ใครมีปัญหาเรียน ป.โทที่ต่างประเทศจนอยากเทกลับไทยกลางคันบ้างไหม?

กระทู้แรกของเรา ที่เหมือนการระบายเรื่องของตัวเอง เผื่อได้ความคิดเห็นอะไรบ้าง

เราก็เหมือนคนทั่วไปที่จบป.ตรี หลังจากจบก็...ชีวิตเอาไงต่อ
เราเรียนสายศิลปะมา ก็สนุกสนานจน เราได้ลองทำงานจริง3เดือนซึ่งมันไม่ใช่งานที่ชอบเลยเข้าไปอยู่ๆกลายเป็นSaleที่ต้องคอยทำยอด จึงออกมาแล้วก็ว่างงานอยู่พักนึงถึงคิดได้ว่าสายที่เรียนมาจริงๆแล้วก็ไม่ใช่ที่อยากทำงาน แต่จะไปทำอย่างอื่น เกี่ยวกับการบริหาร หรืออะไรก็ไม่ได้เรียนมา จริงๆก็มีงานที่บ้านรองรับแต่อยากไปลองทำที่อื่นดูก่อน พอได้คุยกับพ่อแม่ พ่อแม่ก็อยากให้ได้ทั้งภาษาแล้วก็ป.โทไปเลยแล้วกัน ซึ่งเอาจริงเราไม่ใช่คนรักการเรียนเท่าไร ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรให้รอบคอบด้วย เลยไปคุยกับเอเจนว่าอยากเรียนไรที่มันจบไวๆ เกี่ยวกับบริหารเพราะเห็นว่าต่างประเทศมีเรียนจบปีนึง ปีครึ่ง เราเลือกซิดนี่ย์ ออสเตรเลีย

เราไม่มี คะแนนไอเอล แต่อยากรีบจบไวๆเอเจนเลยบอกว่ามีสถาบันที่ถ้าเรียนผ่าน Academic English 3 65% เราก็ไม่ต้องสอบก็ได้ เราได้ทดสอบกับทางเอเจนแล้วได้ Academic English 2 จบอันี้แล้วค่อยต่อ Academic English 3


เมื่อกันยายนปี59 เรามาเริ่มเรียน Academic English 2 ซึ่ง ครูบอกว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับภาษานี้แล้ว คอสนี้เป็นคอสการเตรียมเข้ามหาลัยโดยการสอน การเขียนReport ทำ Research, Discussion ซึ่งพอได้เรียนจริงๆ มีความพังมากที่ Grammar เราห่วยมาก ครูแก้งานแดงทั้งหน้ากระดาษ


เราก็พยายามเรียน ทำงานส่งก็มีปัญหาแบบเดิมๆ มีพัฒนาขึ้นนิดหน่อย ซึ่งก็ยังไม่พอ เพราะแต่ละครั้งยังไงหน้ากระดาษก็ต้องมีแก้มามากอยู่
จบ Academic English 2 อย่างถูๆไถๆ ได้ 70%
ต่อ Academic English 3 ตัวนี้เราต้องผ่าน 65% ถึงจะเข้าเรียน ป.โทได้
สรุปคือ ตก!! Fail อยากกลับไทย ไม่คิดว่าจะเรียนรอดแน่ๆ จริงๆความรู้สึกแง่ลบว่าจะไม่จบมันมีมาตลอด แต่ลึกๆก็หวังว่าจะผ่านเราทำได้ (ความคิดนี้เราไม่อยากตั้งมันไว้ตอนแรกเพราะถ้าตกมามันคงรู้สึกแย่กว่าการที่เราคิดว่าเราทำไม่ได้แต่สุดท้ายมันสอบผ่าน มันจะชื่นใจมาก) ครั้งนี้คือผิดหวังแบบไม่เคยเป็นมาก่อนเพราะคิดว่ายังไงก็ผ่าน

เราคิดว่ามันจำเป็นหรอ ป.โทเนี่ย แล้วเราก้าวกระโดดมากๆกับการที่ภาษาไม่แน่นแล้วยังจะเรียนต่อ ทำไมไม่เอาพื้นฐานให้แน่นก่อนแล้วค่อยต่อโทมันจะได้ไม่ลำบากอย่างงี้ รู้แหละว่าเราเริ่มมาแบบผิดๆตั้งแต่แรก คือเราไม่รู้ว่าAcademic English ไม่มีสอนภาษาเลย เอเจนไม่ได้บอก เราก็ไม่ได้ถาม เพราะคิดว่าคงเป็นติวเข้มเน้นก่อนเข้ามหาลัย


