เมื่อวานค่ะ เป็นวันเกิดพี่สาวเรา พี่สาวได้ฝากฝังให้เราหาร้านอาหารดีๆราคาย่อมเยาว์ เพื่อจะไปกินฉลองวันเกิดและถ่ายรูปเล่นกันสองคน เราก็หามานานพอสมควรด้วยความที่งบประมาณมีจำกัด เราจึงใช้เวลาเลือกเฟ้นอยู่นาน จนได้มาเจอร้านนี้
จากที่อ่านรีวิวเรื่องบริการที่ดีและการตกแต่งร้านสไตล์สวนอังกฤษ ทำให้เราบากหน้าหอบลูกหอบหลานนั่งรถเมล์มาต่อมอไซด์ไรไปอีก เหนื่อยแต่ถอยไม่ได้แล้วเพราะเป็นวันเกิดพี่สาว
เมื่อมาถึง ร้านก็สวยสมใจเลย ก็ถ่ายรูปเล่นกันบลาๆ ด้วยความที่ใช้พลังงานในการเดินทางค่อนข้างเยอะเราจึงหิวมาก เข้าร้านไปสั่งบุพเฟ่ต์ในราคา259+รีฟิลน้ำ39บาท 2ท่าน และราคาเด็ก159+รีฟีลน้ำ39บาท อีก1ท่าน มีเด็กเล็กไม่คิดเงินอีก1(ร้านมีหลายราคา)
ด้วยความที่มาครั้งแรกจึงไม่รู้ปริมาณอาหารบวกกับเห็นรีวิวว่าอาหารแต่ละถาดค่อนข้างน้อย จึงสั่งอาหารมารวดเดียวหลายคอนโดมาก จนล้นโต๊ะเลยใช้วิธีรวมอาหารเข้าด้วยกันและเรียกพนักงานมาเก็บถาด
แรกๆก็ยังไม่เห็นยังถ่ายรูปอาหารกะจะมารีวิวให้ เพราะประทับใจบริการพนักงานที่ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่!!! สิ่งนี้ก็เกิดขึ้น เมื่อสายตาชำเลืองไปเห็นก้อนปริศนา ลักษณะเหมือนขี้ของสัตว์ในตลาดสด
เราเริ่มอึ้ง หันไปมองพี่สาว พี่สาวนี่แบบแต่งหน้าทำผมทุ่มเทหอบลูกมาเพื่อสิ่งนี้อ่ะ แบบกำลังฟินยิ้มแป้นขอบอกขอบใจที่เราพามาที่สวยๆดีๆแบบนี้ คือวินาทีนั้นเราอึ้งมันแบบพูดไม่ออกบอกไม่ถูก พี่สาวก็บอกให้รีบกินจะได้พลัดกันดูหลาน เค้าก็รอจะกินมั่ง เราก็แบบต้องจำใจกินต่อไป
คิดสักพักก็ตัดสินใจเรียกพนักงานมาถาม และชี้ใช้ดูวัตถุแปลกปลอมนั้น พนักงานขออภัยและเก็บสิ่งนั้นไป แล้วถามจะเปลี่ยนใหม่มั้ย ตอนนั้นก็ตอบว่าไม่เอาแล้วค่ะ (ณจุดนี้ควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการเปลี่ยนหม้อและอาหารทั้งหมดให้เราเป็นอย่างน้อยป้ะ แต่เค้าซุบซิบกันมองมาที่เราคนเดียวเหมือนเราพกขี้มาจากบ้านเองเลยอ่ะ มองจนเรารู้สึกแย่)
กลับมาที่เราที่รู้สึกไม่เหมือนเดิมแล้วอยากพาพี่กลับเดี๋ยวนั้น หันมองไปรอบๆร้านอยากบอกทุกคนว่า เราไม่โอเค!!! อยากเตือนคนในร้านว่า มันไม่ได้สะอาดอย่างที่ตาเห็น แต่ไม่กล้าอ่าา คือมองไปรอบๆแล้วแบบไม่กล้าจริงๆ อารมณ์เหมือนโต๊ะหลังร้านนี่พนักงานบริษัทเหมายาวสุด คือพวกเค้าดูเอ็นจอยกันอ่ะแบบมาเป็นสิบกว่าคน เราขอโทดทุกคนในร้านด้วยนะคะ ที่มีความกล้าไม่พอ
คือถ้ามันเป็นมูลของสัตว์จริง พวกเราทุกคนในร้านมีสิทธ์ติดเชื้อโรคได้เลยไง เพราะมันไม่ใช่สิ่งเล็กๆที่เราพบ แต่มันเป็นความสะอาดและมาตฐานที่ต่ำมาก ซึ่งไม่ควรมีใครได้รับมันจริงมั้ย?
