เมื่อเราก้าวเข้าสู่ยุคที่มีเทคโนโลยีไฮเทคไปหมดซะทุกอย่าง การใช้ชีวิติประจำวันเราทุกคนก็เข้าสู่ความไฮเทค การป้องกันการสวมรอยตัวตนจึงเป็นประเด็นที่สำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นเราจึงเห็นวิธีรูปแบบยืนยันตัวตนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สแกนลายนิ้วมือ มีสแกนม่านตา สแกนเส้นเลือด
หรือแม้แต่สแกนใบหน้า ที่หลายแบรนด์สมาร์ทโฟนต่างก็หยิบยกมาใช้เพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยจากวัยร้ายโลกไซเบอร์ ซึ่งเทรนด์ของการยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้านั้นน่าจับตามองทีเดียว นอกจากที่ iPhone X นั้นเปิดตัวสร้างความฮือฮาไปแล้ว
ทาง Facebook เอง ก็กำลังทดสอบ “คุณลักษณะการจดจำใบหน้าเพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยบัญชี” พวกเขากำลังเริ่มทดสอบฟีเจอร์ใหม่ที่จะเพิ่มทางเลือกการกู้บัญชี Facebook ด้วยวิธีการสแกนใบหน้า (Facial Recognition) ซึ่งวิธีดังกล่าวจะเพิ่มความปลอดภัยจากการถูกแฮกบัญชีได้มากขึ้นด้วย โดยแหล่งข่าวยังรายงานว่า นักวิจัยด้านโซเชียลมีเดียกำลังทดสอบระบบส่งภาพหน้าบุคคลจากหน้าจออุปกรณ์ไปยังเซิฟเวอร์ และหากคุณลักษณะนี้เชื่อถือได้ ไม่สามารถโดนแฮ็กระบบได้โดยง่าย มันก็จะถูกนำไปใช้กับผู้ใช้งานโดยทั่วไป
แหล่งข่าว
http://www.atimedesign.com/webdesign/facebook-facial-recognition/
Facebook กำลังทดสอบระบบปลดล็อคบัญชีด้วยการจดจำใบหน้า
เมื่อเราก้าวเข้าสู่ยุคที่มีเทคโนโลยีไฮเทคไปหมดซะทุกอย่าง การใช้ชีวิติประจำวันเราทุกคนก็เข้าสู่ความไฮเทค การป้องกันการสวมรอยตัวตนจึงเป็นประเด็นที่สำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นเราจึงเห็นวิธีรูปแบบยืนยันตัวตนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สแกนลายนิ้วมือ มีสแกนม่านตา สแกนเส้นเลือด
หรือแม้แต่สแกนใบหน้า ที่หลายแบรนด์สมาร์ทโฟนต่างก็หยิบยกมาใช้เพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยจากวัยร้ายโลกไซเบอร์ ซึ่งเทรนด์ของการยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้านั้นน่าจับตามองทีเดียว นอกจากที่ iPhone X นั้นเปิดตัวสร้างความฮือฮาไปแล้ว
ทาง Facebook เอง ก็กำลังทดสอบ “คุณลักษณะการจดจำใบหน้าเพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยบัญชี” พวกเขากำลังเริ่มทดสอบฟีเจอร์ใหม่ที่จะเพิ่มทางเลือกการกู้บัญชี Facebook ด้วยวิธีการสแกนใบหน้า (Facial Recognition) ซึ่งวิธีดังกล่าวจะเพิ่มความปลอดภัยจากการถูกแฮกบัญชีได้มากขึ้นด้วย โดยแหล่งข่าวยังรายงานว่า นักวิจัยด้านโซเชียลมีเดียกำลังทดสอบระบบส่งภาพหน้าบุคคลจากหน้าจออุปกรณ์ไปยังเซิฟเวอร์ และหากคุณลักษณะนี้เชื่อถือได้ ไม่สามารถโดนแฮ็กระบบได้โดยง่าย มันก็จะถูกนำไปใช้กับผู้ใช้งานโดยทั่วไป
แหล่งข่าว http://www.atimedesign.com/webdesign/facebook-facial-recognition/