
โรคจิต
คำว่า "โรค" ในทีนี้ ก็คงจะทราบกันดีแล้วว่ามันเป็นโรคทางจิตใจ แต่ความหมายของคำว่าจิตใจในที่นี้สูงกว่าความหมายของคำว่าโรคจิตที่ชาวบ้านเขารู้จัก
ชาวบ้านรู้จัก "โรคจิต" คือว่าไปหาหมอโรคจิตเท่านั้น แล้วก็อ้างว่าตัวเองไม่เป็นโรคจิตเสียด้วย แต่คำว่าโรคจิต ตามภาษาธรรมะนั้น มันถือว่าทุกคนเป็นโรคจิตไม่มากก็น้อย ทุกคนยังไม่เป็นพระอรหันต์ยังมีโรคจิต
ผมเลยยักเรียกเสียใหม่ว่า"โรคทางวิญญาณ" ให้มันไปเข้ากับคำสากลที่เขามีอยู่อีกคำทางวิญญาณ คือมันไม่เกี่ยวกับจิต แต่มันเกี่ยวกับเรื่องของสติปัญญาที่สูงขึ้นไป
...ต้องรู้จักสิ่งที่เรียกว่าโรคนี้ให้ดี
โรคกาย เจ็บไข้ได้ป่วยบาดแผลอะไรต่างๆ ที่เกี่ยวกับทางร่างกายนั้นมันก็โรคหนึ่ง
โรคจิตนี้นับตั้งแต่โรคประสาทขึ้นมาจนถึงโรคจิตที่เขาเรียกกันว่าโรงพยาบาลโรคจิตนั่น นี้ก็เป็นกันมากขึ้นทุกทีนะโรคนี้ เพราะความเจริญแผนใหม่มันเป็นปัจจัยให้คนเป็นโรคจิตกันมากขึ้นทุกที
โรควิญญาณนั้นมันยังไปไกลกันกว่านั้น คือมิจฉาทิฏฐิ เรียกให้ถูกก็จะเรียกว่า "โรคทิฏฐิ" แต่ก็ฟังไม่ถูกอีกแหละ เพราะภาษาไทยคำว่าทิฏฐิมันหมายความอย่างอื่นเสียแล้ว ไม่ได้หมายความตามคำในภาษาบาลีไปตามเดิม
ภาษาบาลีคำว่า ทิฏฐิ นั้นหมายถึงความคิดความเห็น ความเข้าใจความคิดความเห็นเรียกว่าทิฏฐิ แต่ในภาษาไทยของเรา ทิฏฐินี้มันแปลว่าทิฐิมานะอวดดีจองหอง มันไปเสียอย่างนั้น เพราะฉะนั้นมันถูกน้อยไป ถ้าถือเอาตามความหมายในภาษาบาลีแล้วก็ถูกครบถ้วน โรคที่เกี่ยวกับทิฏฐิความคิดความเห็น
นี่เมื่อเป็นหมอตามแบบของพระพุทธเจ้า มันต้องกินความของคำว่าโรคนี้ทั้ง ๓ ชนิด ทั้งโรคกาย โรคจิต และโรควิญญาณ นี่ผมขอเรียกอย่างนี้ไปทีก่อน
ทีนี้บางคนอาจจะคิดว่าโรคกายนั้นไม่อยู่ในภาระหน้าที่ หรือโรคประสาทโรคจิตก็ไม่ได้อยู่ในภาระหน้าที่ คงมีภาระหน้าที่ของพวกเราแต่โรคทางวิญญาณ คือธรรมะในศาสนานี้จะแก้ไขโรคทางวิญญาณโดยเฉพาะ เข้าใจอย่างนี้ก็ถูกเหมือนกันแหละ แต่ว่ามันถูกชนิดที่ตื้นไม่ลึกซึ้ง เพราะว่าถ้าคนเราไม่เป็นโรคทางวิญญาณ คือมีทิฏฐิความคิดความเห็นสติปัญญาถูกต้องตามทางธรรมนั่นแล้ว ไม่เป็นโรคเส้นประสาทเลย
ถ้าไม่เป็นโรคทางวิญญาณแล้วจะไม่เป็นโรคทางจิต จะไม่เป็นโรคประสาท จะไม่เป็นโรคบ้าๆ บอๆ ที่เรียกว่าโรคจิต
ทีนี้เมื่อไม่เป็นโรคจิต คือสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ เส้นประสาทดี ร่างกายสบาย ใจคอสบาย โรคกายมันก็เป็นยาก โรคกระเพาะอาหารโรคอะไรนี้มันเป็นยาก เพราะว่าโรคความดันสูง โรคหัวใจ โรคกระเพาะอาหารนี้มันก็มาจากจิตที่ไม่สมประกอบคือเต็มไปด้วยความวิตกกังวลเป็นปีๆ นี่ ก็เป็นโรคชนิดนั้น
อย่าเข้าใจว่าโรคกระเพาะอาหาร โรคความดันสูง โรคหัวใจนี้มันเป็นโรคของกาย ที่แท้มันเป็นโรคทางจิตเป็นต้นเหตุแล้วมันแสดงออกทางกาย ฉะนั้นถ้าเรารักษาโรคทางวิญญาณหาย โรคจิตก็ไม่เป็น โรคกายตั้งหลายสิบเปอร์เซนต์ก็ไม่เป็น
พุทธทาสภิกขุ
ทุกคนเป็นโรคจิตทั้งนั้น จนกว่า....
