวหางมากกว่าดาวตกธรรมดา มันสวยและอัศจรรย์มาก เค้าบอกว่าถ้าเราอยากเจอดาวตกอีกให้เรามองอย่างตั้งใจไปที่ด้านใดด้านหนึ่งบนฟ้า แล้วเราจะเห็นมัน กลับมาถึงห้องคืนนั้นเราได้แต่นอนดูดาวตามคำแนะนำและเราก็ได้เจอดาวตกอีกหลายดวงแม้จะไม่ใหญ่เท่าดาวตกดวงแรกที่เห็นแต่ก็ทำให้เรายิ้มได้และหลับฝันดี
วันที่ 3 ชีวิตชาวเกาะของเรายังคงดำเนินไปแบบช้าๆ กิจกรรมวันนี้ไม่มีอะไรมากนอกจากรอชมพระอาทิตย์ขึ้น ดำน้ำตื้นรอบๆที่พัก รอชมพระอาทิตย์ตกดิน และเดินเล่นรอบๆเกาะ และรอดูดาวตกกับทางช้างเผือก แค่นี้ก็หมดวันแล้ว
เราต้องคืนอุปกรณ์ดำน้ำด้วยนะภายในวันก่อน Check out ด้วยอย่าลืมนะคะ และตอนเย็นจะมีจดหมายแจ้งเวลาสำหรับการ Check Out สอดไว้ที่หน้าห้อง ข้อมูลเวลาทุกอย่างอยู่ในนั้นทั้งหมด
เช้าวันที่ 4 วันสุดท้ายบนเกาะเป็นอะไรที่เราเศร้ามาก เราไม่อยากไปจากที่นี่เลยจริงๆ แต่เนื่องจากไฟล์ทกลับไทยเราออกจากมาเล่ ตอน 12.30 น. นั่นหมายความว่าเราต้องเช็คเอ้าท์ออกจากที่พักตั้งแต่ 07.30 น. และขึ้นเรือตอน 08.00 น. ก่อนถึงวัน Check out เนื่องจากเช้าวันนี้เรามีเวลาอยู่บนเกาะน้อยมาก เราจึงตื่นตั้งแต่ตี 5 เพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นแล้วกลับมาเก็บกระเป๋า ไปทานอาหารเช้าและรอพนักงานมารับเพื่อไปส่งยังล็อบบี้ หลังจากเคลียค่าใช้จ่ายเสร็จ พนักงานก็ยืนส่งเราขึ้น speed boat เพื่อไปยังสนามบิน Kaadedhdhoo airport ก่อนกลับเราเจอรุ้งกินน้ำขึ้นแถวรร.ด้วย เป็นอะไรที่ทำให้เราประทับใจอีกแล้ว แนะนำเลยว่าถ้าจะมาพักที่นี่ควรพักอย่างน้อย 5 วันขึ้นไปเนื่องจากการเดินทางไปกลับก็หมดไป 2 วันแล้วมีเวลาอยู่บนเกาะจริงๆแค่ 2 วันเองซึ่งไม่พอ
ระหว่างนั่งเครื่องในประเทศขากลับแนะนำให้จองแถว A จริงๆแถว F ก็สวยค่ะ ถ้าได้นั่งฝั่ง F จะได้เห็นวิวเกาะช่วงที่บินขึ้นจากสนามบินเยอะด้วยค่ะ เอาเป็นว่านั่งฝั่งไหนก็ได้ขอแค่เป็นวันที่ท้องฟ้าเปิดและแดดดี เมื่อเรามองไปลงไปข้างล่างถึงกับตะลึงในความสวยงามของหมู่เกาะมัลดีฟส์ที่ธรรมชาติบรรจงสร้างให้เราได้ชื่นชม วิวสวยมากนับเป็นอีกหนึ่งความทรงจำดีๆในการเดินทางมามัลดีฟส์ของเราครั้งนี้ น้ำทะเลสีฟ้า turquoise ตัดกับแสงแดดสีทอง แถมยังมีรุ้งกินน้ำสีสดใสวงใหญ่วางพาดตัดกับท้องฟ้า วิวตรงหน้ามันเกินบรรยายจริงๆ เป็น 1 ชม. ที่เราโคตรมีความสุขเลย นั่งไม่ติดเบาะตลอดทาง ชะโงกคอดูวิวกดชัตเตอร์รัวๆไม่เบื่อเลย นับเป็นการจบทริปที่ perfect สุดๆ
สุดท้ายเราอยากขอบคุณพนักงานทุกคนบนเกาะรวมทั้งไกด์และเชฟชาวอินโดนีเซียที่ให้การดูแลต้อนรับเราอย่างดีมากๆ ตลอดการเข้าพัก เราประทับใจมากจริงๆ คิดไม่ผิดเลยที่เลือกพักที่นี่และหากมีโอกาสเราจะกลับไปอีกอย่างแน่นอน
สรุปค่าใช้จ่ายจตามด้านล่างน้า แนะนำช่วงตค.แบบที่เราไป ค่าที่พักยังไม่สูงเท่าช่วง High Season แถมเจอฝนน้อยมากๆ เราไปรอบนี้เจอฝนแค่ประมาณ 10 นาทีตลอด 4 วันที่เข้าพัก