กลับมาๆ.....พอเราตก ทางโรงเรียนจะ ให้เรียนซ้ำอีก 5 weeks (คอสนึงมี10 weeks) เพื่อทำงาน คะแนนเก็บใหม่อีกรอบให้คะแนนดีขึ้น
เราไม่คิดไปต่อแล้วจริงๆ แต่พ่อแม่บอกว่าลองเรียนซ้ำอีกครั้งถ้าครั้งนี้ตกพ่อแม่ก็ไม่บังคับแล้ว ..... เรียนครั้งที่2 ผ่านจ้าาาา
มันรู้สึกดีขึ้นหน่อยนึง พอผ่านเราตัดสินใจเรียนพื้นฐานภาษา General English 5weeks (คือมีเวลาแค่นั้นก่อนเปิดเทอม ป.โท)
ทั้งหมดนี้เราเสียเวลา 6-7 เดือนกับการเรียน Academic2, Academic3, General English กับเงิน 3แสน


เทอม 1 ป.โท
เราเรียน Master of International Business
เราต้องเจอภาษาอังกฤษจริงๆแล้ว
วันแรก Orientation ฟังออก ฟังทัน เข้าใจ ครึ่งนึงเท่านั้นจริงๆ พอเรียนเท่านั้นแหละ ความท้อแท้ ความคิดแง่ลบ กลับมาหมดว่าเรียนไม่ไหว ฟังไม่ออก ไม่เข้าใจ ด้วยพื้นฐานป.ตรีเราเรียน ศิลปะมา ไม่เคยเจอเลขหรือการสอบที่ต้องอ่านหนังสือ แต่มาเจอบัญชี เศรษฐศาสตร์ การตลาด ซึ่งมันยากสำหรับเรานะที่ต้อง พยามเข้าใจภาษา แล้ว เนื้อหาวิชาไปพร้อมๆกัน กลางๆเทอมเราตัดสินใจ เทอมนี้จบเรากลับบ้านแน่นอน ดูราคาตั๋ว หาที่บริการส่งของกลับไทย เตรียมปิดบัญชี พอ



ก็เรียนต่อให้มันจบๆไป อย่างยาก ไม่โอเค เรียนไม่รอด ขณะที่บ่นเราก็พยามเรียนนะ หาอ่านเป็นภาษาไทยเอาบ้าง ดูการสอน youtube บ้าง เพราะในห้องเรียนเราฟังแล้วเรียบเรียงเป็นความเข้าใจไม่ทันเลย

3วิชาของเทอมแรกคือพื้นฐานที่เราเรียนแล้วมีคาบLecture กับ Tutorial ซึ่งตอนสอบครูบอกว่าออกสอบอะไรแบบที่ทำใน Tutorial มันเหมือนแบบฝึกหัดที่ครูเอามาให้ลองทำในคาบด้วยกัน ก่อนสอบเราเขียนแล้วก็ลองทำให้ชินมือ จำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่มันดีที่เป็นแนวทางให้ พอสอบเราผ่านทุกตัว คือไม่คาดฝัน
ดีใจอะ พังแผนการกลับไทย แล้วลุยต่อ


เทอม2 ป.โท
เรียน Cross-Culture management, International Business Environment, Organization Behavior Management
3 วิชานี้ดูเรียนไม่ยากเนอะ จากชื่อก็คิดว่ายังไงก็ผ่าน แต่เทอมนี้มีแต่ Lecture ล้วนๆซึ่ง จี้จุดอ่อนเรามากที่ทักษะการเรียนรู้ในคาบเรียนไม่มีเลย แล้วเทอมนี้มีอะไรให้อ่านเยอะมากๆ ซึ่งเราก็จับใจความไม่ค่อยได้ในแต่ละบทความหรือเนื้อหาที่เรียน

เราเรียนไปสักพัก จะมีเก็บคะแนน คือตก 2ตัวเลย พอเก็บคะแนนอีกครั้งก็ตก

เห้ยยยยยยยยย มันตกมากไปละ คำถามเดิมๆกลับมาว่า เรียนต่อได้อะไร ควรทิ้งแล้วกลับไทยดีกว่าไหม ป.โทจำเป็นหรอ ไหนจะพ่อแม่พี่น้อง เพื่อนๆ คนรอบข้างจะมองว่ายังไง ถ้าเราเลือกไม่เรียนให้จบ อนาคตเราจะเปลี่ยนไปเลย ด้วยความที่มีอีโก้ (ไม่แน่ใจว่าใช้คำนี้ได้ไหม แต่ความรู้สึกประมาณนี้แหละ) มันค้ำคอที่ว่าบอกใครว่ามาเรียนป.โทแต่ไม่จบ มันจะดูว่าเราทำอะไรไม่มีความมุ่งมั่น หลายๆอย่าง ไม่อยากทำให้พ่อแม่ผิดหวังด้วย แล้วเราก็ผิดหวังกับตัวเองมากๆที่ทำไม่สำเร็จ ซึ่งเรารู้ว่าเราพยามมากกว่าการเรียนป.ตรีมากๆ รู้ว่าทุกอย่างมันต้องมีอุปสรรค ต้องพยายาม แล้วไหนจะเงินที่เสียไปเป็นล้านแล้ว เราไม่ได้กลับไปทั้งภาษา แล้วก็วุฒิ ถ้าตอนนั้นเราเลือกเรียนภาษาอย่างเดียวคงเก่งไปแล้วจริงๆ แต่ก็กลับไปแก้ไรไม่ได้ ความคิดหลายอย่างมันบอกว่าป.โท มันไม่ได้วัดว่าคนๆนั้นจะมีอนาคตที่ดีเงินเดือนเป็นแสน ประสบความสำเร็จในชีวิต ความคิดฟุ้งๆ เยอะจนอธิบายไม่หมด

