กลางเดือนสิบ ต้นไม้เริ่มแห้ง ใบไม้ร่วงกรอบกรังใต้เท้า “ยิ่ง” นักล่าสัตว์มือเก๋า แบกปืนลูกซองขึ้นบ่า เข้าป่าลึกตามลำพังตั้งแต่เช้ามืด
วันนี้เขาไม่ได้ล่าสัตว์อย่างเดียว... แต่ตั้งใจจะตามหาพื้นที่ลับที่ชาวบ้านพูดกันหนาหู “ป่าหลอน” ที่ไม่มีใครกล้าก้าวเข้าไป
“ก็แค่เรื่องเล่า ถ้าผีมันมีจริง ป่านนี้คงโดนยิงตายหมดแล้ว” ยิ่งหัวเราะในลำคอ มือขยับเช็กกระสุนอย่างคล่องแคล่ว
เสียงนกเงียบไปทันทีที่เขาก้าวเข้าสู่เขตห้ามของป่า... ลมเย็นวูบหนึ่งพัดมา ทั้งที่แดดยังเปรี้ยงๆ อยู่
จู่ๆ ก็ได้กลิ่นคาวเลือดจางๆ ลอยมาตามลม ยิ่งยกปืนขึ้นเตรียมพร้อม ก้าวต่อไปช้าๆ หูฟังเสียงทุกฝีเท้า
แคร่ก...!
เสียงกิ่งไม้หักด้านหลัง เขาหันขวับไปยิง — ปัง!!
แต่ไม่มีอะไรเลย...
ตอนนั้นเอง เขาเริ่มเห็น “เงา” คนยืนอยู่ตามต้นไม้ ห่างไปไม่กี่เมตร มันไม่ขยับ ไม่พูด ไม่หายใจ
ยิ่งตะโกน “ใครวะ!” แต่ไม่มีเสียงตอบ
เขายิงซ้ำไปอีกนัด — ปัง! เงาหายไปเฉยๆ
เหงื่อเริ่มซึมหลังคอ เสียงกระซ
รู้ว่ามันเจอผีเราต้องทำยังไง
วันนี้เขาไม่ได้ล่าสัตว์อย่างเดียว... แต่ตั้งใจจะตามหาพื้นที่ลับที่ชาวบ้านพูดกันหนาหู “ป่าหลอน” ที่ไม่มีใครกล้าก้าวเข้าไป
“ก็แค่เรื่องเล่า ถ้าผีมันมีจริง ป่านนี้คงโดนยิงตายหมดแล้ว” ยิ่งหัวเราะในลำคอ มือขยับเช็กกระสุนอย่างคล่องแคล่ว
เสียงนกเงียบไปทันทีที่เขาก้าวเข้าสู่เขตห้ามของป่า... ลมเย็นวูบหนึ่งพัดมา ทั้งที่แดดยังเปรี้ยงๆ อยู่
จู่ๆ ก็ได้กลิ่นคาวเลือดจางๆ ลอยมาตามลม ยิ่งยกปืนขึ้นเตรียมพร้อม ก้าวต่อไปช้าๆ หูฟังเสียงทุกฝีเท้า
แคร่ก...!
เสียงกิ่งไม้หักด้านหลัง เขาหันขวับไปยิง — ปัง!!
แต่ไม่มีอะไรเลย...
ตอนนั้นเอง เขาเริ่มเห็น “เงา” คนยืนอยู่ตามต้นไม้ ห่างไปไม่กี่เมตร มันไม่ขยับ ไม่พูด ไม่หายใจ
ยิ่งตะโกน “ใครวะ!” แต่ไม่มีเสียงตอบ
เขายิงซ้ำไปอีกนัด — ปัง! เงาหายไปเฉยๆ
เหงื่อเริ่มซึมหลังคอ เสียงกระซ