กรีดข้อมือเพราะเครียด ลาออกดีไหม เพิ่งเริ่มงานได้เดือนเดียวเอง

ตอนนี้มีปัญหาหนักใจมากค่ะ เราเริ่มทำงาน ณ บริษัทแห่งหนึ่งได้ไม่นาน ประมาณเกือบ 1 เดือน แต่ตั้งแต่เริ่มงานมาเครียดมากขึ้นทุกวัน เลิกอยากจะลาออก แต่ไปสมัครที่ใหม่ จะบอกเขายังไงดีถ้าเขาถามเรื่องนี้ เราควรจะพูดถึงสุขภาพจิตของเราไหม เหตุผลที่อยากลาออกมีดังนี้ค่ะ

1. ปัญหาสุขภาพจิต
เราเป็นโรคซึมเศร้าอยู่แล้ว อาการขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่หายขาด ตั้งแต่เริ่มงานที่นี้มาเราเครียดกับงานมาก ทั้งเจ้านาย ตัวงาน เงินเดือนที่ตกลงกันไว้ มันไม่ตรงกับที่เราคาดหวัง เครียดจนทำร้ายตัวเองด้วยการกรีดข้อมือมาแล้วครั้งหนึ่ง มีอาการ anxiety ในระหว่างทำงานมาประมาณ 3-4 ครั้ง ภายในเวลาไม่ถึงเดือน เรารู้สึกว่าร่างกายเรากำลังบอกเราว่ารับไม่ไหวอะค่ะ ยังไม่ได้ไปหาหมอเลยด้วย เลยนัดมาหลายวันแล้ว เพราะเจ้านายดุมาก แค่ขอลากิจไปรับเชคเงินเดือนที่ทำงานเก่ายังไม่ให้ไปเลย (เขาให้รับเชคเฉพาะวันธรรมดาและไม่โอนให้) เราเลยไม่กล้าบอกเขาว่าเราป่วย ไม่กล้าขอลาค่ะ

2. สไตล์การทำงานของนาย
ยอมรับเลยว่าเราไม่สามารถเข้ากับสไตล์การทำงานของนายได้เลย สั่งงานเร่งด่วนตลอด งานที่ควรใช้เวลาหนึ่งเดือนในการเตรียม ปุ๊บป็บจะให้เราทำเสร็จในอาทิตย์เดียว ทำอะพอได้แต่คุณภาพจะชุ่ยมาก เรารับไม่ได้ที่ต้องทำงานแบบนี้ แถมเป็นฝรั่งที่ดุมาก เราทำงานบริษัทฝรั่งตลอดยังไม่เคยเจอใครดุขนาดนี้ อย่างที่ว่าขอลากิจก็ไม่ให้ไป แถมใช้คำพูด-ดัน ไม่หยาบแต่กระทบจิตใจ ไม่เคยเจอนายแบบนี้เลยจริง ๆ

3. ตัวงานไม่เหมือนที่คิดไว้
เราทำงานด้าน digital marketing ถนัดเวปไซต์และ seo มางานนี้เป็น social media อันนี้รู้แต่ต้นแล้วและรับงานเพราะอยากลองจับ social media แต่มาเจอจริงมี facebook เป็นสิบหน้า ส่วนตัว product แต่ละอย่างเล็กมาก เรากลับไปดูโพสเก่า ๆ ไม่มีคุณภาพเลย รูปเดิมใช้ซ้ำวนไป เรื่องเดิม ๆ โพสซ้ำวนไป ซึ่งมันเป็นผลมาจากปริมาณงานที่มันเยอะมาก product ที่มีเรื่องราวน้อย แถมให้เวลาเตรียมแค่นิดเดียว นายบอกว่าไม่อยากให้เราทุ่มเวลากับ social media มากไป ประมาณว่าเดือนหนึ่งใช้เวลาเตรียมแค่อาทิตย์เดียวพอ เวลาที่เหลือเขาจะให้ไปทำอย่างอื่น ช่วยเลขาบ้าง นู่นนั่นนี่ เราเลยรู้สึกว่าความตั้งใจที่จะมาพัฒนาและเรียนรู้ social media ไม่ได้รับการตอบสนองแต่อย่างได้ มันขัดกับเป้าหมายชีวิตของเราที่จะเอาดีด้าน digital marketing อย่างจริงจัง รู้สึกว่ามันทำให้เราเสียเวลา

4. เงินน้อยกว่าที่บอก
มันเป็นงานโรงแรมนะคะ มีเงินเดือนกับ service charge แยกกัน ตอนคุยกัน HR บอกว่า service charge ได้หมื่นกว่า พอมาเดือนแรกเจอเลย 8 พัน หายไป 2 พัน อันนี้มันก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ละเดือนมันไม่เท่ากัน ไม่มีรับประกันจำนวนด้วย ข้อนี้ทำให้เราเสียใจหน่อย ๆ แต่เป็นแค่ประเด็นรองค่ะ

ตอนนี้มองหางานใหม่อยู่แต่ยังไม่มีที่ไหนเรียกสัมภาษณ์เลย

ถ้าเป็นคุณจะลาออกไหมคะ? บริษัทใหม่จะมองเราเป็นคนยังไง?
แล้วคุณจะบอกที่ใหม่ถึงปัญหาสุขภาพจิตไหม? เรารู้สึกว่าคนส่วนใหญ่ยังไม่เปิดรับกับเรื่องนี้เราเลยไม่อยากบอกใคร

เพิ่มเติมนะคะ
ใจแม่_ง อยากจะเดินไปลาออกตอนนี้เลย แต่บ้านยังต้องเช่า ค่าใช้จ่ายรายเดือนยังมี ถ้าลาออกเลยจะเสี่ยงไปไหม
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
เวลาเครียดหายใจลึกฯยาวแล้วค่อยฯผ่อนลมหายใจออกมาครับแล้วมองถึงความดีของงานที่มันมีให้เราทำ มีเงินให้เราใช้จ่าย มีให้เรากินแล้วให้คิดกลับไปว่าหากเราไม่มีมันเราจะหายเครียดหรือเปล่า? งานที่ใหนมี service chargeนอกเหนือจากเงินเดือนให้อีก8000 เดือนนี้ก็จะเริ่มเข้า high seasonแล้ว service charge มันก็จะปรับขึ้นเรื่อยฯจนถึงเดือนมีนาคมและที่โรงแรมเขามีอาหารให้อีกสองมื้อคิดว่าน่าจะอยู่ได้นะ หากไปได้งานในที่ใหม่เราจะหวังได้หรือว่าทุกอย่างมันจะเป็นไปตามที่เราต้องการแต่หากคิดว่าการลาออกแล้วเราสบายใจขึ้นก็ทำไปเพราะเราคือนายของตัวเองแต่ก็ต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดีว่ามีอะไรรองรับค่าใช้จ่ายของเราหรือยัง โรคทีคุณเป็นอยู่ควรไปหาหมอให้ตรงตามนัดคราวหน้าขอความกรุณาคุณหมอขอยาเผื่อเอาไว้สักอาทิตย์กันเอาไว้ไม่ให้ขาดยาเวลาไปตามนัดไม่ได้ให้บอกท่านตรงฯท่านคงจัดให้ สู้สู้นะอย่ายอมแพ้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่