สรุปการเดินทางวันที่ 6 ของทริปที่ 140
วิวโขงแคมป์ปิ้ง เขมราฐ อุบล
ลานที่ 6 ของทริป
เมื่อคืนที่ผาชะนะไดคึกคักจนน่าแปลกใจ แล้วก็มีก๊วนนึงที่เปิดเพลงเผื่อแผ่คนอื่นจนดึกมาก ผมหลับไปก่อน อากาศเย็น ห่มผ้า 2 ผืนเลย ถึงอุ่นสบาย
ตื่นตี 1 เศษๆ ได้ยินเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะของเธอดังแว่วๆ สงสารเต็นท์ข้างๆ เลย นี่ผมอยู่ห่างน่าจะร้อยเมตรได้มั้ง แต่น่าจะดังได้ไม่นานก็เงียบหรือผมหลับไปก่อนก็ไม่รู้ อิอิ
ตื่นก่อนตี 5 มีหลายหลังที่ตื่นแล้ว นึกว่าจะไม่ค่อยมีใครตื่นซักเท่าไร เข้าห้องน้ำก่อน กลับมาเตรียมตัวออกเดินไปที่หน้าผาตี 5 นิดๆ
ใช้ทางเดินบนพื้นที่อุทยานทำไว้ สะดวกมากครับ ฟ้ามืด เห็นดวงดาวมากมาย ชัดเจน ด้วยไม่มีแสงรบกวนสายตา จึงเป็นจุดนึงของการดูดาวครับ
เดินไปได้ไม่ไกลมาก ปวดสะโพกนิดๆ ค่อยๆ เดินช้าๆ พัก 1 หน แล้วเริ่มเดิน ค่อยดีขึ้น แล้วก็มาถึง น่าจะเกือบกิโลนึงได้
มีคนมาถึงก่อนแล้วหลายสิบคน ถ่ายรูปตรงป้ายสักครู่ แล้วย้ายไปตรงขวามือสุดที่เคยมานั่งถ่ายรูปเมื่อมาครั้งแรก แสงแรกที่ขอบฟ้าสวยงามและชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ช่วงนี้หมดฝนแล้ว ทะเลหมอกไม่มีแล้ว
นทท.ทะยอยมานั่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แสงแรกก็ยังสวยเพิ่มขึ้น นั่งรอได้ก่อน 6 โมงเช้า แล้วขอเดินกลับ ขี้เกียจรอพระอาทิตย์ขึ้น ผมว่าแสงแรกก่อนพระอาทิตย์ขึ้น สวยสุดแล้วครับ
ย้อนกลับทางเดิมได้หลายร้อยเมตร ฟ้าสว่างชัดเจนแล้ว คราวนี้เห็น 2 ข้างทางซึ่งจะมีดอกไม้ป่าเล็กๆ เหมือนวน.น้ำตกผาหลวง แต่จะย่อส่วนมา ช่วงที่มีน้ำขังจะสวยงามโดดเด่น ชัดเจน จนอดลงไปถ่ายรูปไม่ได้ เป็นแผ่นหิน ไม่ได้เหยียบย่ำอะไร ออ สมเด็จพระพันปีหลวงเคยเสด็จมาด้วยครับ
กลับมาถึง 6 โมงเศษๆ รีบเก็บของทันที ใช้เวลาราวชม.นึงก็เรียบร้อย เพราะเก็บหลายอย่างแล้ว ไม่มีเหงื่อ เพราะอากาศเย็นๆ จากลมหนาวที่เริ่มพัดมา 3 วันได้แล้วมั้ง ขับรถออกมาจอดด้านหน้าแถวที่ล้างจาลานจอดรถโซน A ทำกินง่ายๆ ใช้เวลาราวครึ่งชม.ได้ อร่อยครับ
