สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 35
ของเรา ปท หรือ สถานที่ ที่ยังไม่เคยไป และ อยากไปมากๆ
อิรัค เกาหลีเหนือ
ปากีสถาน บังคลาเทศ
ซาอุดิอาระเบีย
สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า
หมู่เกาะกาลาปากอส (เอควาดอร์)
______________________________
//กระทู้เกี่ยวกับ ทัศนะคติต่างๆ ในการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเที่ยวต่างประเทศ ที่เราเคยตอบเอาไว้ในพันทิป
เอามาให้ จขกท ในคห 39-1 และ คห 39 ข้างล่าง อ่านเล่นๆ
กระทู้ "คนที่ไปเที่ยวต่างประเทศได้อะไรกลับมาครับ"
https://pantip.com/topic/36579547/
กระทู้ "การไปเที่ยวต่างประเทศถือเป็นการลงทุนไหม"
https://pantip.com/topic/35448557/
___________________________
กระทู้ "อยากถามคนที่ออกเที่ยวนานๆ เป็นอาทิตย์ หรือ เดือน มีความคิดเห็นอย่างไรครับ"
https://pantip.com/topic/35213021/comment4
ตั้งแต่เที่ยวมาเป็นสิบๆ ปี เราไม่เคยเสียดายเงิน แต่จะเสียดายมากที่ไม่ได้เที่ยว
แน่หล่ะ ต้องใช้เงินในการท่องเที่ยว แต่ประสบการณ์ทุกอย่างที่ได้รับจากการท่องเที่ยว
ของเราไม่สามารถใช้เงินซื้อได้ และ ไม่มีใครโขมยไปจากความทรงจำของเราได้
เราประเภทเที่ยวแบบอ้อยอิ่งมาแต่ไหนแต่ไร เมืองนึงอยู่เป็นสิบวัน หรือ เป็นเดือน
เมืองไหนชอบก็ไปทุกปี ไปมาเป็นสิบๆ หน
ไปคิวบา มีเหมารถออกไปเที่ยวนอกเมือง เราอนุญาตใหัคนขับรับคนแปลกหน้าที่คอยมายืนโบกอาศัยติดรถ
ไปด้วย คนนี้ขึ้นมา คนนั้นลงไป คนใหม่ขึ้นมา ทำใหัได้สัมภาษณ์ครู ทหาร พยาบาล คนหลากหลายอาชีพ
ประเทศที่สวยที่สุดเท่าที่เคยไปมา คือ เอธิโอเปีย อิหร่าน
สถานที่ที่อเมซิ่งที่สุด ที่เคยเห็นมา คือ หมู่เกาะอีสเต้อร์ , กำแพงเมืองจีน, ทุ่งเจดีย์พุกาม (หมายถึงพุกามเมื่อราวๆ เกือบ 20 ปีที่แล้ว
ไม่ใช่พุกามในสมัยพม่าเปิดประเทศที่นักท่องเที่ยวแห่กันไปแล้ว)
เมืองที่รัก คือ กรุงเทพฯ ลอนดอน ดูไบ
แว่บแรกที่เห็น รู้สึกมหัศจรรย์ คือ ทัชมาฮาล ที่ปรากฏอยู่ที่ซุ้มขอบประตู - ดูเหมือนทัชมาฮาลลอยอยู่บนวิมาน
หลายๆ เมือง นอกจากจะไปพักตามโรงแรมในทำเลดีๆ หรือ บูที๊คโฮเทล เราเลือกที่จะไปอยู่โฮมสเตย์กับครอบครัวท้องถิ่น ตื่นเช้ามานั่งดื่มกาแฟ สนทนาแลกเปลี่ยนกับเจ้าของบ้าน
เย็นกลับมาคุยกับเจ้าของบ้าน หรือ ไปดูเขาทำอาหาร สอนเขาทำอาหารไทย ฯลฯ
