วันนี้ ประมาณบ่ายโมงครึ่ง ผมนำรถ BT 50 pro เข้าเช็คระยะ 90,000 กิโล ที่ศูนย์ฯ มาสด้า ดรีมคาร์ เซ็นเตอร์ ระยอง
ตามรายการมีเปลี่ยนกรองเชื้อเพลิง กรองอากาศ และล้างตู้แอร์ (เสนอเสริมให้ลูกค้า) ก็ตกลงในราคา สามพันห้าร้อยกว่าบาท
ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง
ผ่านไปซักประมาณชั่วโมงนึง สังเกตเห็นช่างในศูนย์ฯ เริ่มวนๆเข้ามารุมๆดูกันแทบจะทั้งศูนย์ฯ
ก็ไปยืนสังเกตการณ์ เหมือนกับว่ากำลังพยายามสตาร์ทรถ หรืออะไรซักอย่าง ทั้งยก Laptop เข้าออกกันขวักไขว่
สุดท้ายได้รับแจ้งว่า ตอนนี้เปลี่ยนกรองเชื้อเพลิงแล้ว แต่แรงดันน้ำมันไม่พอ เครื่องสตาร์ทไม่ติด
คาดว่าปั๊ม AC น่าจะเสีย แนะนำให้เปลี่ยน ราคาแปดพันกว่าบาท ยังไม่รวม Vat ค่าแรง (และส่วนลดที่ต้องรอถามผู้จัดการก่อน)
ของที่ศูนย์ฯไม่มี ต้องสั่ง ของจะมาประมาณวันศุกร์
ชั่วโมงนั้น (เกือบห้าโมงเย็น ศูนย์ฯใกล้จะเลิกงาน) ถ้าไม่ตัดสินใจสั่งอะหลั่ยไปก่อน รถคงนอนแน่นิ่งที่ศูนย์ฯ
อีกหลายวันกว่าเดิม
เรื่องราคาค่าอะหลั่ยที่ตัดสินใจสั่งมาเปลี่ยน ไม่ใช่ประเด็นหลัก จะลดหรือไม่ลด ไม่จำเป็น เพราะรถต้องใช้กันอีกยาว
อะไรที่จำเป็นที่สำคัญ ควรเปลี่ยน ก็เปลี่ยน ควรซ่อมก็ซ่อม
ในสมองตอนนั้นคือ จะยังไงก็ตาม ขอให้รถกลับมาใช้งานได้ปกติเหมือนเดิม
แต่ปัญหาคือเรื่องเวลาที่เสียไป งานอื่นๆ ภาระหน้าที่อื่นๆ ที่เจอผลกระทบจากการต้องจอดรถทิ้งไว้
คาดว่าน่าจะยาวไปถึงวันเสาร์ ถ้าศูนย์ฯคิดถูก
จึงอยากขอทราบความคิดเห็น ความกระจ่าง และขั้นตอนดำเนินการต่อจากนี้จาก มาสด้า ประเทศไทย
คำถามคือ นี่ใช่สิ่งที่ลูกค้าต้องรับผิดชอบหรือ?
กับการขับรถมาปกติๆ เข้าตรวจเช็คระยะตามปกติ แล้วต้องกลับบ้านตัวเปล่า ต้องทิ้งรถไว้สองสามวัน
เพราะปั๊ม AC บังเอิญมาพัง หลังจากเปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งๆที่รถก็ยังจอดคาอยู่ในช่องรับบริการ
เพราะรถผมต้องการการดูแลที่ดีตลอดอายุการใช้งาน จึงวางใจ และสมัครใจ ส่งรถเข้ารับการตรวจเช็ค
ทุกระยะการใช้งาน ไม่ว่าค่าใช้จ่ายจะสูงเท่าใดก็ตาม
เพราะคงไม่มีใครรู้จักรถมาสด้าดีเท่าศูนย์บริการมาสด้า ใช่หรือไม่ครับ
ปั๊ม AC เสีย ขณะที่รถจอดรับบริการอยู่ในศูนย์บริการ ใครควรรับผิดชอบ
ตามรายการมีเปลี่ยนกรองเชื้อเพลิง กรองอากาศ และล้างตู้แอร์ (เสนอเสริมให้ลูกค้า) ก็ตกลงในราคา สามพันห้าร้อยกว่าบาท
ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง
ผ่านไปซักประมาณชั่วโมงนึง สังเกตเห็นช่างในศูนย์ฯ เริ่มวนๆเข้ามารุมๆดูกันแทบจะทั้งศูนย์ฯ
ก็ไปยืนสังเกตการณ์ เหมือนกับว่ากำลังพยายามสตาร์ทรถ หรืออะไรซักอย่าง ทั้งยก Laptop เข้าออกกันขวักไขว่
สุดท้ายได้รับแจ้งว่า ตอนนี้เปลี่ยนกรองเชื้อเพลิงแล้ว แต่แรงดันน้ำมันไม่พอ เครื่องสตาร์ทไม่ติด
คาดว่าปั๊ม AC น่าจะเสีย แนะนำให้เปลี่ยน ราคาแปดพันกว่าบาท ยังไม่รวม Vat ค่าแรง (และส่วนลดที่ต้องรอถามผู้จัดการก่อน)
ของที่ศูนย์ฯไม่มี ต้องสั่ง ของจะมาประมาณวันศุกร์
ชั่วโมงนั้น (เกือบห้าโมงเย็น ศูนย์ฯใกล้จะเลิกงาน) ถ้าไม่ตัดสินใจสั่งอะหลั่ยไปก่อน รถคงนอนแน่นิ่งที่ศูนย์ฯ
อีกหลายวันกว่าเดิม
เรื่องราคาค่าอะหลั่ยที่ตัดสินใจสั่งมาเปลี่ยน ไม่ใช่ประเด็นหลัก จะลดหรือไม่ลด ไม่จำเป็น เพราะรถต้องใช้กันอีกยาว
อะไรที่จำเป็นที่สำคัญ ควรเปลี่ยน ก็เปลี่ยน ควรซ่อมก็ซ่อม
ในสมองตอนนั้นคือ จะยังไงก็ตาม ขอให้รถกลับมาใช้งานได้ปกติเหมือนเดิม
แต่ปัญหาคือเรื่องเวลาที่เสียไป งานอื่นๆ ภาระหน้าที่อื่นๆ ที่เจอผลกระทบจากการต้องจอดรถทิ้งไว้
คาดว่าน่าจะยาวไปถึงวันเสาร์ ถ้าศูนย์ฯคิดถูก
จึงอยากขอทราบความคิดเห็น ความกระจ่าง และขั้นตอนดำเนินการต่อจากนี้จาก มาสด้า ประเทศไทย
คำถามคือ นี่ใช่สิ่งที่ลูกค้าต้องรับผิดชอบหรือ?
กับการขับรถมาปกติๆ เข้าตรวจเช็คระยะตามปกติ แล้วต้องกลับบ้านตัวเปล่า ต้องทิ้งรถไว้สองสามวัน
เพราะปั๊ม AC บังเอิญมาพัง หลังจากเปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งๆที่รถก็ยังจอดคาอยู่ในช่องรับบริการ
เพราะรถผมต้องการการดูแลที่ดีตลอดอายุการใช้งาน จึงวางใจ และสมัครใจ ส่งรถเข้ารับการตรวจเช็ค
ทุกระยะการใช้งาน ไม่ว่าค่าใช้จ่ายจะสูงเท่าใดก็ตาม
เพราะคงไม่มีใครรู้จักรถมาสด้าดีเท่าศูนย์บริการมาสด้า ใช่หรือไม่ครับ