ออกเดินทางก่อน 9 โมง ระยะทาง 18 กม.จนถึงด่าน แม้จะขึ้นลงเป็นรอบ ก็ต้องระวังรถที่อาจสวนทางมาได้ ใช้ความเร็วไม่เกิน 40 กม. และถ้าไม่มั่นใจก็กดแตรให้เสียงครับ
ผ่านด่านและย้อนกลับ จนเข้าทางหลวง 2112 คราวนี้ใช้เส้นนี้จนถึงเขมราฐเลย ส่วนมากเป็นถนนที่ค่อนข้างใหม่ แต่ก็มีหลายช่วงที่ผิวขรุขระ ต้องลดความเร็วลงให้มากเพื่อถนอมช่วงล่าง
ผ่านอ.โพธิ์ไทร สามพันโบก หาดสลึง หาดชมดาว หาดทรายสูง ซึ่งเคยเข้าไปเที่ยวชมและบางที่แค้มปิ้งมาแล้ว สวยงามครับ ผ่านนาตาลแคมป์ปิ้ง อ.นาตาล ลานนึงวิวน้ำโขงที่เห็นโค้งสวย และเป็นร้านอาหารที่วิวน้ำโขงสวยงามมากๆ
ขับมาอีก 20 กว่ากม. เลี้ยวเข้าทางรองเลียบน้ำโขงอีกไม่กี่กิโลก็มาถึงลาน ขับรถเข้ามาจอด เจ้าของลานออกมาต้อนรับ ผมทักมาก่อนแล้ว ไม่มีปัญหา ขับรถเข้ามาด้านในสุด ลงของ แล้วออกไปจอดด้านนอก
ลมค่อนข้างแรง (และแรงเป็นระยะๆ ตลอด) แดดมา แต่ต้องนี้ค่อนข้างร่ม หญ้าสูง กาง Bushcraft ก่อน แล้วกางเต็นท์ ออ ฟ้าครึ้มๆ ปูพลาสติกรองผ้าใบไว้ก่อนละกัน ใช้เวลาชม.ครึ่งได้กเรียบร้อย
ขอทำมื้อเที่ยงต่อ ง่ายๆ พลาดตรงตัดไส้กรอกเป็นลูก ปิ้งแล้วไส้จึงทะลัก อร่อยครับ ไม่แพงด้วย นั่งกินด้วยความอร่อย
ยกจานไปล้าง ที่ล้างแบบง่ายๆ กลับมาถึง ฟ้าครึ้ม รีบกางทาร์ปผืนเล็กปิดด้านหน้า และทาร์ปเสริมหลังคาโดยด่วน พร้อมรับมือฝนครับ ลมก็พัดแรงจนได้ยินเสียงกิ่งไม้สั่นเหมือนคลื่นในทะเลเลย เลยไม่ต้องใช้พัดลมครับ
ยั่งๆ นอนๆ ดูบอลจตุรมิตรนัดเปิดสนาม สนุกครับ จน 5 โมง ไปถนนคนเดินสายวัฒนธรรมเขมราฐที่ชื่นชอบ แม้เคยมาแล้ว 2 ครั้ง ก็ยังมาได้ เพราะมีชีวิตชีวามากๆ ครับ แต่ฟ้ายังครึ้มๆ คงต้องเตรียมตัวรับมือฝนด้วยครับ
จอดรถตรงกองร้อยอส.ติดปากทางเข้าถนนคนเดินเลย สะดวกมาก ร้านค้าตั้งเกือบหมด บรรยากาศแสงสีสวยงาม ตื่นตาตื่นใจ บวกสภาพบ้านเรือนทั้งไม้ อาคารปูน เก่าใหม่ปะปนกัน แต่กลมกลืนและที่สำคัญยังมีชีวิตเพราะเป็นที่อยู่อาศัยจริงๆ ด้วย