นี่ก็1ปีแล้วที่เรามาอยู่ที่ซิดนี่ย์ ตอนนี้เราคิดถึงไทยมาก อยากกลับไทยเพราะคิดว่าคงได้ทำอะไรที่มีประโยชน์กว่านี้ อยากกลับไปช่วยพ่อแม่ทำงานแล้ว เพราะยังไงสุดท้ายวุฒิก็ประดับบารมีเฉยๆ บางทีมันก็ยังมีความเชื่อที่หลายๆคนมองว่าจบป.โท เข้าไปบริหารงานที่บริษัทของพ่อแม่ ดูดี ให้พ่อแม่ภูมิใจ
ตอนนี้เราไม่รู้ว่าทางที่เราเดินอยู่มันควรเป็นไปแบบไหน เทอมนี้เทอม2ที่เราเหลือการสอบตัวสุดท้าย ต้องวัดเอาว่าผ่านไม่ผ่าน ถ้าไม่ผ่านเราต้องเรียนซ้ำ (มันมีแววเป็นแบบนั้น) แต่ถ้าผ่านเราเหลือ2เทอม(ครึ่งทางแล้ว) 6-7เดือนก็จบ แต่เทอมต่อไปโหดกว่านี้แน่ๆ

เห้ออออ ยังไงต่อดีนะชีวิต...
ถ้าเรียนต่อ เราก็จะลุ้นตกผ่านทุกเทอม ,ต้องคอยมาอ่านเองมากกว่าได้อะไรจากการเรียนที่ครูสอน (ซึ่งจริงๆอ่านเองเข้าใจ แต่พอเขียนในการสอบจริงๆทำให้มีปัญหา ทั้งภาษาไม่เก่ง เลยทำให้ทั้งแกรมม่า แล้วคำศัพท์ อะไรมันอาจจะมั่วๆ จนทำให้ครูไม่เข้าใจด้วย เรานึกศัพท์ไม่ออกด้วย ทั้งๆที่เราพยามอ่านซ้ำๆแล้วแต่สมองเรามันเข้าห้องสอบไปมันนึกไม่ออกอ่า)

สมมุติว่าเราผ่านเทอมนี้ ก็กลัวว่าเทอมต่อไปจะตก แล้วต้องเสียเวลาซ้ำ เสียเงินซ้ำ สู้เราเลิกล้มกลับบ้านไปทำงานเลยดีกว่าไหม มันเปลี่ยนชีวิตเราเลยนะ จากวาดฝัน นักศึกษาป.โทแต่กลับไปไม่ได้อะไรเลย

หรือกลับไทยรีบไปช่วยพ่อแม่ทำงานดีกว่าเสียเวลาที่นี่ ยังไงก็ไม่ได้ความรู้อะไรเท่าไร อาจได้มุมมองใหม่ๆบ้างก็จริง แต่คุ้มค่ากับเงินหลักล้านที่ต้องเสียเพิ่มในเทอมต่อๆไปไม๊ (ถ้าคนเรียนเก่งก็คงต่อ เราที่พยามเรียนแต่ก็ตกแล้วตกอีกมันเสียดายเงินที่มาลุ้นทุกๆเทอม)

ในอีกมุมก็คือถ้ากลับไปแล้ว  คนรอบข้างจะมองยังไง  หลายๆมุมมองที่เราคิดทำให้เราไม่รู้จะเลือกไปทางไหนจริงๆ .....กลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง......กลับไทยก็ไม่ได้ ให้เรียนต่อไปก็ไปไม่รอด มันช่างร่อแร่เสียเหลือเกิน

ก็คิดว่าถ้าสักวันมองย้อนกลับมาเราจะเสียใจไหมที่เลือกทางใดทางหนึ่ง...ซึ่งไม่รู้ถูกไม๊ที่ใครๆบอกว่ามีโอกาสเรียนก็เรียนไปก่อน แล้วเวลาที่เสียไปหละ? พ่อแม่แก่ขึ้นทุกปีก็อยากให้เขาพักได้แล้ว เราก็อยากรีบจบให้เขาภูมิใจ แต่ถ้าไม่จบเราก็ผลาญเงินเขาไปเรื่อยๆ


เรื่องราวของเราอาจจะวกวนและฟุ้งไปมาก ถ้าใครได้ลองอ่านจบถึงตอนนี้ บอกอะไรเราสักอย่างเถอะ #ด่าได้แต่อย่าแรง....มันจะสะเทือนใจเบาๆ

ขอบคุณเสียเวลาอ่านนะ ต่อไปเราคงได้มาระบายอะไรอีก....

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่