ตอบ “เรียนรู้ธรรมะ จากผู้ปฎิบัติจริงเหตุการณ์จริง” .. 17/10/2560 สรายุทธ กันหลง

ผมได้ขุมทรัพย์จากท่าน ดร.อนันท์ งามสะอาด ที่เขียนถึงศาสตราจารย์ท่านหนึ่ง ได้อ่านแล้วดีมาก ขอยกมาเสนอข้างล่างพร้อมข้อคิดของผม
.. สรายุทธ อังคาร 17/10/2560 8.21 น. กรุงเทพ
https://pantip.com/topic/36987588
“เรียนรู้ธรรมะ
จากผู้ปฎิบัติจริงเหตุการณ์จริง”

ดร.อนันท์ งามสะอาด
สถาบันการเรียนรู้ตลอดชีวิต
(ALL: Academy of Lifelong Learning)
--------------
เมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2557 ผมได้ไปร่วมพิธีสวดอภิธรรมศพคุณแม่สมนึก พงษ์เก่า ที่ศาลา 1 วัดบัวขวัญ จังหวัดนนทบุรี

คุณแม่สมนึก เป็นภรรยาของศาสตราจารย์ ดร.ไสว พงษ์เก่า อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (ท่านจบปริญญาตรีที่ฟิลิปปินส์ ปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกาโดยทุนร็อกกี้ เฟลเลอร์ และจบปริญญาเอกที่อังกฤษ)

ผมได้มีโอกาสพูดคุยเรียนรู้กับศาสตราจารย์ ดร.ไสว พงษ์เก่า ระหว่างรอพิธีสวดอภิธรรม

ปัจจุบันท่านมีอายุ 80 ปีแล้ว สุขภาพท่านไม่ดีนัก
โดยเฉพาะท่านเป็นโรคหัวใจ ต้องเข้ารับการผ่าตัดทำบอลลูนหลายครั้ง

ท่านเล่าให้ฟังถึงการครองชีวิตคู่ โดยจัดพิธีแต่งงานกับคุณแม่สมนึกทิ่ฟิลิปปินส์
ได้รับความกรุณาจากท่านทูตไทยประจำฟิลิปปินส์เป็นประธานพิธีให้

ในการครองชีวิตคู่
ท่านบอกว่าคุณแม่สมนึกมีอายุน้อยกว่าท่านสองปื
จึงเป็นทั้งภรรยา เป็นทั้งเพื่อนที่เข้าใจ รู้ใจตลอดมา
ไม่เคยแยกห่างกัน แม้เมื่อไปเรียนปริญญาโทที่สหรัฐก็ไปเรียนด้วยกันเพียงแต่คนละสาขา และต่างมหาวิทยาลัยเท่านั้น
เมื่อครั้งไปเรียนปริญญาเอก
ที่อังกฤษระยะเวลา 4 ปี ก็ไปด้วยกัน เพราะคุณแม่สมนึกอยากจะดูแลท่าน

ท่านบอกว่าคุณแม่สมนึกดูจะสุขภาพดีกว่าท่านเสียอีก
ไม่ได้เจ็บไข้ได้ป่วยอะไร จนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ลูกๆมาเยี่ยมที่บ้าน ถามถึงแม่ ไปปลุกแม่คิดว่าแม่ยังไม่ตื่นนอน
ที่ไหนได้แม่เสียชีวิตไปแล้ว โดยไม่ได้แสดงอาการเจ็บปวดอะไรให้เห็น
แสดงว่าคุณแม่ไปดี
ไปอย่างมีสติ

จนเมื่อถึงพิธีสวดอภิธรรม
ผมประทับใจการสวด ฯ
ของพระสงฆ์วัดบัวขวัญ
เพราะนอกจากสวดภาษาบาลี ยังมีการแสดงธรรมเป็นภาษาไทยให้ผู้ไปร่วมพิธีได้ฟังด้วย
ที่สำคัญคือบริหารเวลาได้ดีมาก ทำให้ผู้ไปร่วมพิธีสบายใจเรื่องการเดินทางได้

ความตอนหนึ่งของธรรมะที่พระสงฆ์แสดง คือ
“ความเป็นเศรษฐีมีจน
คนอนาถา ก็มิได้เป็นอุปสรรค
แก่การจับจ่ายอริยทรัพย์
ของผู้มีศรัทธาปัญญา
ฉะนั้น อริยทรัพย์จึงเป็นของมีคุณค่าเหนือกว่าทรัพย์ทั้งปวง”

และ “ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ในโลกนี้ เป็นเพียงธาตุสี่เท่านั้น แต่คนเราไปสมมุติ และหลงสมมุติเป็นตนเองต่างหาก “

ผมสังเกตความสง่างาม
ความงดงามในอาการสงบ
พนมมือรับธรรมะของศาสตรจารย์ ดร.ไสว พงษ์เก่า ผู้เป็นปูชนียบุคคลของลูกศิษย์
เป็นสามีที่ให้เกียรติภรรยาอย่างที่สุด แม้ในช่วงเวลาสุดท้ายของกิจกรรมทางศาสนา

และรับรู้ได้ว่า
กว่าจะเป็นได้อย่างท่าน
ต้องใช้วันเวลาขัดเกลามานาน

การได้เรียนรู้ธรรมะจากผู้ปฎิบัติจริง เหตุการณ์จริง
จึงเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ที่สำคัญ

บันทึก  7 กันยายน 2557

ผมตอบ

ขอบคุณครับท่าน @velli สำหรับขุมทรัพย์ทางปัญญา (intellectual treasure)  อ่านที่ทานเขียนแล้วยืนยันความคิดของผมว่า
  1 ความตายเป็นความจริงแท้ (Absolute Truth)
  2 สิ่งที่เราติดยึดคือ ลาภ ยศ สรรเสริญ คือสิ่งสมมุติ เอาไปไม่ได้
  3 สิ่งที่เราให้กับตนเองกับสังคมได้ คือทำความดีทำประโยชน์ให้คนอื่น สิ่งที่ได้คือความปลาบปลื้มหรือบุญ และคนอื่นก็ได้ประโยชน์ ถ้าเขาทำความดีต่อคนอื่นต่อไปก็เหมือนเป็นอนุสาวรีย์เดินได้ (Walking Monument) ของเรา
.. สรายุทธ อังคาร 17/10/2560 8.16 น. กรุงเทพ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่