คิดอยู่หลายวันเลยค่ะ ว่าจะตั้งกระทู้นี้ดีไหม กลัวว่าจะมีกระทู้หาคู่เพิ่มขึ้นกว่านี้อีก แต่เราอยากเล่าให้ฟังว่าเราเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดแค่ไหน
เราเป็นคนนึงที่สิงอยู่ในพันทิปมานาน อ่านบ้าง ตอบคอมเม้นท์บ้าง วันนึงเห็นมีคนโพสกระทู้หาคู่ เลยไปคอมเม้นท์ไว้เล่นๆ แล้วก็ไม่ได้คิดอะไรเลย เราคุยกับพี่ที่ทำงาน เค้ายังว่าเลยว่าไปพิมพ์แบบนั้นทำไม555+
หลังจากนั้น เราได้รับหลังไมค์จากผู้ชายคนนึง อ่านเสร็จก็นั่งคิดนะ ว่าเราควรจะตอบกลับดีไหม เพราะเค้าเขียนมาว่า " Profile ของคุณเป็นอย่างไร เป็นคนจังหวัดอะไร อายุเท่ากัน คาดหวังอะไร" ข้อความห้วนๆ ไม่มีน่าสนใจสักนิด คิดอยู่เป็นครึ่งชั่วโมง แต่สุดท้ายก็ไม่รู้ทำไมนะ เรากลับตอบข้อความนั้นไป โดยที่เราเองก็ไม่คิดเลยว่าการตอบกลับไปนั้น คือเป็นจุดเริ่มต้นความรักครั้งนี้
เราคุยกันนิดหน่อยในหลังไมค์ เค้าขอแลกไลน์พร้อมบอกเราว่า คิดว่าเอาไว้คุยเรื่องงานกันเนอะ
แล้วเค้าก็แอดมาค่ะ แต่ประโยคเเรกที่พูดกับเราคือ เราต่างกันมากนะ เค้าเป็นเเค่ช่างเอง (ซึ่งโกหกแหละ แต่เราจับได้แต่เเรกเลยว่าเค้าไม่ใช่ สุดท้ายเค้าก็มาสารภาพนะ ว่าทำไมถึงโกหก)
บอกเลยว่า การคุยกันในวันแรก เป็นเรื่องเกี่ยวกับงานล้วนๆ ไม่มีเรื่องอย่างอื่นเลย แต่ทำไมเรากลับไม่รู้สึกเบื่อที่จะคุยกับผู้ชายคนนี้ เค้าเป็นผู้ชายที่ทำงานหนักมากเลยนะคะ เวลาจะนอนแทบไม่มี ข้าวนี่อย่าถามว่าได้กินบ้างไหม
ต่อมา เรายังคุยกันเรื่องทั่วๆไป แล้วเค้าถามเราว่า ถ้าเค้าถามอะไรขอให้ตอบความจริงทุกอย่างไหม เริ่มจากบอกข้อเสียของตัวเอง มองความรักยังไง คาดหวังอะไรกับความรัก
เราเองโสดมานานมากเนอะ ทำอะไรได้คนเดียวโดยไม่ต้องมีแฟน และเราตั้งกำแพงไว้อยู่ว่า คนที่จะมาเป็นคู่เรา เค้าต้องสามารถเป็นผู้นำเราได้
แต่จากการคุยกับเค้า ได้อ่านความคิดของเค้า มุมมองการใช้ชีวิต การแก้ปัญหาในเรื่องงาน อะไรหลายๆอย่าง ก็เริ่มมองว่าผู้ชายคนนี้โอเคเลยเนอะ
และคำถามสุดท้ายที่เค้าถามเราคือ ถ้าจะจีบ จะจีบอย่างไรถึงจะติด เค้าว่านี่ยุค 4.0 แล้วเนอะจะต้องรวดเร็วนะเพราะงั้น ขอวิธีจีบแบบลัดแล้วเป็นแฟนกันเลยละกัน
เดทแรกของเรา เป็นการไปเดทแบบแปลกๆด้วยซ้ำนะ เรานี่ลากรองเท้าแตะ ผมก็ไม่สระ หน้ามันเยิ้ม ไปจากที่ทำงานเลย เพราะเค้าบอกว่า เค้าไม่มีเวลาเยอะ วันนี้ว่างปุ๊บก็อยากเจอ เดทแรกเค้าไม่มองหน้าเราด้วยซ้ำนะ เรารู้เลยว่าเค้าเองมีกำแพงกั้นอยู่ คุยกันอยู่นานกว่าที่เค้าจะไว้ใจ คุยกับเราอย่างสนิทใจ มารู้ที่หลังเค้าบอกว่า ที่เค้าไม่มองหน้าเราเลย เพราะต้องการที่จะใช้ใจฟังว่าเราเป็นคนอย่างไร แปลกนะที่เราสองคนมีอะไรหลายอย่างที่คล้ายกันมาก ความคิด