ถึงแม้พนักงานจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการ*กระซิบ*บอกเราว่าจะลดราคาให้เรา20เปอร์เซ็นกับสิ่งที่เกิดขึ้น (คือแจ้งตอนเรียกเช็คบิลเรียบร้อยแล้วนะคะ แบบถือถาดเงินทอนมาแล้วค่อยพูด คือเค้าไปปรึกษากันแล้วว่าจะเลือกใช้วิธีรับผิดชอบแบบนี้) เราก็ไม่โอเค
แต่สถาณการณ์ตอนนั้นสำหรับเราคือเราเก็บไว้ในใจคนเดียว จน...ปวดเขร้!! ระหว่างเดินทางนั่งรถเมล์กลับ จึงเล่าให้พี่สาวฟัง พี่เราโกรธมากบอกว่าทำไมเราถึงไม่เตือนปล่อยให้เค้าและคนอื่นกินต่อไป แล้วการรับผิดชอบเพียงแค่ลดค่าอาหาร20เปอร์เซ็นเป็นการรับผิดชอบที่แย่มาก เหมือนหลอกลูกค้าคนอื่นให้กินของสกปรกต่อไป ทำแค่เพียงเฉพาะหน้า ควรจะเรียกผู้จัดการร้านมาคุยและแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้
เรากลับมาก็ท้องเสียโครกครากเลยค่ะ นึกอารมณ์ออกป้ะ คือต้องนั่งรถเมล์กลับและต้องอั้นไว้ตั้งกี่ชั่วโมงกว่าจะถึงบ้านอ่ะ มันแบบเหี้ยมมาก แต่ไม่ได้ไปหาหมออะไรจนเช้ามาเล่าให้แฟนฟัง แฟนด่าให้ความควายที่ไม่กล้าโวยวายของเรา และบอกว่าถึงมันจะเป็นเหมือนขี้ก้อนเล็กๆก้อนเดียว แต่นั่นก็หมายถึงว่ามันใช้ชีวิตอยู่ในครัวนั้นแล้ว จะมีอีกกี่ตัวเราก็ไม่อาจรู้ ถ้ามันวิ่งกันเป็นสวนสนุกเลยเวลาเราไม่เห็นหล่ะทำไง พูดแล้วก็หยึ๋ยยยย
...แต่ก็นะเราเป็นเพียงผู้บริโภคตัวลีบๆ เราคงไม่กล้าไปเอะอะกับร้านที่มีหลายสาขาแบบนั้นหรอก
(แต่ก็แอบเก็บหลักฐานเหมือนกันนะ) เราอยากรู้ว่า ถ้าเป็นคุณคุณจะทำยังไง??
เมื่อวานเจอสิ่งแปลกปลอม ชาบูร้านดัง
เมื่อมาถึง ร้านก็สวยสมใจเลย ก็ถ่ายรูปเล่นกันบลาๆ ด้วยความที่ใช้พลังงานในการเดินทางค่อนข้างเยอะเราจึงหิวมาก เข้าร้านไปสั่งบุพเฟ่ต์ในราคา259+รีฟิลน้ำ39บาท 2ท่าน และราคาเด็ก159+รีฟีลน้ำ39บาท อีก1ท่าน มีเด็กเล็กไม่คิดเงินอีก1(ร้านมีหลายราคา)
ด้วยความที่มาครั้งแรกจึงไม่รู้ปริมาณอาหารบวกกับเห็นรีวิวว่าอาหารแต่ละถาดค่อนข้างน้อย จึงสั่งอาหารมารวดเดียวหลายคอนโดมาก จนล้นโต๊ะเลยใช้วิธีรวมอาหารเข้าด้วยกันและเรียกพนักงานมาเก็บถาด
แรกๆก็ยังไม่เห็นยังถ่ายรูปอาหารกะจะมารีวิวให้ เพราะประทับใจบริการพนักงานที่ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่!!! สิ่งนี้ก็เกิดขึ้น เมื่อสายตาชำเลืองไปเห็นก้อนปริศนา ลักษณะเหมือนขี้ของสัตว์ในตลาดสด
เราเริ่มอึ้ง หันไปมองพี่สาว พี่สาวนี่แบบแต่งหน้าทำผมทุ่มเทหอบลูกมาเพื่อสิ่งนี้อ่ะ แบบกำลังฟินยิ้มแป้นขอบอกขอบใจที่เราพามาที่สวยๆดีๆแบบนี้ คือวินาทีนั้นเราอึ้งมันแบบพูดไม่ออกบอกไม่ถูก พี่สาวก็บอกให้รีบกินจะได้พลัดกันดูหลาน เค้าก็รอจะกินมั่ง เราก็แบบต้องจำใจกินต่อไป