ที่ผ่านมาในหลายประเทศ เราเคยพักกับโฮทส์ที่เป็น ศิลปินนักออกแบบตกแต่งภายในที่มีคู่เป็นนักดนตรี,
นักสะสมวัตถุโบราณ, อดีตนายทหารเรือที่เคยเดินทางไปทั่วโลก มีภรรยาเป็นเจ้าหญิง, อดีตครูใหญ่, พนักงานโรงแรม,
อดีตพนักงานบริษัทโทรคมนาคม, อดีตนักเดินทาง, อดีตทนายความ, แม่บ้าน, คู่เกย์
ครูสอนเปียโน, อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยที่มีดีกรีพีเอชดีต่อท้าย ฯลฯ
และ ทุกคนที่กล่าวมานี้เคยมาเที่ยวเมืองไทย เป็นนักเดินทางเช่นกัน
เราชอบเดิน ชอบเช่าจักรยานขี่ ชอบใช้บริการขนส่งสาธารณะ
เราชอบไปตลาดสด ไปซุปเปอร์มาร์เก็ต ไปร้านกาแฟ ไปร้านอาหารท้องถิ่น ไปสวนสาธารณะ
ไปพิพิธภัณฑ์ ไปสวนสัตว์ ไปดูงานแสดงศิลปะ ไปดูละครเวที ดูการแสดงท้องถิ่น ชอบคุยกับคนท้องถิ่น
คุยกับนักท่องเที่ยวด้วยกัน คุยกับแอร์กับสจ๊วตบนเครื่องบิน คุยกับผู้โดยสารด้วยกัน
การเดินทางสอนให้เรารู้จักอดทน อดกลั้น สอนให้รู้จักรอคอย เราผ่านการดีเลย์ของเที่ยวบินมาแล้วหลายรูปแบบ
การเดินทางสอนให้เราคิดกว้าง ใจกว้าง โลกทัศน์กว้าง สอนให้กินง่ายอยู่ง่าย
สอนให้ปลง สอนให้ลดอีโก้ สอนให้ใช้ไหวพริบในการดูแลตัวเอง สอนให้เราดูคนเป็น สอนใหัเรารู้จักดีลกับคน
สอนให้เรารู้จักคนชาติต่างๆ สอนให้เรารู้ว่าทุกสิ่งล้วนอนิจจัง ไม่มีอะไรยืนยงและรุ่งเรืองได้ตลอดกาล
สอนให้เราเห็นความเปลี่ยนแปลงของโลก ของเมือง ของผู้คน การอพยพโยกย้ายถิ่นฐานของคน
สอนใหัเรารู้ว่าในโลกนี้ยังมีอะไรที่เราไม่รู้อีกเยอะ
สอนให้เรานอนบนพื้นสนามบินได้ สามารถหลับได้ตั้งแต่บนพื้น บนเก้าอี้ หลับในสวนสาธารณะ
เข้าพักได้ตั้งแต่โรงแรมคืนละร้อยกว่าบาท สิบกว่ายูเอสดอลล่าร์ เรื่อยไปจนถึงโรงแรมดังระดับโลก ทุกที่ต่างกันแค่ความสบาย
ต่างกันแค่ความสะอาด แต่จุดประสงค์เดียวกันมันคือที่ซุกหัวนอนที่อาบน้ำยามเหนื่อยล้า
สอนให้เราเข้าห้องน้ำได้ทุกรูปแบบ สอนให้เรารู้จักกินอาหารหลากหลายจากภาชนะแบบไหนก็ได้
สอนให้ทนอด ทนหิว สอนให้ไม่เรื่องมากเรื่องเครื่องนุ่งห่มแต่งตัวง่ายๆ สบายๆ
สอนใหัเราไม่ตัดสินคนจากสีผิว การแต่งกาย ประเทศ เชื้อชาติ ศาสนา อาชีพ การศึกษา ฐานะ
เราได้พบเจอคนสติปัญญาดีความคิดดีๆ เยอะแยะ คนบางคนของประเทศที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเลยพูดภาษาอังกฤษไม่ได้แต่ไหวพริบดี
