ผิดไหม ที่รำคาญคนถามทุกเรื่องเกี่ยวกับลูก

เรามีญาติ(ลูกพี่ลูกน้อง)ที่ภรรยาเค้าพึ่งคลอดลูกหลังเราไม่กี่เดือน ก่อนหน้าก็ไม่ค่อยได้คุยกัน มีกดไลค์กันไปมาแค่ในเฟส จนได้มาคุยกันจริงๆจังก็ตอนท้อง เพราะท้องไล่ๆกัน เราเองก็คุยกันตามประสาว่าที่คุณแม่ เราคลอดก่อนเค้าห้าเดือน ก่อนเค้าคลอดก็มีจะมาถามเราเรื่อยๆ เช่น ใช้แพมเพิร์สตอนไหน ตั้งแต่ที่
โรงพยาบาลเลยไหม หรือมาใช้หลังกลับบ้าน , ต้องเตรียมเสื้อผ้าเด็กอ่อนไปไหม ฯลฯ จนเค้าคลอด เค้าก็หลังไมค์มาหาเราบ่อย เราเข้าใจตามประสาคุณแม่มือใหม่ ช่วงแรกมีโทรหาเราห้าทุ่ม เราก็ยังไม่ได้นอนเพราะให้นมลูก ก็ยังพอรับสายได้

จนมาถึงวันที่เราเริ่มกลับมาทำงานวันแรก เรามาเริ่มงานที่ใหม่เพราะงานที่เก่าหมดสัญญาตอนเราใกล้คลอด เราก็เลยหยุดยาวเลยหกเดือน
วันแรกที่เราไปทำงาน วันนั้นมีงานด่วน เพราะรออิเมล์จากต่างประเทศ เราออกจากออฟฟิศสี่ทุ่ม มือถือเราก็ไม่ได้หยิบมาดู พอเปิดมาเราก็ตกใจ เพราะทั้งสองคนสามีภรรยากระหน่ำส่งข้อความมาหาเรา มีโทรทาง messenger ด้วย เพียงเพราะจะถามว่า แม่เราโกนผมไฟเป็นไหม (คือตัวสามีอยากโกนตอนลูกครบหนึ่งเดือน แต่ภรรยาเกรงว่ายังเล็กไป ยังไม่อยากโกน) พอมาอีกวันนึง เราทำงานอยู่ พี่สะใภ้ส่งข้อความมาว่า น้อง...เป็นหวัด เราก็ตอบไปว่า อ่อทุบหัวแดงแล้ววางบนหัวน้องดู (เราก็บอกตามที่แม่เราทำตอนลูกเราเป็นหวัด) , แล้วก็มีคำถามอีกว่า เราได้เช็ดทำความสะอาดปากลูกเราไหม เราก็บอกว่าเช็ด ใช้ผ้าสาลูพันนิ้วชุบน้ำอุ่นต้มสุกเช็ดทำความสะอาดค่ะ เค้าตอบมาว่าลูกเค้าปากเล็กมากไม่กล้าเช็ด เราก็ไม่รู้จะตอบยังไงก็เงียบไป

พอลูกเค้าอายุครบเดือนนึง ก็มาถามเราว่าตอนลูกเราอายุเท่าลูกเค้า เราเล่นอะไรกัน เราก็บอกไปว่าเล่นอะไร หรือไม่ก็ให้ลองหาในเนตดู พูดกับลูกเยอะๆ
เล่นกับเค้าเยอะ ๆ เค้าก็บอกว่าเค้าคุยไม่เก่ง  

