บุหรี่ไฟฟ้าเป็นยาสูบและผลิตภัณฑ์ยาสูบชนิดใหม่ชนิดหนึ่ง
ผู้สูบจะต้องดูดหรือเสพเอาสารนิโคตินเหลวที่ระเหยด้วยความร้อนจากไฟฟ้าเข้าสู่ร่างกาย
การสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นกรรมวิธีนำสารเสพติดนิโคตินเข้าสู่ร่างกายเช่นเดียวกับการสูบบุหรี่
สารนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ได้มาจากการสกัดสารนิโคตินจากใบยาสูบ
เพียงแต่บุหรี่ไฟฟ้าไม่มีการเผาไหม้ใบยาสูบ แต่ผู้สูบยังพ่นไอหรือควันฟุ้งกระจาย (แม้จะน้อยกว่าบุหรี่)
ดังนั้น การสูบบุหรี่ไฟฟ้าจึงเป็นอันตรายต่อสุขภาพของตนเองและคนรอบข้าง ไม่น้อยกว่าการสูบบุหรี่
ผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้า อาจมีความผิดตามกฎหมายไทย ตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. ๒๕๖๐
มาตรา ๔


บุหรี่ไฟฟ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของใบยาสูบและมีสารนิโคตินเป็นส่วนประกอบ
ซึ่งบริโภคโดยวิธีสูบ ดูด เป่า หรือพ่นเข้าไปในปากหรือจมูก
การสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้นเป็นการกระทำใด ๆ ซึ่งมีผลทำให้เกิดควันหรือไอระเหยจากผลิตภัณฑ์ยาสูบ
พระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔๒
"ห้ามผู้ใดสูบบุหรี่ในเขตปลอดบุหรี่ เว้นแต่เป็นเขตสูบบุหรี่"

สถานที่สาธารณะ สถานที่ทำงาน และยานพาหนะ ส่วนมากกฎหมายจะประกาศให้เป็นเขตปลอดบุหรี่
แต่อาจจะประกาศกำหนดให้มีเขตสูบบุหรี่ในเขตปลอดบุหรี่ก็ได้
ผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าในสถานที่สาธารณะ เช่น ในสวนสาธารณะ สถานศึกษา หรือรถโดยสารสาธารณะ
จะมีความผิด ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
ตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๖๗

กฎหมายเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป
นอกจากการห้ามสูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว ยังเพิ่มเติมสาระสำคัญของกฎหมายที่ควรรู้อีก ดังนี้
๑. ห้ามขายหรือให้ผลิตภัณฑ์ยาสูบแก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า ๒๐ ปี
๒. ห้ามให้บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี เป็นผู้ขายยาสูบ
๓. ห้ามขายผลิตภัณฑ์ยาสูบใน ๔ กลุ่มสถานที่ ได้แก่ วัดหรือสถานที่ปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา
สถานพยาบาลและร้านขายยา สถานศึกษาทุกระดับ สวนสาธารณะ สวนสัตว์ และสวนสนุก
๔. กำหนดห้ามโฆษณาสื่อสารการตลาดผลิตภัณฑ์ยาสูบในทุกรูปแบบ
๕. ห้ามผู้ประกอบการธุรกิจผลิตภัณฑ์ยาสูบทำกิจกรรม ซีเอสอาร์ อุปถัมภ์สนับสนุนบุคคล
๖. ห้ามตั้งวางโชว์ผลิตภัณฑ์ยาสูบหรือซองบุหรี่ ณ จุดขาย
๗. ห้ามแบ่งซองขายบุหรี่เป็นรายมวน
๘. เจ้าของสถานที่สาธารณะที่เป็นเขตปลอดบุหรี่ มีหน้าที่ต้องประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือน ดูแลให้ไม่มีการ
ฝ่าฝืนสูบบุหรี่ในเขตปลอดบุหรี่ หากฝ่าฝืนไม่ดำเนินการ เจ้าของสถานที่มีโทษปรับไม่เกิน ๓,๐๐๐ บาท.
สูบบุหรี่ไฟฟ้า ผิดกฎหมายไทย มีโทษปรับ ๕,๐๐๐ บาท
ผู้สูบจะต้องดูดหรือเสพเอาสารนิโคตินเหลวที่ระเหยด้วยความร้อนจากไฟฟ้าเข้าสู่ร่างกาย
การสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นกรรมวิธีนำสารเสพติดนิโคตินเข้าสู่ร่างกายเช่นเดียวกับการสูบบุหรี่
สารนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ได้มาจากการสกัดสารนิโคตินจากใบยาสูบ
เพียงแต่บุหรี่ไฟฟ้าไม่มีการเผาไหม้ใบยาสูบ แต่ผู้สูบยังพ่นไอหรือควันฟุ้งกระจาย (แม้จะน้อยกว่าบุหรี่)
ดังนั้น การสูบบุหรี่ไฟฟ้าจึงเป็นอันตรายต่อสุขภาพของตนเองและคนรอบข้าง ไม่น้อยกว่าการสูบบุหรี่
ผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้า อาจมีความผิดตามกฎหมายไทย ตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. ๒๕๖๐
มาตรา ๔
บุหรี่ไฟฟ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของใบยาสูบและมีสารนิโคตินเป็นส่วนประกอบ
ซึ่งบริโภคโดยวิธีสูบ ดูด เป่า หรือพ่นเข้าไปในปากหรือจมูก
การสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้นเป็นการกระทำใด ๆ ซึ่งมีผลทำให้เกิดควันหรือไอระเหยจากผลิตภัณฑ์ยาสูบ
พระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔๒
"ห้ามผู้ใดสูบบุหรี่ในเขตปลอดบุหรี่ เว้นแต่เป็นเขตสูบบุหรี่"
สถานที่สาธารณะ สถานที่ทำงาน และยานพาหนะ ส่วนมากกฎหมายจะประกาศให้เป็นเขตปลอดบุหรี่
แต่อาจจะประกาศกำหนดให้มีเขตสูบบุหรี่ในเขตปลอดบุหรี่ก็ได้
ผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าในสถานที่สาธารณะ เช่น ในสวนสาธารณะ สถานศึกษา หรือรถโดยสารสาธารณะ
จะมีความผิด ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
ตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๖๗
กฎหมายเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป
นอกจากการห้ามสูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว ยังเพิ่มเติมสาระสำคัญของกฎหมายที่ควรรู้อีก ดังนี้
๑. ห้ามขายหรือให้ผลิตภัณฑ์ยาสูบแก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า ๒๐ ปี
๒. ห้ามให้บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี เป็นผู้ขายยาสูบ
๓. ห้ามขายผลิตภัณฑ์ยาสูบใน ๔ กลุ่มสถานที่ ได้แก่ วัดหรือสถานที่ปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา
สถานพยาบาลและร้านขายยา สถานศึกษาทุกระดับ สวนสาธารณะ สวนสัตว์ และสวนสนุก
๔. กำหนดห้ามโฆษณาสื่อสารการตลาดผลิตภัณฑ์ยาสูบในทุกรูปแบบ
๕. ห้ามผู้ประกอบการธุรกิจผลิตภัณฑ์ยาสูบทำกิจกรรม ซีเอสอาร์ อุปถัมภ์สนับสนุนบุคคล
๖. ห้ามตั้งวางโชว์ผลิตภัณฑ์ยาสูบหรือซองบุหรี่ ณ จุดขาย
๗. ห้ามแบ่งซองขายบุหรี่เป็นรายมวน
๘. เจ้าของสถานที่สาธารณะที่เป็นเขตปลอดบุหรี่ มีหน้าที่ต้องประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือน ดูแลให้ไม่มีการ
ฝ่าฝืนสูบบุหรี่ในเขตปลอดบุหรี่ หากฝ่าฝืนไม่ดำเนินการ เจ้าของสถานที่มีโทษปรับไม่เกิน ๓,๐๐๐ บาท.