ในคืนวันโกน

ก่อนอื่นต้องขออกตัวก่อนเลยนะครับว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนี้โปรดใช้วิจารณยานในการอ่านค่อนข้างมาก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง แต่ต้องมาแต่งขึ้นมาในแนวเรื่องแต่งขึ้นเพื่อปกปิดชีวิตจริงและความเป็นส่วนตัวนะครับ ถ้าใครไม่เชื่อก็ถือว่ามาอ่านเรื่องแต่งขึ้นเล่นๆละกันนะครับ

...............................................

       ในช่วงเวลาที่ยังเด็ก ผมมักถูกเตือนอยู่สองเรื่องว่า

       ในคืนวันพระและก่อนวันพระนั้น ไม่ให้ออกไปเล่นนอกบ้าน  ตั้งแต่ช่วงเวลาเย็นเป็นต้นไป ซึ่งตอนนั้นยังเด็กก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ พอโตขึ้นมากว่านั้นอีกสักหน่อยยังงงว่าทำไมต้องเป็นแบบนั้น  แต่ก็ไม่ได้คิดมากอีกทั้งเป็นเด็กที่ไม่ชอบออกกำลังกายอยู่แล้ว เลยไม่มีปัญหาอะไร

        กับอีกเรื่องห้ามเล่นซ่อนหาเวลากลางคืน  เพราะจะมาบางสิ่งหรือที่เรียกว่าผีจะมาเล่นด้วย  และจะมาบังทางไม่ให้เราเห็นคนอื่นๆ  และคนอื่นๆก็จะไม่เห็นเรา

       ในตอนเด็กก็เชื่อเป็นตุเป็นตระว่ามันเป็นเรื่องจริง เพราะความเชื่อเหล่านี้ก็ยังคงมีอยู่ ในต่างจังหวัด ผ่านประสบการณ์ต่างๆของผู้เฒ่าผู้แก่  และหลายๆสิ่งซึ่งสามารถหาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์อธิบายได้แล้ว  แต่ก็มีบางอย่างที่เป็นข้อที่ต้องพิสูจน์กันต่อไป

        พอโตขึ้นมาในช่วงวัยรุ่น เป็นวัยที่อยากรู้อยากเห็น หรือเริ่มที่จะไม่ค่อยเชื่อฟังคำของพระบิดาและพระมารดา หรือผู้เฒ่าผู้แก่ ก็เริ่มที่จะเปลี่ยนไป และสนใจคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น  

        ต้องย้อนกลับไปในช่วงชีวิตวัยที่อาศัยอยู่ในแถบและในถิ่นมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งของประเทศไทย  แม้จะไม่ไกลจากปัจจุบันนี้มาก  แต่ความแตกต่างในช่วงไม่กี่ปีมานี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดอยู่เหมือนกัน

       เป็นคืนฤดูร้อน ที่เงียบ เนื่องจากนักศึกษาส่วนใหญ่กลับบ้าน ช่วงปิดเทอมก่อนซัมเมอร์แม้จะหยุดไม่ยาวมากนัก นักศึกษาส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะกลับบ้านมากกว่าอยู่ภายในมหาวิทยาลัยต่อ จึงทำให้มหาวิทยาลัยเงียบลงอย่างถนัดตา เป็นทั้งภายในมหาวิทยาลัยเอง และบริเวณรอบๆด้วย เช่นกัน

        มีกลุ่มนักศึกษากลุ่มหนึ่งได้เช่าบ้านอาศัยอยู่ร่วมกัน บ้านที่เช่าอยู่นั้นอยู่ไม่ไกลจากรัวมหาวิทยาลัยเท่าไร แต่ระยะทางที่คดไปมาเลยทำให้ รู้สึกว่าอยู่ไกลพอสมควร  ถนนทางเข้าบ้านที่เช่านั้นเป็นถนนคอนกรีต แต่ไหลทางทั้งสองข้างนั้นกลับไม่ค่อยมีสิ่งปลู่สร้าง ถึงมีแต่ต้นไม้ บ้านสักหลังก็ไม่ได้ปลูกอยู่ติดกัน ห่างกันพอสมควรก่อนที่จะหนึ่งหมู่บ้านเล็กๆไม่กี่หลัง ที่ปลูกอยู่ใกลกัน เนื่องพิษเศรษฐกิจตอนปี 40 เลยทำให้ที่แถบนี้เลยเว้นจากการพัฒนาต่อ