ปวดหน้าแข้ง เดินช้าๆ นั่งพักไปด้วย จนถึงสี่แยกที่เป็นต้นขบวนของจิตอาสาฟ้อนรำ ก่อน 6 โมงเย็นก็ตั้งขบวนเสร็จให้นทท.มาถ่ายรูปได้ เป็นทีมที่ 2 เพราะผมจำนางรำตัวน้อยได้ พี่ๆ ข้างๆ บอกมี 2 ทีมสลับกัน น่าชื่นชมจริงๆ นับเป็นชุมชนที่เข้มแข็งมาก เพราะขบวนนึงมีนางรำทุกวัยน่าจะ 50 ท่านได้ และนี่คือจุดแข็งของถนนคนเดินเขมราฐที่กลายเป็นถนนสายวัฒนธรรมไปแล้ว ออ เก้าอี้ตัวจิ๋วช่วยให้นั่งชม 5 เพลงได้ครึ่งชม.โดยไม่ปวดครับ ชื่นชมมากๆ ออ มีการรำอีกหนึ่งหรือสองรอบครับ
เดินย้อนกลับ ปวดอีกเช่นเคย ค่อยๆ กัดฟันเดินกลับที่จอดรถ กลับที่นอน ขออาบน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่นห้องผู้ชายเสียครับ แอบใช้ห้องฝั่งผู้หญิง สบายตัวครับ
กลับมาขอรองท้องก่อนนอนครับ ง่ายๆ แปปเดียวเสร็จ อิ่มครับ แล้วเตรียมของสำหรับมื้อเช้า คืนนี้มีเพื่อนบ้านนอนกระท่อมและกางเต็นท์ด้วย ไม่เหงาครับ อากาศสบายๆ กำลังดี ออ ลมที่พัดแรงเป็นระยะตลอดวัน ถึงตอนนี้ไม่มีแล้ว
มีความสุขครับ
วิถีแค้มปื้งวิถีพอเพียงวิถีความสุข
สรุปค่าใช้จ่ายประจำวัน
1.มื่อเช้า 65 บาท
2.น้ำแข็ง 40 บาท
3.มื้อเที่ยง 50 บาท
4.ค่ากาง 80 บาท
5.มื้อเย็น 60 บาท
รวม 295 บาท
สะสม 3,983 บาท
สรุปการเดินทางวันที่ 6 ของทริปที่ 140
วิวโขงแคมป์ปิ้ง เขมราฐ อุบล
ลานที่ 6 ของทริป
เมื่อคืนที่ผาชะนะไดคึกคักจนน่าแปลกใจ แล้วก็มีก๊วนนึงที่เปิดเพลงเผื่อแผ่คนอื่นจนดึกมาก ผมหลับไปก่อน อากาศเย็น ห่มผ้า 2 ผืนเลย ถึงอุ่นสบาย
ตื่นตี 1 เศษๆ ได้ยินเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะของเธอดังแว่วๆ สงสารเต็นท์ข้างๆ เลย นี่ผมอยู่ห่างน่าจะร้อยเมตรได้มั้ง แต่น่าจะดังได้ไม่นานก็เงียบหรือผมหลับไปก่อนก็ไม่รู้ อิอิ
ตื่นก่อนตี 5 มีหลายหลังที่ตื่นแล้ว นึกว่าจะไม่ค่อยมีใครตื่นซักเท่าไร เข้าห้องน้ำก่อน กลับมาเตรียมตัวออกเดินไปที่หน้าผาตี 5 นิดๆ
ใช้ทางเดินบนพื้นที่อุทยานทำไว้ สะดวกมากครับ ฟ้ามืด เห็นดวงดาวมากมาย ชัดเจน ด้วยไม่มีแสงรบกวนสายตา จึงเป็นจุดนึงของการดูดาวครับ
เดินไปได้ไม่ไกลมาก ปวดสะโพกนิดๆ ค่อยๆ เดินช้าๆ พัก 1 หน แล้วเริ่มเดิน ค่อยดีขึ้น แล้วก็มาถึง น่าจะเกือบกิโลนึงได้