เราเจอแบบนี้แทบทุกวัน จนเค้าโพสว่าลูกเค้าไม่สบายเป็นหวัด เราก็ไปถามว่าเป็นยังไง ไปหาหมอที่ไหน เค้าก็มาถามว่าลูกเราทำประกันกับที่ไหน ราคาเท่าไหร่ ซึ่งบอกก่อนนะคะว่าเรื่องประกันเราเคยคุยกันตั้งแต่ก่อนเค้าคลอด ตัวสามีอยากทำ แต่ภรรยาบอกว่าเค้าเบิกที่ทำงานได้ สรุปเค้าก็ยังไม่ได้ทำ จนน้องเข้า รพ. เค้าก็อยากทำ เราให้เบอร์ตัวแทนไป กับเพื่อนเราอีกคนที่ขายประกัน วันรุ่งขึ้นเราก็ไปถามว่าหลานเป็นยังไงบ้าง เค้าก็บอกว่าหมอให้กลับบ้านได้ เป็นหวัดธรรมดาไม่พบ RSV ให้คอยดูดเสมหะเอา แต่เค้าอยากให้ลูกอยู่ต่อ ยังไม่อยากให้กลับบ้าน เพราะเค้าไม่ใช่หมอ กลัวดูดเสมหะไม่เป็น แล้วก็บอกว่าไม่มีตัวแทนติดต่อหาเค้าเลย โทรหาเพื่อนเรา เพื่อนเราไม่ได้รับ เราติดต่อให้ได้ไหม แล้วก็โทร messenger มาหาเราเลย ซึ่งเราทำงานอยู่เราก็ตัดสายทิ้ง และเราเคยบอกก่อนหน้าแล้วว่าเราแอบแชทเอา แต่ไม่สะดวกรับสาย เพราะเราก็พึ่งมาทำงานใหม่ด้วย  เราก็แอบแชทไปหาเพื่อนให้ เพราะเราเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่นะ

พอเพื่อนเราทักไป เค้าบอกว่าทำกับเพื่อนไปแล้ว เราก็เลยไปถามเค้าว่าตกลงทำประกันยัง เค้าบอกคุยกับเพื่อนอยู่
พูดตรงๆ ความอดทนที่เราสะสมมามันก็หมดลง เราก็เลยบอกไปว่าตกลงแล้วมันยังไง มาเร่งๆ โทรๆหาเราให้เราติดต่อให้ คือถ้าจะทำเองก็หาเองเถอะ
จะซื้อไม่ซื้อไม่เกี่ยวกับเรา เราไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอยู่แล้ว

หลังจากวันนั้นเค้าไม่เคยมาถามไรเราอีกเลย แล้วก็มาซ่อนโพส ซ่อนภาพในเฟสไม่ให้เราเห็น เรารู้เพราะว่าแม่เราเห็นโพสเค้า แม่เราก็คุยว่าเออเค้าลงภาพหลานนั่นนี่  เราเลยไปถามเค้าตรงๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมต้องมาทำไรแบบนี้ เค้าบอกว่าที่ไม่อยากให้เราเห็นเพราะกลัวตัวเองเสียใจ วันนั้นโดนเราต่อว่าเค้าเสียใจ ร้องไห้ (อ่อ เค้าจะเอาลูกมาฝากแม่เราเลี้ยงสักสองสามเดือน รอให้โตสักหน่อยแล้วจะเอาเข้าเนิร์สเซอรี่ )

เราก็พึ่งรู้ว่าเค้าคิดยังไงก็ตอนที่เราไปถามนี่แหละ ญาติเราเค้าบอกว่า ถ้าเราไม่อยากให้แม่เราเลี้ยงลูกเค้าไม่ต้องมาทำพฤติกรรมแบบนี้ เราก็งงดิ พฤติกรรมอะไรหว่า จนคุยกับพี่สะใภ้ เค้าบอกว่า พี่ชายเราคิดว่าการที่เราไปถามเค้าบ่อยๆ ว่าหลานเป็นอะไรยังไงบ้าง เค้าคิดว่าเราคงรังเกียจกลัวว่าลูกเราจะติดหวัดจากลูกเค้า เราแบบเงิบไปเลย คิดได้ยังไงเนี่ยยยย พอคุยกันตรงๆว่ามีอะไรที่ติดค้างคาใจกันแล้ว พี่สะใภ้เราก็กลับมาเหมือนเดิม เลิกซ่อนโพสเรา และกลับมาถามเราเหมือนเดิม ล่าสุดก็ ลูกไปฉีดวัคซีนมา อาบน้ำเลยได้ไหม เฮ้ออออ เราอยากจะถามกลับนะว่าได้ถามพยาบาลหรือเปล่า แต่ก็นะ คำว่าญาติมันค้ำคอ ถามแบบนั้นก็หักหาญน้ำใจกันอีก

ระบายมายาวมากกกกก ไม่รู้ว่ามีใครเคยเจออะไรแบบนี้บ้างไหม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่