ส่วนตัวเราก็พูดภาษาของเขา(ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ)ไม่ได้ แต่พวกเราก็คุยกันรู้เรื่อง มิตรภาพงอกงาม
คนบางประเทศมีภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการประจำชาติแต่พูดภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่องไม่ได้พูดด้วยความเข้าใจ
ส่วนเราพูดภาษาอังกฤษกับเขา(ภาษาอังกฤษของเราอยู่ในระดับใช้งานได้ดี) แต่คุยกันไม่รู้เรื่องก็มีเยอะแยะ
ได้พบว่าคนยากจนในหลายประเทศมีน้ำใจยิ่งใหญ่ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แต่คนรวยดูถูกคนอื่น เย่อหยิ่ง ถือตัว
หลายๆ ทริปที่เดินทางไปต่างประเทศ นอกจากพาสปอร์ต เงินสกุลต่างๆ เครดิตการ์ด ของใช้ที่จำเป็นอื่นๆ
เรามีแค่ตั๋วเดินทางไป-กลับ และ ที่พักที่จองแล้ว นอกนั้นเราไม่มีแพลนอะไร อื่นๆ ไปหาเอาหน้างาน
บางทริปซื้อตั๋ววันนี้ เดินทางพรุ่งนี้
อาจจะแค่ตื่นเช้ามา แล้วเดินไปเรื่อยๆ หาร้านกาแฟ นั่งคุย นั่งเล่นเน็ต
จากนั้นออกไปขึ้นรถเมล์ ไม่มีแพลนว่าจะนั่งไปไหน แต่ถ้าป้ายไหนรถจอดแล้วดูน่าสนใจ
ก็แค่ลงจากรถเมล์ไปสำรวจ
เวลาเดินทาง เราพกแผนที่ ไม่ใช้แอ็พ ไม่ตามกูเกิ้ลสตรีทวิว ไม่ใช้เทคโนโลยีช่วย(นอกจากการหาขัอมูลในเน็ท
หรือการจองสิ่งต่างๆ ออนไลน์) แต่เราดูแผนที่แค่ครั้งสองครั้งพอแค่ให้จำเส้นทางหลักๆของเมืองได้
หาจุดสังเกต จุดเด่น นอกนั้นเดินไปเรื่อยๆ หรือ ใช้ปากถามคน หรือ กระโดดขึ้นบริการขนส่งสาธารฯะ
และ มักจะเจออะไรดีๆ อยู่เรื่อยๆ เที่ยวแบบโบราณตื่นเต้นกว่าเที่ยวแบบสมัยใหม่ในปัจจุบัน
อีกอย่างที่ทำเวลาที่เดินทางไปประเทศต่างๆ มักจะหาโอกาสไปร้านอาหารไทยให้ไดัเสมอ เพื่อไปพบคนไทย
ที่อยู่ที่นั่น ไปพูดคุยดูชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยในต่างแดน และ ไปดูว่าเชฟสามารถประยุกต์วัตถุดิบ
หรือ เครื่องปรุงท้องถิ่น หรือ เครื่องปรุงพืชผักจากไทยชนิดไหนบ้างที่สามารถหาได้ในประเทศนั้นๆ
โดยเฉพาะร้านอาหารไทยใน ปท ที่มีคนไทยอยู่น้อยแค่หลักสิบคนไม่ถึงหลักร้อย เป็นอะไรที่น่าสนใจที่สุด
พื้นที่ไหน ประเทศไหนไม่มีอินเทอร์เน็ท ไม่มีสัญญาณมือถือใช้ก็ไม่เดือดร้อน ได้คุยกับคน ได้อ่านหนังสือ ได้นั่งมองอะไรเฉยๆ
ได้เว้นวรรคพักจากเทคโนโลยี ถือเป็นการดีท็อกซ์สมองไม่ต้องรับทราบอะไรมาก
การเดินทางสอนให้เราค้นพบแก่นคำสอนหลายสิ่งหลายอย่างของพุทธศาสนา โดยที่ไม่ต้องไปเข้าวัด
