ปลายฝนต้นหนาวแบบนี้เที่ยวไหนดีนี่คือความคิดที่อยู่ในหัวและฝนก็ตกทุกวันหาข้อมูลไปเรื่อยๆเกิดสนใจเขาแหลมหญ้าขึ้นมาด้วยความที่มันใกล้และติดทะเลมว๊ากกก เลยโดนใจเข้าอย่างจังพอหันกลับมาดู Money ของตัวเอง (เห้อออออ) เลยตั้งงบไว้ที่ 1,000 บาท พออะไรเข้าที่เข้าทางก็จัดกระเป๋าพร้อมลุย ทริปนี้เป็นทริปลุยเดี่ยวเลยต้องหาข้อมูลให้แน่นเข้าไว้พลาดมาไม่มีใครช่วย งั้นก็เกาะล้อตามมาเล้ยยย
--- Day1 : 04/10/60 ---
07:00 น. แหกขี้ตาตื่นขึ้นมาและก็พบว่าฝนตก (ในใจตอนนั้นเริ่มคิดละจะไปดีมั้ยว๊าาา)
09:00 น. ฝนหยุดตกจ้าอาบน้ำแต่งตัวรีบออกจากบ้านโลดนั่งวินไปลง BTS แล้วเริ่มเดินทาง
10:15 น. และแล้วก็มาถึงสถานีขนส่งเอกมัย เดินเข้าไปโลด
ให้ทำการมองหาป้ายแบบนี้แล้วเดินไปทางขวามือช่องที่ 11 แล้วบอกเค้าว่าจะไปลง เขาแหลมหญ้า
รถออก 11:00 น. รถจะจอดที่ชานชะลา 25 คือสุดทางนู้นนนเลย
ได้บัตรไรไม่รู้มา 3 ใบ เยอะแยะไปหมด
รถออกจริงๆประมาณ 11:30 น. ช้ามากกกอยากรีบไปแล้ว หลังจากนั่งรถไปเรื่อยๆประมาณ 3 ชม. และแล้วเราก็มาถึงหน้าทางเข้า อช.เขาแหลมหญ้าแล้วจ้า ตื่นเต้นมากต้องคอยมาลุ้นว่าฝนจะตกมั้ยว๊าาา
หลังจากเสียค่าเข้าแล้วเราต้องเดินต่อไปอีกเพื่อไปที่ทำการอุทยานจ่ายค่ากางเต้นท์นะครับ
ระหว่างทางก็ร่มรื่นดี (ฝนเพิ่งตกไปหมาดๆเลยนะเนี่ย)
หลังจากจ่ายค่ากางเต้นท์แล้วก็เดินตามทางไปเรื่อยๆและแล้วก็มาถึงจุดทางแยกจะไปทางไหนดีน้อ เราเลือกขวาละกัน
ที่เลือกขวาเพราะมีร้านสวัสดิการ ร้านข้าวอยู่ใกล้ๆไม่ต้องเดินไกล (ข้าวต้องสั่งกับทางอุทยานมั้งไม่แน่ใจ แล้วเค้าจะเอามาส่ง) หลังจากกางเต้นท์เสร็จสั่งข้าวทันทีเพราะหิวมากไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้า สั่งมา 4 กล่อง (เผื่อตอนกลางคืนด้วย) ระหว่างรอข้าวเราก็เดินเล่นแถวๆนั้นซะหน่อย
หลังจากข้าวมาส่งปอบลงทันทีไม่ถ่ายมันละรูป รสชาติใช้ได้อร่อยดี กล่องละ 45 บาท (กระเพราไข่ดาว)
16:00น. ได้เวลาศึกษาธรรมชาติแล้วจ้า (เราเริ่มเดินจากท้ายไปหาต้นนะครับ)
ระหว่างทางจะเป็นทางเดินเลาะชายฝั่ง (โปรดระวังลื่นด้วย)
หลังจากนี้ใกล้จะเข้าป่าแล้วนะครับจะสลับกันป่าครึ่งทางชายฝั่งครึ่งทางนะครับ
จากจุดที่ 5 ไปจุดที่ 4 ทางชันเดินเหนื่อยนิดนึง
เอาล่ะจากนี้ไปจะเริ่มเป็นป่าแบบจริงจัง จากจุดที่ 3 - 1 อยู่ไม่ไกลกันเดินแปบๆก็ถึงแล้วว