Air Asia ticket: 7,000 THB/ person
Domestic Flight transfer + Speed boat: 460 $ (จ่ายที่รร.เมื่อไปถึง) ตอนจองอย่าลืมส่งเมลล์แจ้งไฟล์ทและวันเวลาที่เราจะเดินทางไปถึงสนามบินมาเล่ให้รร.ทราบด้วยนะ เพื่อที่ทางรร.จะได้จองตั๋วสายการบินในประเทศที่เหมาะสมกับเวลาที่เราเดินทางไปถึงให้ ทุกย่างจะได้ราบรื่น
Hotel: 25,000 THB/ person แบบ Full Board Package (เราได้ promo code ลด 10% จาก Agoda)
รวมทั้งหมดประมาณ 49,000 THB
หากใครมีคำถามหรืออยากได้คำแนะนำอะไร สามารถอินบ๊อกมาถามเราได้นะ ยินดีให้คำตอบเท่าที่ให้ได้ ^_^
[CR] Review Maldives In my memory @Amari Havodda Maldives Part II
ไม่เพียงแค่ไกด์ที่ดูแลเราดีมากมาก พนักงานทุกคนบนเกาะยิ้มแย้มทักทาย ชวนพูดคุยให้ความเป็นกันเองและให้ความช่วยเหลือดีมากทุกคน อีกหนึ่งคนที่ลืมไม่ได้คือ Chef ชาวอินโดนีเซียที่ห้องอาหาร Amaya Food Gallery หลังจากพูดคุยกันในคืนแรกที่เรามาทานอาหารจนรู้ว่าเรามาจากเมืองไทย เค้าดูชอบเมืองไทยและคนไทยมาก เช้าวันที่ 2 ที่ห้องอาหารเชฟเดินมาบอกว่าเราวันเย็นนี้มี Spicy Soup Tom Yum Kung พิเศษเฉพาะคนไทย ให้เรากับเพื่อนอย่าลืมมาทานนะ และเมื่อมื้อเย็นมาถึง เชฟเห็นเรากับเพื่อนเดินเข้ามา ก็รีบจัดแจงหาโต๊ะให้นั่งพร้อมนำต้มยำกุ้งออกมาเสิร์พ และถามเราว่าชอบกิน Sushi? เรารีบตอบทันควันว่าชอบมาก ทันใดนั้นเชฟก็แจ้งให้พนักงานจัด Sushi set มาเสิร์พให้เรากับเพื่อนคนละ 1 เซตใหญ่ตามรูป เป็นอะไรที่เรารู้สึก WOW และประทับใจมากๆ
เมนูพิเศษจากเชฟชาวอินโดนีเซีย
Staff กำลงัเล่น Paddle Board ให้ดู
ไกด์ทั้ง 2 คนที่พาเราไปดำน้ำ
กิจกรรมที่โรงแรมเยอะมาก ใครอยากทำอะไรก็ลองเลือกดูได้เลย ค่าใช้จ่ายแต่ละอันก็แตกต่างกันไป
ความประทับใจยังไม่หมดเพียงเท่านี้ระหว่างทางเดินกลับห้องเราได้เจอกับพนักงานคนนึง เค้าทักทายและชวนเราคุยอย่างสุภาพ เราคุยกันเรื่องต่างๆเกี่ยวกับมัลดีฟส์ เค้าแนะนำและให้ข้อมูลเราหลายอย่าง ระหว่างนั้นเค้าก็บอกเราว่า “ดาวตก” และรีบชี้ชวนให้หันไปดู และนั่นเป็นความประทับใจที่พูดไม่ออกเลย ดาวตกดวงใหญ่มาก ลูกไฟกลมโตดวงใหญ่ค่อยๆไหม้ลงมาเป็นทางจนบางทีเราคิดว่ามันอาจจะเป็นดาวหางมากกว่าดาวตกธรรมดา มันสวยและอัศจรรย์มาก เค้าบอกว่าถ้าเราอยากเจอดาวตกอีกให้เรามองอย่างตั้งใจไปที่ด้านใดด้านหนึ่งบนฟ้า แล้วเราจะเห็นมัน กลับมาถึงห้องคืนนั้นเราได้แต่นอนดูดาวตามคำแนะนำและเราก็ได้เจอดาวตกอีกหลายดวงแม้จะไม่ใหญ่เท่าดาวตกดวงแรกที่เห็นแต่ก็ทำให้เรายิ้มได้และหลับฝันดี
วันที่ 3 ชีวิตชาวเกาะของเรายังคงดำเนินไปแบบช้าๆ กิจกรรมวันนี้ไม่มีอะไรมากนอกจากรอชมพระอาทิตย์ขึ้น ดำน้ำตื้นรอบๆที่พัก รอชมพระอาทิตย์ตกดิน และเดินเล่นรอบๆเกาะ และรอดูดาวตกกับทางช้างเผือก แค่นี้ก็หมดวันแล้ว