กราบไหว้ ถือศีล ไม่ต้องงมงาย แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง จากการลองผิดลองถูกด้วยตนเอง
การเดินทางสอนให้เราเห็นคุณค่าของปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต ส่วนสิ่งนอกเหนือจากปัจจัยพื้นฐานที่มีในชีวิต
มันคือโบนัสพิเศษคือความโชคดี
การเดินทางสอนให้เราเห็นคุณค่าของประเทศไทย คุณค่าของการมีราชวงศ์และพระมหากษัตริย์
ชาติใดก็แล้วแต่ถ้าไร้ซึ่งระบบกษัตริย์ก็มักจะไม่มีวัฒนธรรม ไม่มีประวัติศาสตร์
ผู้คนไม่มีมารยาทไม่มีสไตล์ไม่มีจริตอันเป็นเอกลักษณ์
ไม่มีวัฒนธรรมการกินอยู่ไม่มีอาหารที่น่าสนใจมากนัก
เราเดินทางตามสัญชาติญาณ เดินทางตามใจตัวเอง
แรงบันดาลใจในการเที่ยวของเรา คือ เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวในเมืองไทยหลายที่ ได้เที่ยวตั้งแต่ยังอยู่อนุบาล ป 1 ป 2
เราเป็นเด็กที่โตมากับหนังสือหลากหลายประเภท โตมากับข่าว สารคดี หนัง เพลง สนใจเรื่องต่างประเทศ ประวัติศาสตร์ ศิลปะ
สนใจเรื่องคน สนใจเรื่องอาหาร เรื่องชา กาแฟ เรื่องขนม
ตั้งแต่เป็นเด็กชั้นประถมต้นเราก็รู้จักแผนที่โลกแล้ว รู้ว่าทวีปไหน ประเทศไหน อยู่ตรงไหน พอโตก็มีโอกาสได้เดินทาง
เวลาไปเจอสถานที่จริง ทุกแห่ง ไม่เหมือนในรูปหรอก เพราะของจริงมันมีสภาพแวดลัอม มีกลิ่น มีเสียง มีผู้คน
มาประกอบด้วย
ส่วนคนประเทศไหนมีอุปนิสัยโดยทั่วไปเป็นอย่างไร การให้เกียรติผู้อื่น ระบบความคิด ความมีระเบียบหรือไม่
เราเดินทางซะจนสามารถประเมินได้จากการแค่ใช้บริการที่สนามบินดูจากแผนผังสนามบินดูจากสิ่งอำนวยความสะดวกในสนามบิน
การบริการของลูกเรือสายการบินแห่งชาติ และ การผ่านการตรวจคนเข้าเมือง การผ่านศุลกากร
ระบบต่างๆ หลายสิ่งหลายอย่างเหล่านี้ คือ ภาพสะท้อนเบื้องต้นของสังคม การเมือง สวัสดิการ
และ อุปนิสัยของคนของประเทศนั้นๆ
___________________________
หาก จขกท หรือ คห 39 หรือ คห อื่นๆ สนใจที่จะอ่านความคิดเห็นต่างๆ ของเรา เกี่ยวกับเมืองต่างๆ ประเทศต่างๆ
ที่เราเคยตอบเอาไว้ในพันทิป สามารถจิ้มไปที่หมายเลขสมาชิกของเราได้เลย
เราเป็นคนไทยอีกคนหนึ่ง ที่มีโอกาสได้เดินทางทั่วโลก หรือ เคยอาศัยอยู่ในหลายเมือง หลายทวีป
และ ยังอาศัยอยู่ในประเทศไทยด้วย
🌟🌏🌎🌍🌟
อิรัค เกาหลีเหนือ
ปากีสถาน บังคลาเทศ
ซาอุดิอาระเบีย
สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า
หมู่เกาะกาลาปากอส (เอควาดอร์)
______________________________
//กระทู้เกี่ยวกับ ทัศนะคติต่างๆ ในการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเที่ยวต่างประเทศ ที่เราเคยตอบเอาไว้ในพันทิป
เอามาให้ จขกท ในคห 39-1 และ คห 39 ข้างล่าง อ่านเล่นๆ
กระทู้ "คนที่ไปเที่ยวต่างประเทศได้อะไรกลับมาครับ"
https://pantip.com/topic/36579547/
กระทู้ "การไปเที่ยวต่างประเทศถือเป็นการลงทุนไหม"
https://pantip.com/topic/35448557/
___________________________
กระทู้ "อยากถามคนที่ออกเที่ยวนานๆ เป็นอาทิตย์ หรือ เดือน มีความคิดเห็นอย่างไรครับ"
https://pantip.com/topic/35213021/comment4
ตั้งแต่เที่ยวมาเป็นสิบๆ ปี เราไม่เคยเสียดายเงิน แต่จะเสียดายมากที่ไม่ได้เที่ยว
แน่หล่ะ ต้องใช้เงินในการท่องเที่ยว แต่ประสบการณ์ทุกอย่างที่ได้รับจากการท่องเที่ยว
ของเราไม่สามารถใช้เงินซื้อได้ และ ไม่มีใครโขมยไปจากความทรงจำของเราได้
เราประเภทเที่ยวแบบอ้อยอิ่งมาแต่ไหนแต่ไร เมืองนึงอยู่เป็นสิบวัน หรือ เป็นเดือน
เมืองไหนชอบก็ไปทุกปี ไปมาเป็นสิบๆ หน
ไปคิวบา มีเหมารถออกไปเที่ยวนอกเมือง เราอนุญาตใหัคนขับรับคนแปลกหน้าที่คอยมายืนโบกอาศัยติดรถ
ไปด้วย คนนี้ขึ้นมา คนนั้นลงไป คนใหม่ขึ้นมา ทำใหัได้สัมภาษณ์ครู ทหาร พยาบาล คนหลากหลายอาชีพ
ประเทศที่สวยที่สุดเท่าที่เคยไปมา คือ เอธิโอเปีย อิหร่าน
สถานที่ที่อเมซิ่งที่สุด ที่เคยเห็นมา คือ หมู่เกาะอีสเต้อร์ , กำแพงเมืองจีน, ทุ่งเจดีย์พุกาม (หมายถึงพุกามเมื่อราวๆ เกือบ 20 ปีที่แล้ว
ไม่ใช่พุกามในสมัยพม่าเปิดประเทศที่นักท่องเที่ยวแห่กันไปแล้ว)
เมืองที่รัก คือ กรุงเทพฯ ลอนดอน ดูไบ
แว่บแรกที่เห็น รู้สึกมหัศจรรย์ คือ ทัชมาฮาล ที่ปรากฏอยู่ที่ซุ้มขอบประตู - ดูเหมือนทัชมาฮาลลอยอยู่บนวิมาน
หลายๆ เมือง นอกจากจะไปพักตามโรงแรมในทำเลดีๆ หรือ บูที๊คโฮเทล เราเลือกที่จะไปอยู่โฮมสเตย์กับครอบครัวท้องถิ่น ตื่นเช้ามานั่งดื่มกาแฟ สนทนาแลกเปลี่ยนกับเจ้าของบ้าน
เย็นกลับมาคุยกับเจ้าของบ้าน หรือ ไปดูเขาทำอาหาร สอนเขาทำอาหารไทย ฯลฯ
ที่ผ่านมาในหลายประเทศ เราเคยพักกับโฮทส์ที่เป็น ศิลปินนักออกแบบตกแต่งภายในที่มีคู่เป็นนักดนตรี,
นักสะสมวัตถุโบราณ, อดีตนายทหารเรือที่เคยเดินทางไปทั่วโลก มีภรรยาเป็นเจ้าหญิง, อดีตครูใหญ่, พนักงานโรงแรม,