***เดินในป่าอยู่คนเดียวเหมือนหลงป่าอ่ะจริงๆโคตรวังเวง (กลัวมีอะไรโผล่มา)***
และแล้วก็ทะลุออกมาถึงจุดเริ่มต้น
เดินกลับถึงเต้นท์ประมาณ 6 โมง พอดี ก็รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
ปล.ไฟไม่ติดนะจ๊ะต้องรีบอาบตอนสว่างๆ
หลังจากนั้นกินข้าวเสร็จนอนลูกเดียวและสุดท้ายฝนตกตอน 4 ทุ่ม ตกไม่หนักแต่ตกมาเรื่อยๆ
ปล.ถ้าใครกลัวกางเต้นท์แล้วน้ำจะซึมเข้าเต้นท์ไปกางด้านซ้ายก็ได้นะฝั่งนู้นมีศาลา ไว้หลบฝนได้ด้วย มันดีตรงนี้ล่ะ
แล้วก็หลับยาวแบบสบายจนถึงเช้า
--- Day 2 : 05/10/60 ---
ตื่นมาตอนตี 5 ครึ่ง ฝนก็ยังไม่หยุด ก่ะจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นซะหน่อย 7:30น. ฝนถึงจะหยุด เราเลยไปล้างหน้าแปรงฟัน ใครที่ตื่นสายๆเก็บของเข้าเต้นท์ให้หมดนะเพราะเจ้าฝูงลิงจะออกมาหาอาหารกัน
เดินเล่นถ่ายรูปอีกสักพักก็ได้เวลากลับแล้วจ้า
วันที่ 2 บอกตามตรงไม่ค่อยมีอะไรแล้ว เขาแหลมหญ้าวันเดียวก็เกินพอ แต่ใครอยากมานอนฟังเสียงคลื่นทะเลก็ควรมาเป็นอย่างยิ่งตอนกลับเราโทรเรียกรถตู้ให้มารับหน้าอุทยานได้นะจะได้ไม่ต้องต่อ 2 แถวไปลงขนส่ง
ปล.ภาพทั้งหมดถ่ายจากกล้อง OPPO R9S PRO
ก็ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
สรุปค่าใช้จ่ายในทริปนี้
ค่าวินมอไซด์ ไป-กลับ บ้าน-BTS 60 บาท
ค่า BTS 38 บาท
ค่ารถ ไป - กลับ กรุงเทพ - เขาแหลมหญ้า 440 บาท
ค่าเข้าอุทยาน 40 บาท
ค่ากางเต้นท์ 30 บาท
ค่าน้ำ 55 บาท
ค่าข้าว 180 บาท
รวมทั้งสิ้น : 843 บาท
สุดท้ายฝากไว้กับภาพนี้
ทริปหน้าเจอกันที่ ภูกระดึง - เชียงคาน นะครับ
{CR} Yak Ja Taew l EP.02 Khao Laem Ya Trip จุดทิ้งความรู้สึก
07:00 น. แหกขี้ตาตื่นขึ้นมาและก็พบว่าฝนตก (ในใจตอนนั้นเริ่มคิดละจะไปดีมั้ยว๊าาา)
09:00 น. ฝนหยุดตกจ้าอาบน้ำแต่งตัวรีบออกจากบ้านโลดนั่งวินไปลง BTS แล้วเริ่มเดินทาง
10:15 น. และแล้วก็มาถึงสถานีขนส่งเอกมัย เดินเข้าไปโลด
ให้ทำการมองหาป้ายแบบนี้แล้วเดินไปทางขวามือช่องที่ 11 แล้วบอกเค้าว่าจะไปลง เขาแหลมหญ้า
รถออก 11:00 น. รถจะจอดที่ชานชะลา 25 คือสุดทางนู้นนนเลย
ได้บัตรไรไม่รู้มา 3 ใบ เยอะแยะไปหมด
รถออกจริงๆประมาณ 11:30 น. ช้ามากกกอยากรีบไปแล้ว หลังจากนั่งรถไปเรื่อยๆประมาณ 3 ชม. และแล้วเราก็มาถึงหน้าทางเข้า อช.เขาแหลมหญ้าแล้วจ้า ตื่นเต้นมากต้องคอยมาลุ้นว่าฝนจะตกมั้ยว๊าาา