หรือแม้กระทั่งไม่กินปลา ไม่กินผักเหมือนกัน เราได้เห็นความเป็นผู้นำ เราได้เห็นความคิดหลายๆอย่าง และที่บังเอิญที่สุด คือเค้าเป็นเพื่อนกับเพื่อนสมัยเรียนของเรา โดยที่เราก็ไม่รู้กันมาก่อน ที่รู้เพราะเราให้เฟสเราไป แล้วเค้าแอบไปส่อง เห็นว่าเป็นเพื่อนร่วมกัน เเล้วเค้าก็สนิทกับเพื่อนเรา เราเลยมั่นใจได้ละว่าถ้าเค้าไม่ใช่คนดี เพื่อนเรายังไงก็ต้องเตือนเราแน่นอน
เรายังคุยกันต่อหลังจากจบเดทแรกและสิ่งที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนในชีวิตก็มาถึงในเดทครั้งที่2 วันที่เค้าบอกว่ารักเราและขอเราแต่งงาน ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วค่ะ เค้าเองบอกว่า เราก็36 กันแล้วนะ ไม่ใช่เด็กๆ จะต้องคิดอะไรอีก ต้องรออะไรอีก จะต้องดูใจกันไปอีกกี่ปี ตัวเค้าก็พร้อม เราเลยตอบตกลงไปค่ะ
ตอนนี้ทางคุณแม่ของเค้ากำลังหาฤกษ์แต่งงานให้ค่ะ ที่มาตั้งกระทู้ก็แค่อยากบอกว่า ถ้าคุณคือคนที่ใช่สำหรับเค้า คุณไม่ต้องทำอะไรเลยค่ะ เค้าจะเป็นคนทำทุกอย่างเพื่อให้เราได้อยู่ด้วยกัน ขอให้เชื่อในพรหมลิขิตในคู่แท้ เค้าจะตามมาหาเราจนเจอ เหมือนอย่างเราที่ต่างเคยผ่านชีวิตพังๆมาแล้ว
แต่สุดท้ายในวันนี้ เราได้เจอกัน และพร้อมที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เป็นคู่ชีวิตกัน เป็นคนที่จะอยู่ร่วมกันตลอดไป
ขอให้คนที่กำลังตามหาใครสักคน ได้เจอคู่ของคุณเร็วๆนะคะ ^ ^
ขอบคุณกระทู้หาคู่ ที่ทำให้เราได้เจอคู่ชีวิตในวันนี้
เราเป็นคนนึงที่สิงอยู่ในพันทิปมานาน อ่านบ้าง ตอบคอมเม้นท์บ้าง วันนึงเห็นมีคนโพสกระทู้หาคู่ เลยไปคอมเม้นท์ไว้เล่นๆ แล้วก็ไม่ได้คิดอะไรเลย เราคุยกับพี่ที่ทำงาน เค้ายังว่าเลยว่าไปพิมพ์แบบนั้นทำไม555+
หลังจากนั้น เราได้รับหลังไมค์จากผู้ชายคนนึง อ่านเสร็จก็นั่งคิดนะ ว่าเราควรจะตอบกลับดีไหม เพราะเค้าเขียนมาว่า " Profile ของคุณเป็นอย่างไร เป็นคนจังหวัดอะไร อายุเท่ากัน คาดหวังอะไร" ข้อความห้วนๆ ไม่มีน่าสนใจสักนิด คิดอยู่เป็นครึ่งชั่วโมง แต่สุดท้ายก็ไม่รู้ทำไมนะ เรากลับตอบข้อความนั้นไป โดยที่เราเองก็ไม่คิดเลยว่าการตอบกลับไปนั้น คือเป็นจุดเริ่มต้นความรักครั้งนี้
เราคุยกันนิดหน่อยในหลังไมค์ เค้าขอแลกไลน์พร้อมบอกเราว่า คิดว่าเอาไว้คุยเรื่องงานกันเนอะ
แล้วเค้าก็แอดมาค่ะ แต่ประโยคเเรกที่พูดกับเราคือ เราต่างกันมากนะ เค้าเป็นเเค่ช่างเอง (ซึ่งโกหกแหละ แต่เราจับได้แต่เเรกเลยว่าเค้าไม่ใช่ สุดท้ายเค้าก็มาสารภาพนะ ว่าทำไมถึงโกหก)
บอกเลยว่า การคุยกันในวันแรก เป็นเรื่องเกี่ยวกับงานล้วนๆ ไม่มีเรื่องอย่างอื่นเลย แต่ทำไมเรากลับไม่รู้สึกเบื่อที่จะคุยกับผู้ชายคนนี้ เค้าเป็นผู้ชายที่ทำงานหนักมากเลยนะคะ เวลาจะนอนแทบไม่มี ข้าวนี่อย่าถามว่าได้กินบ้างไหม