คิดสักพักก็ตัดสินใจเรียกพนักงานมาถาม และชี้ใช้ดูวัตถุแปลกปลอมนั้น พนักงานขออภัยและเก็บสิ่งนั้นไป แล้วถามจะเปลี่ยนใหม่มั้ย ตอนนั้นก็ตอบว่าไม่เอาแล้วค่ะ (ณจุดนี้ควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการเปลี่ยนหม้อและอาหารทั้งหมดให้เราเป็นอย่างน้อยป้ะ แต่เค้าซุบซิบกันมองมาที่เราคนเดียวเหมือนเราพกขี้มาจากบ้านเองเลยอ่ะ มองจนเรารู้สึกแย่)
กลับมาที่เราที่รู้สึกไม่เหมือนเดิมแล้วอยากพาพี่กลับเดี๋ยวนั้น หันมองไปรอบๆร้านอยากบอกทุกคนว่า เราไม่โอเค!!! อยากเตือนคนในร้านว่า มันไม่ได้สะอาดอย่างที่ตาเห็น แต่ไม่กล้าอ่าา คือมองไปรอบๆแล้วแบบไม่กล้าจริงๆ อารมณ์เหมือนโต๊ะหลังร้านนี่พนักงานบริษัทเหมายาวสุด คือพวกเค้าดูเอ็นจอยกันอ่ะแบบมาเป็นสิบกว่าคน เราขอโทดทุกคนในร้านด้วยนะคะ ที่มีความกล้าไม่พอ
คือถ้ามันเป็นมูลของสัตว์จริง พวกเราทุกคนในร้านมีสิทธ์ติดเชื้อโรคได้เลยไง เพราะมันไม่ใช่สิ่งเล็กๆที่เราพบ แต่มันเป็นความสะอาดและมาตฐานที่ต่ำมาก ซึ่งไม่ควรมีใครได้รับมันจริงมั้ย?
ถึงแม้พนักงานจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการ*กระซิบ*บอกเราว่าจะลดราคาให้เรา20เปอร์เซ็นกับสิ่งที่เกิดขึ้น (คือแจ้งตอนเรียกเช็คบิลเรียบร้อยแล้วนะคะ แบบถือถาดเงินทอนมาแล้วค่อยพูด คือเค้าไปปรึกษากันแล้วว่าจะเลือกใช้วิธีรับผิดชอบแบบนี้) เราก็ไม่โอเค
แต่สถาณการณ์ตอนนั้นสำหรับเราคือเราเก็บไว้ในใจคนเดียว จน...ปวดเขร้!! ระหว่างเดินทางนั่งรถเมล์กลับ จึงเล่าให้พี่สาวฟัง พี่เราโกรธมากบอกว่าทำไมเราถึงไม่เตือนปล่อยให้เค้าและคนอื่นกินต่อไป แล้วการรับผิดชอบเพียงแค่ลดค่าอาหาร20เปอร์เซ็นเป็นการรับผิดชอบที่แย่มาก เหมือนหลอกลูกค้าคนอื่นให้กินของสกปรกต่อไป ทำแค่เพียงเฉพาะหน้า ควรจะเรียกผู้จัดการร้านมาคุยและแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้
เรากลับมาก็ท้องเสียโครกครากเลยค่ะ นึกอารมณ์ออกป้ะ คือต้องนั่งรถเมล์กลับและต้องอั้นไว้ตั้งกี่ชั่วโมงกว่าจะถึงบ้านอ่ะ มันแบบเหี้ยมมาก แต่ไม่ได้ไปหาหมออะไรจนเช้ามาเล่าให้แฟนฟัง แฟนด่าให้ความควายที่ไม่กล้าโวยวายของเรา และบอกว่าถึงมันจะเป็นเหมือนขี้ก้อนเล็กๆก้อนเดียว แต่นั่นก็หมายถึงว่ามันใช้ชีวิตอยู่ในครัวนั้นแล้ว จะมีอีกกี่ตัวเราก็ไม่อาจรู้ ถ้ามันวิ่งกันเป็นสวนสนุกเลยเวลาเราไม่เห็นหล่ะทำไง พูดแล้วก็หยึ๋ยยยย
...แต่ก็นะเราเป็นเพียงผู้บริโภคตัวลีบๆ เราคงไม่กล้าไปเอะอะกับร้านที่มีหลายสาขาแบบนั้นหรอก
(แต่ก็แอบเก็บหลักฐานเหมือนกันนะ) เราอยากรู้ว่า ถ้าเป็นคุณคุณจะทำยังไง??