มีคนมาถึงก่อนแล้วหลายสิบคน ถ่ายรูปตรงป้ายสักครู่ แล้วย้ายไปตรงขวามือสุดที่เคยมานั่งถ่ายรูปเมื่อมาครั้งแรก แสงแรกที่ขอบฟ้าสวยงามและชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ช่วงนี้หมดฝนแล้ว ทะเลหมอกไม่มีแล้ว
นทท.ทะยอยมานั่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แสงแรกก็ยังสวยเพิ่มขึ้น นั่งรอได้ก่อน 6 โมงเช้า แล้วขอเดินกลับ ขี้เกียจรอพระอาทิตย์ขึ้น ผมว่าแสงแรกก่อนพระอาทิตย์ขึ้น สวยสุดแล้วครับ
ย้อนกลับทางเดิมได้หลายร้อยเมตร ฟ้าสว่างชัดเจนแล้ว คราวนี้เห็น 2 ข้างทางซึ่งจะมีดอกไม้ป่าเล็กๆ เหมือนวน.น้ำตกผาหลวง แต่จะย่อส่วนมา ช่วงที่มีน้ำขังจะสวยงามโดดเด่น ชัดเจน จนอดลงไปถ่ายรูปไม่ได้ เป็นแผ่นหิน ไม่ได้เหยียบย่ำอะไร ออ สมเด็จพระพันปีหลวงเคยเสด็จมาด้วยครับ
กลับมาถึง 6 โมงเศษๆ รีบเก็บของทันที ใช้เวลาราวชม.นึงก็เรียบร้อย เพราะเก็บหลายอย่างแล้ว ไม่มีเหงื่อ เพราะอากาศเย็นๆ จากลมหนาวที่เริ่มพัดมา 3 วันได้แล้วมั้ง ขับรถออกมาจอดด้านหน้าแถวที่ล้างจาลานจอดรถโซน A ทำกินง่ายๆ ใช้เวลาราวครึ่งชม.ได้ อร่อยครับ
ออกเดินทางก่อน 9 โมง ระยะทาง 18 กม.จนถึงด่าน แม้จะขึ้นลงเป็นรอบ ก็ต้องระวังรถที่อาจสวนทางมาได้ ใช้ความเร็วไม่เกิน 40 กม. และถ้าไม่มั่นใจก็กดแตรให้เสียงครับ
ผ่านด่านและย้อนกลับ จนเข้าทางหลวง 2112 คราวนี้ใช้เส้นนี้จนถึงเขมราฐเลย ส่วนมากเป็นถนนที่ค่อนข้างใหม่ แต่ก็มีหลายช่วงที่ผิวขรุขระ ต้องลดความเร็วลงให้มากเพื่อถนอมช่วงล่าง
ผ่านอ.โพธิ์ไทร สามพันโบก หาดสลึง หาดชมดาว หาดทรายสูง ซึ่งเคยเข้าไปเที่ยวชมและบางที่แค้มปิ้งมาแล้ว สวยงามครับ ผ่านนาตาลแคมป์ปิ้ง อ.นาตาล ลานนึงวิวน้ำโขงที่เห็นโค้งสวย และเป็นร้านอาหารที่วิวน้ำโขงสวยงามมากๆ
ขับมาอีก 20 กว่ากม. เลี้ยวเข้าทางรองเลียบน้ำโขงอีกไม่กี่กิโลก็มาถึงลาน ขับรถเข้ามาจอด เจ้าของลานออกมาต้อนรับ ผมทักมาก่อนแล้ว ไม่มีปัญหา ขับรถเข้ามาด้านในสุด ลงของ แล้วออกไปจอดด้านนอก
ลมค่อนข้างแรง (และแรงเป็นระยะๆ ตลอด) แดดมา แต่ต้องนี้ค่อนข้างร่ม หญ้าสูง กาง Bushcraft ก่อน แล้วกางเต็นท์ ออ ฟ้าครึ้มๆ ปูพลาสติกรองผ้าใบไว้ก่อนละกัน ใช้เวลาชม.ครึ่งได้กเรียบร้อย