คำว่า "โรค" ในทีนี้ ก็คงจะทราบกันดีแล้วว่ามันเป็นโรคทางจิตใจ แต่ความหมายของคำว่าจิตใจในที่นี้สูงกว่าความหมายของคำว่าโรคจิตที่ชาวบ้านเขารู้จัก
ชาวบ้านรู้จัก "โรคจิต" คือว่าไปหาหมอโรคจิตเท่านั้น แล้วก็อ้างว่าตัวเองไม่เป็นโรคจิตเสียด้วย แต่คำว่าโรคจิต ตามภาษาธรรมะนั้น มันถือว่าทุกคนเป็นโรคจิตไม่มากก็น้อย ทุกคนยังไม่เป็นพระอรหันต์ยังมีโรคจิต
ผมเลยยักเรียกเสียใหม่ว่า"โรคทางวิญญาณ" ให้มันไปเข้ากับคำสากลที่เขามีอยู่อีกคำทางวิญญาณ คือมันไม่เกี่ยวกับจิต แต่มันเกี่ยวกับเรื่องของสติปัญญาที่สูงขึ้นไป
...ต้องรู้จักสิ่งที่เรียกว่าโรคนี้ให้ดี
โรคกาย เจ็บไข้ได้ป่วยบาดแผลอะไรต่างๆ ที่เกี่ยวกับทางร่างกายนั้นมันก็โรคหนึ่ง
โรคจิตนี้นับตั้งแต่โรคประสาทขึ้นมาจนถึงโรคจิตที่เขาเรียกกันว่าโรงพยาบาลโรคจิตนั่น นี้ก็เป็นกันมากขึ้นทุกทีนะโรคนี้ เพราะความเจริญแผนใหม่มันเป็นปัจจัยให้คนเป็นโรคจิตกันมากขึ้นทุกที
โรควิญญาณนั้นมันยังไปไกลกันกว่านั้น คือมิจฉาทิฏฐิ เรียกให้ถูกก็จะเรียกว่า "โรคทิฏฐิ" แต่ก็ฟังไม่ถูกอีกแหละ เพราะภาษาไทยคำว่าทิฏฐิมันหมายความอย่างอื่นเสียแล้ว ไม่ได้หมายความตามคำในภาษาบาลีไปตามเดิม
ภาษาบาลีคำว่า ทิฏฐิ นั้นหมายถึงความคิดความเห็น ความเข้าใจความคิดความเห็นเรียกว่าทิฏฐิ แต่ในภาษาไทยของเรา ทิฏฐินี้มันแปลว่าทิฐิมานะอวดดีจองหอง มันไปเสียอย่างนั้น เพราะฉะนั้นมันถูกน้อยไป ถ้าถือเอาตามความหมายในภาษาบาลีแล้วก็ถูกครบถ้วน โรคที่เกี่ยวกับทิฏฐิความคิดความเห็น
นี่เมื่อเป็นหมอตามแบบของพระพุทธเจ้า มันต้องกินความของคำว่าโรคนี้ทั้ง ๓ ชนิด ทั้งโรคกาย โรคจิต และโรควิญญาณ นี่ผมขอเรียกอย่างนี้ไปทีก่อน
ทีนี้บางคนอาจจะคิดว่าโรคกายนั้นไม่อยู่ในภาระหน้าที่ หรือโรคประสาทโรคจิตก็ไม่ได้อยู่ในภาระหน้าที่ คงมีภาระหน้าที่ของพวกเราแต่โรคทางวิญญาณ คือธรรมะในศาสนานี้จะแก้ไขโรคทางวิญญาณโดยเฉพาะ เข้าใจอย่างนี้ก็ถูกเหมือนกันแหละ แต่ว่ามันถูกชนิดที่ตื้นไม่ลึกซึ้ง เพราะว่าถ้าคนเราไม่เป็นโรคทางวิญญาณ คือมีทิฏฐิความคิดความเห็นสติปัญญาถูกต้องตามทางธรรมนั่นแล้ว ไม่เป็นโรคเส้นประสาทเลย
ถ้าไม่เป็นโรคทางวิญญาณแล้วจะไม่เป็นโรคทางจิต จะไม่เป็นโรคประสาท จะไม่เป็นโรคบ้าๆ บอๆ ที่เรียกว่าโรคจิต
ทีนี้เมื่อไม่เป็นโรคจิต คือสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ เส้นประสาทดี ร่างกายสบาย ใจคอสบาย โรคกายมันก็เป็นยาก โรคกระเพาะอาหารโรคอะไรนี้มันเป็นยาก เพราะว่าโรคความดันสูง โรคหัวใจ โรคกระเพาะอาหารนี้มันก็มาจากจิตที่ไม่สมประกอบคือเต็มไปด้วยความวิตกกังวลเป็นปีๆ นี่ ก็เป็นโรคชนิดนั้น
อย่าเข้าใจว่าโรคกระเพาะอาหาร โรคความดันสูง โรคหัวใจนี้มันเป็นโรคของกาย ที่แท้มันเป็นโรคทางจิตเป็นต้นเหตุแล้วมันแสดงออกทางกาย ฉะนั้นถ้าเรารักษาโรคทางวิญญาณหาย โรคจิตก็ไม่เป็น โรคกายตั้งหลายสิบเปอร์เซนต์ก็ไม่เป็น
พุทธทาสภิกขุ