อดีตพนักงานบริษัทโทรคมนาคม, อดีตนักเดินทาง, อดีตทนายความ, แม่บ้าน, คู่เกย์
ครูสอนเปียโน, อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยที่มีดีกรีพีเอชดีต่อท้าย ฯลฯ
และ ทุกคนที่กล่าวมานี้เคยมาเที่ยวเมืองไทย เป็นนักเดินทางเช่นกัน
เราชอบเดิน ชอบเช่าจักรยานขี่ ชอบใช้บริการขนส่งสาธารณะ
เราชอบไปตลาดสด ไปซุปเปอร์มาร์เก็ต ไปร้านกาแฟ ไปร้านอาหารท้องถิ่น ไปสวนสาธารณะ
ไปพิพิธภัณฑ์ ไปสวนสัตว์ ไปดูงานแสดงศิลปะ ไปดูละครเวที ดูการแสดงท้องถิ่น ชอบคุยกับคนท้องถิ่น
คุยกับนักท่องเที่ยวด้วยกัน คุยกับแอร์กับสจ๊วตบนเครื่องบิน คุยกับผู้โดยสารด้วยกัน
การเดินทางสอนให้เรารู้จักอดทน อดกลั้น สอนให้รู้จักรอคอย เราผ่านการดีเลย์ของเที่ยวบินมาแล้วหลายรูปแบบ
การเดินทางสอนให้เราคิดกว้าง ใจกว้าง โลกทัศน์กว้าง สอนให้กินง่ายอยู่ง่าย
สอนให้ปลง สอนให้ลดอีโก้ สอนให้ใช้ไหวพริบในการดูแลตัวเอง สอนให้เราดูคนเป็น สอนใหัเรารู้จักดีลกับคน
สอนให้เรารู้จักคนชาติต่างๆ สอนให้เรารู้ว่าทุกสิ่งล้วนอนิจจัง ไม่มีอะไรยืนยงและรุ่งเรืองได้ตลอดกาล
สอนให้เราเห็นความเปลี่ยนแปลงของโลก ของเมือง ของผู้คน การอพยพโยกย้ายถิ่นฐานของคน
สอนใหัเรารู้ว่าในโลกนี้ยังมีอะไรที่เราไม่รู้อีกเยอะ
สอนให้เรานอนบนพื้นสนามบินได้ สามารถหลับได้ตั้งแต่บนพื้น บนเก้าอี้ หลับในสวนสาธารณะ
เข้าพักได้ตั้งแต่โรงแรมคืนละร้อยกว่าบาท สิบกว่ายูเอสดอลล่าร์ เรื่อยไปจนถึงโรงแรมดังระดับโลก ทุกที่ต่างกันแค่ความสบาย
ต่างกันแค่ความสะอาด แต่จุดประสงค์เดียวกันมันคือที่ซุกหัวนอนที่อาบน้ำยามเหนื่อยล้า
สอนให้เราเข้าห้องน้ำได้ทุกรูปแบบ สอนให้เรารู้จักกินอาหารหลากหลายจากภาชนะแบบไหนก็ได้
สอนให้ทนอด ทนหิว สอนให้ไม่เรื่องมากเรื่องเครื่องนุ่งห่มแต่งตัวง่ายๆ สบายๆ
สอนใหัเราไม่ตัดสินคนจากสีผิว การแต่งกาย ประเทศ เชื้อชาติ ศาสนา อาชีพ การศึกษา ฐานะ
เราได้พบเจอคนสติปัญญาดีความคิดดีๆ เยอะแยะ คนบางคนของประเทศที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเลยพูดภาษาอังกฤษไม่ได้แต่ไหวพริบดี
ส่วนตัวเราก็พูดภาษาของเขา(ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ)ไม่ได้ แต่พวกเราก็คุยกันรู้เรื่อง มิตรภาพงอกงาม
คนบางประเทศมีภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการประจำชาติแต่พูดภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่องไม่ได้พูดด้วยความเข้าใจ