ขอทำมื้อเที่ยงต่อ ง่ายๆ พลาดตรงตัดไส้กรอกเป็นลูก ปิ้งแล้วไส้จึงทะลัก อร่อยครับ ไม่แพงด้วย นั่งกินด้วยความอร่อย
ยกจานไปล้าง ที่ล้างแบบง่ายๆ กลับมาถึง ฟ้าครึ้ม รีบกางทาร์ปผืนเล็กปิดด้านหน้า และทาร์ปเสริมหลังคาโดยด่วน พร้อมรับมือฝนครับ ลมก็พัดแรงจนได้ยินเสียงกิ่งไม้สั่นเหมือนคลื่นในทะเลเลย เลยไม่ต้องใช้พัดลมครับ
ยั่งๆ นอนๆ ดูบอลจตุรมิตรนัดเปิดสนาม สนุกครับ จน 5 โมง ไปถนนคนเดินสายวัฒนธรรมเขมราฐที่ชื่นชอบ แม้เคยมาแล้ว 2 ครั้ง ก็ยังมาได้ เพราะมีชีวิตชีวามากๆ ครับ แต่ฟ้ายังครึ้มๆ คงต้องเตรียมตัวรับมือฝนด้วยครับ
จอดรถตรงกองร้อยอส.ติดปากทางเข้าถนนคนเดินเลย สะดวกมาก ร้านค้าตั้งเกือบหมด บรรยากาศแสงสีสวยงาม ตื่นตาตื่นใจ บวกสภาพบ้านเรือนทั้งไม้ อาคารปูน เก่าใหม่ปะปนกัน แต่กลมกลืนและที่สำคัญยังมีชีวิตเพราะเป็นที่อยู่อาศัยจริงๆ ด้วย
ปวดหน้าแข้ง เดินช้าๆ นั่งพักไปด้วย จนถึงสี่แยกที่เป็นต้นขบวนของจิตอาสาฟ้อนรำ ก่อน 6 โมงเย็นก็ตั้งขบวนเสร็จให้นทท.มาถ่ายรูปได้ เป็นทีมที่ 2 เพราะผมจำนางรำตัวน้อยได้ พี่ๆ ข้างๆ บอกมี 2 ทีมสลับกัน น่าชื่นชมจริงๆ นับเป็นชุมชนที่เข้มแข็งมาก เพราะขบวนนึงมีนางรำทุกวัยน่าจะ 50 ท่านได้ และนี่คือจุดแข็งของถนนคนเดินเขมราฐที่กลายเป็นถนนสายวัฒนธรรมไปแล้ว ออ เก้าอี้ตัวจิ๋วช่วยให้นั่งชม 5 เพลงได้ครึ่งชม.โดยไม่ปวดครับ ชื่นชมมากๆ ออ มีการรำอีกหนึ่งหรือสองรอบครับ
เดินย้อนกลับ ปวดอีกเช่นเคย ค่อยๆ กัดฟันเดินกลับที่จอดรถ กลับที่นอน ขออาบน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่นห้องผู้ชายเสียครับ แอบใช้ห้องฝั่งผู้หญิง สบายตัวครับ
กลับมาขอรองท้องก่อนนอนครับ ง่ายๆ แปปเดียวเสร็จ อิ่มครับ แล้วเตรียมของสำหรับมื้อเช้า คืนนี้มีเพื่อนบ้านนอนกระท่อมและกางเต็นท์ด้วย ไม่เหงาครับ อากาศสบายๆ กำลังดี ออ ลมที่พัดแรงเป็นระยะตลอดวัน ถึงตอนนี้ไม่มีแล้ว
มีความสุขครับ
วิถีแค้มปื้งวิถีพอเพียงวิถีความสุข
สรุปค่าใช้จ่ายประจำวัน
1.มื่อเช้า 65 บาท
2.น้ำแข็ง 40 บาท
3.มื้อเที่ยง 50 บาท
4.ค่ากาง 80 บาท
5.มื้อเย็น 60 บาท
รวม 295 บาท
สะสม 3,983 บาท