เราต้องคืนอุปกรณ์ดำน้ำด้วยนะภายในวันก่อน Check out ด้วยอย่าลืมนะคะ และตอนเย็นจะมีจดหมายแจ้งเวลาสำหรับการ Check Out สอดไว้ที่หน้าห้อง ข้อมูลเวลาทุกอย่างอยู่ในนั้นทั้งหมด
เช้าวันที่ 4 วันสุดท้ายบนเกาะเป็นอะไรที่เราเศร้ามาก เราไม่อยากไปจากที่นี่เลยจริงๆ แต่เนื่องจากไฟล์ทกลับไทยเราออกจากมาเล่ ตอน 12.30 น. นั่นหมายความว่าเราต้องเช็คเอ้าท์ออกจากที่พักตั้งแต่ 07.30 น. และขึ้นเรือตอน 08.00 น. ก่อนถึงวัน Check out เนื่องจากเช้าวันนี้เรามีเวลาอยู่บนเกาะน้อยมาก เราจึงตื่นตั้งแต่ตี 5 เพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นแล้วกลับมาเก็บกระเป๋า ไปทานอาหารเช้าและรอพนักงานมารับเพื่อไปส่งยังล็อบบี้ หลังจากเคลียค่าใช้จ่ายเสร็จ พนักงานก็ยืนส่งเราขึ้น speed boat เพื่อไปยังสนามบิน Kaadedhdhoo airport ก่อนกลับเราเจอรุ้งกินน้ำขึ้นแถวรร.ด้วย เป็นอะไรที่ทำให้เราประทับใจอีกแล้ว แนะนำเลยว่าถ้าจะมาพักที่นี่ควรพักอย่างน้อย 5 วันขึ้นไปเนื่องจากการเดินทางไปกลับก็หมดไป 2 วันแล้วมีเวลาอยู่บนเกาะจริงๆแค่ 2 วันเองซึ่งไม่พอ
ระหว่างนั่งเครื่องในประเทศขากลับแนะนำให้จองแถว A จริงๆแถว F ก็สวยค่ะ ถ้าได้นั่งฝั่ง F จะได้เห็นวิวเกาะช่วงที่บินขึ้นจากสนามบินเยอะด้วยค่ะ เอาเป็นว่านั่งฝั่งไหนก็ได้ขอแค่เป็นวันที่ท้องฟ้าเปิดและแดดดี เมื่อเรามองไปลงไปข้างล่างถึงกับตะลึงในความสวยงามของหมู่เกาะมัลดีฟส์ที่ธรรมชาติบรรจงสร้างให้เราได้ชื่นชม วิวสวยมากนับเป็นอีกหนึ่งความทรงจำดีๆในการเดินทางมามัลดีฟส์ของเราครั้งนี้ น้ำทะเลสีฟ้า turquoise ตัดกับแสงแดดสีทอง แถมยังมีรุ้งกินน้ำสีสดใสวงใหญ่วางพาดตัดกับท้องฟ้า วิวตรงหน้ามันเกินบรรยายจริงๆ เป็น 1 ชม. ที่เราโคตรมีความสุขเลย นั่งไม่ติดเบาะตลอดทาง ชะโงกคอดูวิวกดชัตเตอร์รัวๆไม่เบื่อเลย นับเป็นการจบทริปที่ perfect สุดๆ
สุดท้ายเราอยากขอบคุณพนักงานทุกคนบนเกาะรวมทั้งไกด์และเชฟชาวอินโดนีเซียที่ให้การดูแลต้อนรับเราอย่างดีมากๆ ตลอดการเข้าพัก เราประทับใจมากจริงๆ คิดไม่ผิดเลยที่เลือกพักที่นี่และหากมีโอกาสเราจะกลับไปอีกอย่างแน่นอน
สรุปค่าใช้จ่ายจตามด้านล่างน้า แนะนำช่วงตค.แบบที่เราไป ค่าที่พักยังไม่สูงเท่าช่วง High Season แถมเจอฝนน้อยมากๆ เราไปรอบนี้เจอฝนแค่ประมาณ 10 นาทีตลอด 4 วันที่เข้าพัก
Air Asia ticket: 7,000 THB/ person
Domestic Flight transfer + Speed boat: 460 $ (จ่ายที่รร.เมื่อไปถึง) ตอนจองอย่าลืมส่งเมลล์แจ้งไฟล์ทและวันเวลาที่เราจะเดินทางไปถึงสนามบินมาเล่ให้รร.ทราบด้วยนะ เพื่อที่ทางรร.จะได้จองตั๋วสายการบินในประเทศที่เหมาะสมกับเวลาที่เราเดินทางไปถึงให้ ทุกย่างจะได้ราบรื่น
Hotel: 25,000 THB/ person แบบ Full Board Package (เราได้ promo code ลด 10% จาก Agoda)
รวมทั้งหมดประมาณ 49,000 THB
หากใครมีคำถามหรืออยากได้คำแนะนำอะไร สามารถอินบ๊อกมาถามเราได้นะ ยินดีให้คำตอบเท่าที่ให้ได้ ^_^
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น