ต่อมา เรายังคุยกันเรื่องทั่วๆไป แล้วเค้าถามเราว่า ถ้าเค้าถามอะไรขอให้ตอบความจริงทุกอย่างไหม เริ่มจากบอกข้อเสียของตัวเอง มองความรักยังไง คาดหวังอะไรกับความรัก
เราเองโสดมานานมากเนอะ ทำอะไรได้คนเดียวโดยไม่ต้องมีแฟน และเราตั้งกำแพงไว้อยู่ว่า คนที่จะมาเป็นคู่เรา เค้าต้องสามารถเป็นผู้นำเราได้
แต่จากการคุยกับเค้า ได้อ่านความคิดของเค้า มุมมองการใช้ชีวิต การแก้ปัญหาในเรื่องงาน อะไรหลายๆอย่าง ก็เริ่มมองว่าผู้ชายคนนี้โอเคเลยเนอะ
และคำถามสุดท้ายที่เค้าถามเราคือ ถ้าจะจีบ จะจีบอย่างไรถึงจะติด เค้าว่านี่ยุค 4.0 แล้วเนอะจะต้องรวดเร็วนะเพราะงั้น ขอวิธีจีบแบบลัดแล้วเป็นแฟนกันเลยละกัน
เดทแรกของเรา เป็นการไปเดทแบบแปลกๆด้วยซ้ำนะ เรานี่ลากรองเท้าแตะ ผมก็ไม่สระ หน้ามันเยิ้ม ไปจากที่ทำงานเลย เพราะเค้าบอกว่า เค้าไม่มีเวลาเยอะ วันนี้ว่างปุ๊บก็อยากเจอ เดทแรกเค้าไม่มองหน้าเราด้วยซ้ำนะ เรารู้เลยว่าเค้าเองมีกำแพงกั้นอยู่ คุยกันอยู่นานกว่าที่เค้าจะไว้ใจ คุยกับเราอย่างสนิทใจ มารู้ที่หลังเค้าบอกว่า ที่เค้าไม่มองหน้าเราเลย เพราะต้องการที่จะใช้ใจฟังว่าเราเป็นคนอย่างไร แปลกนะที่เราสองคนมีอะไรหลายอย่างที่คล้ายกันมาก ความคิด หรือแม้กระทั่งไม่กินปลา ไม่กินผักเหมือนกัน เราได้เห็นความเป็นผู้นำ เราได้เห็นความคิดหลายๆอย่าง และที่บังเอิญที่สุด คือเค้าเป็นเพื่อนกับเพื่อนสมัยเรียนของเรา โดยที่เราก็ไม่รู้กันมาก่อน ที่รู้เพราะเราให้เฟสเราไป แล้วเค้าแอบไปส่อง เห็นว่าเป็นเพื่อนร่วมกัน เเล้วเค้าก็สนิทกับเพื่อนเรา เราเลยมั่นใจได้ละว่าถ้าเค้าไม่ใช่คนดี เพื่อนเรายังไงก็ต้องเตือนเราแน่นอน
เรายังคุยกันต่อหลังจากจบเดทแรกและสิ่งที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนในชีวิตก็มาถึงในเดทครั้งที่2 วันที่เค้าบอกว่ารักเราและขอเราแต่งงาน ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วค่ะ เค้าเองบอกว่า เราก็36 กันแล้วนะ ไม่ใช่เด็กๆ จะต้องคิดอะไรอีก ต้องรออะไรอีก จะต้องดูใจกันไปอีกกี่ปี ตัวเค้าก็พร้อม เราเลยตอบตกลงไปค่ะ
ตอนนี้ทางคุณแม่ของเค้ากำลังหาฤกษ์แต่งงานให้ค่ะ ที่มาตั้งกระทู้ก็แค่อยากบอกว่า ถ้าคุณคือคนที่ใช่สำหรับเค้า คุณไม่ต้องทำอะไรเลยค่ะ เค้าจะเป็นคนทำทุกอย่างเพื่อให้เราได้อยู่ด้วยกัน ขอให้เชื่อในพรหมลิขิตในคู่แท้ เค้าจะตามมาหาเราจนเจอ เหมือนอย่างเราที่ต่างเคยผ่านชีวิตพังๆมาแล้ว
แต่สุดท้ายในวันนี้ เราได้เจอกัน และพร้อมที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เป็นคู่ชีวิตกัน เป็นคนที่จะอยู่ร่วมกันตลอดไป
ขอให้คนที่กำลังตามหาใครสักคน ได้เจอคู่ของคุณเร็วๆนะคะ ^ ^