ส่วนเราพูดภาษาอังกฤษกับเขา(ภาษาอังกฤษของเราอยู่ในระดับใช้งานได้ดี) แต่คุยกันไม่รู้เรื่องก็มีเยอะแยะ
ได้พบว่าคนยากจนในหลายประเทศมีน้ำใจยิ่งใหญ่ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แต่คนรวยดูถูกคนอื่น เย่อหยิ่ง ถือตัว
หลายๆ ทริปที่เดินทางไปต่างประเทศ นอกจากพาสปอร์ต เงินสกุลต่างๆ เครดิตการ์ด ของใช้ที่จำเป็นอื่นๆ
เรามีแค่ตั๋วเดินทางไป-กลับ และ ที่พักที่จองแล้ว นอกนั้นเราไม่มีแพลนอะไร อื่นๆ ไปหาเอาหน้างาน
บางทริปซื้อตั๋ววันนี้ เดินทางพรุ่งนี้
อาจจะแค่ตื่นเช้ามา แล้วเดินไปเรื่อยๆ หาร้านกาแฟ นั่งคุย นั่งเล่นเน็ต
จากนั้นออกไปขึ้นรถเมล์ ไม่มีแพลนว่าจะนั่งไปไหน แต่ถ้าป้ายไหนรถจอดแล้วดูน่าสนใจ
ก็แค่ลงจากรถเมล์ไปสำรวจ
เวลาเดินทาง เราพกแผนที่ ไม่ใช้แอ็พ ไม่ตามกูเกิ้ลสตรีทวิว ไม่ใช้เทคโนโลยีช่วย(นอกจากการหาขัอมูลในเน็ท
หรือการจองสิ่งต่างๆ ออนไลน์) แต่เราดูแผนที่แค่ครั้งสองครั้งพอแค่ให้จำเส้นทางหลักๆของเมืองได้
หาจุดสังเกต จุดเด่น นอกนั้นเดินไปเรื่อยๆ หรือ ใช้ปากถามคน หรือ กระโดดขึ้นบริการขนส่งสาธารฯะ
และ มักจะเจออะไรดีๆ อยู่เรื่อยๆ เที่ยวแบบโบราณตื่นเต้นกว่าเที่ยวแบบสมัยใหม่ในปัจจุบัน
อีกอย่างที่ทำเวลาที่เดินทางไปประเทศต่างๆ มักจะหาโอกาสไปร้านอาหารไทยให้ไดัเสมอ เพื่อไปพบคนไทย
ที่อยู่ที่นั่น ไปพูดคุยดูชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยในต่างแดน และ ไปดูว่าเชฟสามารถประยุกต์วัตถุดิบ
หรือ เครื่องปรุงท้องถิ่น หรือ เครื่องปรุงพืชผักจากไทยชนิดไหนบ้างที่สามารถหาได้ในประเทศนั้นๆ
โดยเฉพาะร้านอาหารไทยใน ปท ที่มีคนไทยอยู่น้อยแค่หลักสิบคนไม่ถึงหลักร้อย เป็นอะไรที่น่าสนใจที่สุด
พื้นที่ไหน ประเทศไหนไม่มีอินเทอร์เน็ท ไม่มีสัญญาณมือถือใช้ก็ไม่เดือดร้อน ได้คุยกับคน ได้อ่านหนังสือ ได้นั่งมองอะไรเฉยๆ
ได้เว้นวรรคพักจากเทคโนโลยี ถือเป็นการดีท็อกซ์สมองไม่ต้องรับทราบอะไรมาก
การเดินทางสอนให้เราค้นพบแก่นคำสอนหลายสิ่งหลายอย่างของพุทธศาสนา โดยที่ไม่ต้องไปเข้าวัด
กราบไหว้ ถือศีล ไม่ต้องงมงาย แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง จากการลองผิดลองถูกด้วยตนเอง