         บ้านที่พวกผมเช่าหลังนี้เป็นบ้านที่เหล่าเศษฐีเขาเกรงกำไรไว้ แต่เกิดวิกฤต 40 ก่อนเลยทำให้ หลายๆหลังยังไม่มีคนมาซื้อ หรือซื้อไว้ยังไม่เข้ามาอยู่ เพราะไม่มีเงินซื้อของเข้ามาอยุ่ในบ้านหลายๆหลังได้

         ผมและเพื่อนๆเป็นเด็กต่างจังหวัดที่บ้านพอมีฐานะบางแต่ก็ไม่ได้รวยอู้ฟู่ที่จะซื้ออะไรที่เกินความจำเป็นได้นัก แค่พออยู่พอกิน การมีราชรถคือรถจักรยานยนต์ จึงไม่เป็นปัญหาสำหรับการเดินทาง ที่จะเข้าออกบ้านเช่าหลังนี้

         คืนนี้เป็นคืนเดือนมืด ที่ไร้ลมพัด และไร้เสียงแมลงกรีดร้องใดๆ ซึ่งต้องถือเป็นเรื่องที่แปลกมาก(มากๆๆๆๆๆ)ในตอนนั้น แต่ก็ยังคิดไม่ออกว่าแปลกยังไง เนื่องด้วยประสบการณ์เรื่องผียังน้อยนิด บวก เชื่อเรื่องวิทยาศาสตร์มากกว่า เลยทำให้ไม่คิดว่าจะมีอะไรที่กำลังจะมา คิดเพียงแค่ว่าผิดปกตินิดหน่อยเท่านั้นเอง

         ลืมบอกไปว่าได้เช่าบ้านอยู่กับเพื่อน 4 คน เป็นเพื่อนสนิทที่เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน มี นก ไม้ โจ และผม(เอส) ที่ออกมาเช่าบ้านเพราะไม่ชอบกฎเกณฑ์ของหอ และค่าไฟที่ค่อนข้างแพง รวมๆแล้วถ้าเช่ากัน 4 คนแบบนี้ หารกันก็จะประหยัดมากกว่า

          อยู่ๆคืนนั้นทุกๆอย่างก็ช่างเป็นใจเหลือเกิน เริ่มจากอินเตอร์เน็ตที่เล่นได้ในช่วงเย็นกลับไม่มีสัญญาณ (สมัยนั้นอินเตอร์เน็ตยังไม่ดีเท่าตอนนี้ แล้วอย่าพูดถึง 4G เลยตอนนั้น แค่ 2G ให้มันชัดก็ดีแล้ว) โทรไปหาศูนย์ก็บอกว่าสายล้ม ช่างกำลังแก้ไขอยู่ ไม่สามารถบอกเวลาแก้ไขเสร็จได้ อันนี้ก็เซงแล้วรอบหนึ่ง รายการทีวีก็มีแต่รายการที่น่าเบื่อ อันนี้ก็เซงอีกรอบ

         ไอ้เพื่อนสามตัวดีเห็นว่าคืนนี้ไม่มีลมบวกกับอยู่เฉยๆไม่รุ้จะทำอะไรจึงชวนไปตีแบต ตีที่นอกบ้าน(ไกลมาก) อาจเป็นเพราะว่าพวกมันพึ่งรู้ว่า ผมพึ่งผ่านประสบการณ์เห็นผีในมอมา พวกมันกลัวผมเห็นอีก (แต่ในความคิดของผมพวกมันนั้นละกลัวผีเลยไม่กล้าเข้าไปในมอ) ช่วงนั้นเวลาหัวค่ำประมาณ 1-2 ทุ่มนี้ละมั่ง ก็พากันยกโขยงกันออกมาที่หน้าบ้าน เปิดไฟทุกดวงตรงหน้าบ้านเพื่อให้แสงสว่างพอที่จะได้มองเห็นลูกแบตสีขาวอันเล็กได้อย่างชัดเจน