หลังจากเสียค่าเข้าแล้วเราต้องเดินต่อไปอีกเพื่อไปที่ทำการอุทยานจ่ายค่ากางเต้นท์นะครับ
ระหว่างทางก็ร่มรื่นดี (ฝนเพิ่งตกไปหมาดๆเลยนะเนี่ย)
หลังจากจ่ายค่ากางเต้นท์แล้วก็เดินตามทางไปเรื่อยๆและแล้วก็มาถึงจุดทางแยกจะไปทางไหนดีน้อ เราเลือกขวาละกัน
ที่เลือกขวาเพราะมีร้านสวัสดิการ ร้านข้าวอยู่ใกล้ๆไม่ต้องเดินไกล (ข้าวต้องสั่งกับทางอุทยานมั้งไม่แน่ใจ แล้วเค้าจะเอามาส่ง) หลังจากกางเต้นท์เสร็จสั่งข้าวทันทีเพราะหิวมากไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้า สั่งมา 4 กล่อง (เผื่อตอนกลางคืนด้วย) ระหว่างรอข้าวเราก็เดินเล่นแถวๆนั้นซะหน่อย
หลังจากข้าวมาส่งปอบลงทันทีไม่ถ่ายมันละรูป รสชาติใช้ได้อร่อยดี กล่องละ 45 บาท (กระเพราไข่ดาว)
16:00น. ได้เวลาศึกษาธรรมชาติแล้วจ้า (เราเริ่มเดินจากท้ายไปหาต้นนะครับ)
ระหว่างทางจะเป็นทางเดินเลาะชายฝั่ง (โปรดระวังลื่นด้วย)
หลังจากนี้ใกล้จะเข้าป่าแล้วนะครับจะสลับกันป่าครึ่งทางชายฝั่งครึ่งทางนะครับ
จากจุดที่ 5 ไปจุดที่ 4 ทางชันเดินเหนื่อยนิดนึง
เอาล่ะจากนี้ไปจะเริ่มเป็นป่าแบบจริงจัง จากจุดที่ 3 - 1 อยู่ไม่ไกลกันเดินแปบๆก็ถึงแล้วว
***เดินในป่าอยู่คนเดียวเหมือนหลงป่าอ่ะจริงๆโคตรวังเวง (กลัวมีอะไรโผล่มา)***
และแล้วก็ทะลุออกมาถึงจุดเริ่มต้น
เดินกลับถึงเต้นท์ประมาณ 6 โมง พอดี ก็รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
ปล.ไฟไม่ติดนะจ๊ะต้องรีบอาบตอนสว่างๆ
หลังจากนั้นกินข้าวเสร็จนอนลูกเดียวและสุดท้ายฝนตกตอน 4 ทุ่ม ตกไม่หนักแต่ตกมาเรื่อยๆ
ปล.ถ้าใครกลัวกางเต้นท์แล้วน้ำจะซึมเข้าเต้นท์ไปกางด้านซ้ายก็ได้นะฝั่งนู้นมีศาลา ไว้หลบฝนได้ด้วย มันดีตรงนี้ล่ะ
แล้วก็หลับยาวแบบสบายจนถึงเช้า
ตื่นมาตอนตี 5 ครึ่ง ฝนก็ยังไม่หยุด ก่ะจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นซะหน่อย 7:30น. ฝนถึงจะหยุด เราเลยไปล้างหน้าแปรงฟัน ใครที่ตื่นสายๆเก็บของเข้าเต้นท์ให้หมดนะเพราะเจ้าฝูงลิงจะออกมาหาอาหารกัน
เดินเล่นถ่ายรูปอีกสักพักก็ได้เวลากลับแล้วจ้า
วันที่ 2 บอกตามตรงไม่ค่อยมีอะไรแล้ว เขาแหลมหญ้าวันเดียวก็เกินพอ แต่ใครอยากมานอนฟังเสียงคลื่นทะเลก็ควรมาเป็นอย่างยิ่งตอนกลับเราโทรเรียกรถตู้ให้มารับหน้าอุทยานได้นะจะได้ไม่ต้องต่อ 2 แถวไปลงขนส่ง
ปล.ภาพทั้งหมดถ่ายจากกล้อง OPPO R9S PRO