การเดินทางสอนให้เราเห็นคุณค่าของปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต ส่วนสิ่งนอกเหนือจากปัจจัยพื้นฐานที่มีในชีวิต
มันคือโบนัสพิเศษคือความโชคดี
การเดินทางสอนให้เราเห็นคุณค่าของประเทศไทย คุณค่าของการมีราชวงศ์และพระมหากษัตริย์
ชาติใดก็แล้วแต่ถ้าไร้ซึ่งระบบกษัตริย์ก็มักจะไม่มีวัฒนธรรม ไม่มีประวัติศาสตร์
ผู้คนไม่มีมารยาทไม่มีสไตล์ไม่มีจริตอันเป็นเอกลักษณ์
ไม่มีวัฒนธรรมการกินอยู่ไม่มีอาหารที่น่าสนใจมากนัก
เราเดินทางตามสัญชาติญาณ เดินทางตามใจตัวเอง
แรงบันดาลใจในการเที่ยวของเรา คือ เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวในเมืองไทยหลายที่ ได้เที่ยวตั้งแต่ยังอยู่อนุบาล ป 1 ป 2
เราเป็นเด็กที่โตมากับหนังสือหลากหลายประเภท โตมากับข่าว สารคดี หนัง เพลง สนใจเรื่องต่างประเทศ ประวัติศาสตร์ ศิลปะ
สนใจเรื่องคน สนใจเรื่องอาหาร เรื่องชา กาแฟ เรื่องขนม
ตั้งแต่เป็นเด็กชั้นประถมต้นเราก็รู้จักแผนที่โลกแล้ว รู้ว่าทวีปไหน ประเทศไหน อยู่ตรงไหน พอโตก็มีโอกาสได้เดินทาง
เวลาไปเจอสถานที่จริง ทุกแห่ง ไม่เหมือนในรูปหรอก เพราะของจริงมันมีสภาพแวดลัอม มีกลิ่น มีเสียง มีผู้คน
มาประกอบด้วย
ส่วนคนประเทศไหนมีอุปนิสัยโดยทั่วไปเป็นอย่างไร การให้เกียรติผู้อื่น ระบบความคิด ความมีระเบียบหรือไม่
เราเดินทางซะจนสามารถประเมินได้จากการแค่ใช้บริการที่สนามบินดูจากแผนผังสนามบินดูจากสิ่งอำนวยความสะดวกในสนามบิน
การบริการของลูกเรือสายการบินแห่งชาติ และ การผ่านการตรวจคนเข้าเมือง การผ่านศุลกากร
ระบบต่างๆ หลายสิ่งหลายอย่างเหล่านี้ คือ ภาพสะท้อนเบื้องต้นของสังคม การเมือง สวัสดิการ
และ อุปนิสัยของคนของประเทศนั้นๆ
___________________________
หาก จขกท หรือ คห 39 หรือ คห อื่นๆ สนใจที่จะอ่านความคิดเห็นต่างๆ ของเรา เกี่ยวกับเมืองต่างๆ ประเทศต่างๆ
ที่เราเคยตอบเอาไว้ในพันทิป สามารถจิ้มไปที่หมายเลขสมาชิกของเราได้เลย
เราเป็นคนไทยอีกคนหนึ่ง ที่มีโอกาสได้เดินทางทั่วโลก หรือ เคยอาศัยอยู่ในหลายเมือง หลายทวีป
และ ยังอาศัยอยู่ในประเทศไทยด้วย
🌟🌏🌎🌍🌟
แสดงความคิดเห็น
ประเทศไหนในโลก ที่เป็นความฝันเป้าหมายสูงสุดของเพื่อนๆ ในการท่องเที่ยว
ต้องไปให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิตก่อนตาย จะทำมันให้สำเร็จ
ตามรอยแฮร์รี่พอตเตอร์ + ถ่ายรูปคู่บิ๊กเบน + ไปดูสโตนเฮนจ์ที่ใช้เป็น Wallpaper Desktop Windows XP