         ไอ้นกกับไม้อยู่ทีมเดียวกัน ผมอยู่กับไอ้โจ หลังจากกันเขตแดนเสร็จ ไม่ยากครับเอาบล็อคคอนกรีตนี้ละครับ เป็นตัวแบ่งเขต พอเริ่มตีแบตกันได้สักพัก ช่วงเวลาสนุกสนานก็ผ่านไปเรื่อยมาจนถึงเวลาประมาน 4 ทุ่มกว่าๆ เนื่องจากตรงข้ามบ้านที่เช่าอยู่นั้นเป็นที่เปล่าไม่มีสิ่งปลูกสร้าง มีแต่โรงเก็บรถเก่าๆเก็บรถไว้หนึ่งคัน  ของคนข้างบ้าน ที่ไม่ค่อยจะมาอยู่เท่าไร นานๆก็จะเห็นมาที ซึ่งโรงเก็บรถนั้นก็ไม่ได้ใช้งานนานแล้ว และริมรั่วมีต้นกล้วยที่มีตำนานอยู่(วันหลังจะเล่าให้ฟัง) ผมก็เริ่มสังเกตเห็นใบกล้วยเริ่มไหวไปมา

           ในนาทีแรกคิดว่าเป็นลมพัดธรรมดาเลยไม่สนใจอะไร ก็ตีแบตเล่นต่ออย่างสนุกสนานพร้อมเสียงดังของกลุ่มเด็กหนุ่ม ไอ้หมาบ้านถัดไปก็เริ่มส่งเสียงเห่า เห่าแบบไม่หยุด จนเจ้าของมันก็ออกมาสั่งให้มันหยุดมันก็ไม่หยุด เลยกลับเข้าไปในบ้านเอาขนมมาล่อมันให้มันหยุดเห่า  เพราะเกรงใจคนระแหวกบ้าน ซึ่งมันก็หยุดเห่าลงจริงๆ ในทันใดนั้น เหมือนเขาจะเห็นอะไรบางอย่าง ก็รีบลากหมากลับเข้าไปในบ้าน ให้มันผิดสังเกต

        เหมือนมีอะไรก็ไม่รู้มีอะไรดลใจให้สังเกตที่ใบกล้วยนั้นอีกครั้ง ถ้าในเวลาปกติ  เวลาที่ลมพัด ต้นไม้ทั้งต้นรวมถึงใบทั้งหมดมันสั่นไหวไปตามแรงลม แต่ในเวลานี้มีเพียงใบกล้วยใบเดียวที่สั่น ผมเองเริ่มผิดสังเกตบาง แต่ยังไม่ได้สนใจอะไรเนื่องจากห่างหายการเห็นผีมาสักพักใหญ่ ก็ตีแบตกับเพื่อนต่อซึ่งด้านที่ผมตีนั้นหันหน้าเข้ากับต้นกล้วยพอดี ขณะทีตีเบาๆแต่ลูกนั้นกลับดันไกลถึงบริเวณต้นกล้วย แต่มันก็ไม่ได้ใกล้มาก ประมาณ 6 เมตรมั่ง ผมก็เริ่มสังหรณ์ใจไม่ดีแล้ว  เหมือนเห็นภาพทับซ้อนกัน ขณะที่ไอ้ไม้ก้มลงเก็บลูกแบต ในจังหวะที่กำลังก้มลงนั้น แม้จะไม่กี่วินาที ร่างสีดำๆสูงประมาณ 2 เมตร แขนยาวถึงพื้น ขาเล็กรีบบาง สายตาที่เขามองไปยังลูกแบตแล้วก็เงยหน้าขึ้นมามองผม เหมือนสายตาประสานกัน

งั้นฝากเพจโสดแบบหมาด้วยเลยละกันนะครับ จะได้คิดว่าเป็นเรืองที่แต่งขึ้นไปเลยเนอะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่