ดูเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่าาา
https://wordpress.com/view/taketrips.wordpress.com
“เหนื่อยๆ เบื่อๆ อยากไปเที่ยววววจังโว้ยยย”
เพราะประโยคนี้แหละค่าาาา เราก็เริ่มหาที่เที่ยวกันเลยย ข้อกำหนดของเราก็คือ ไม่ไกลกรุงฯ คนไม่เยอะ ไม่วุ่นวาย รถไฟต้องถึง
มอไซต์ใช้เช่าต้องมี และสำคัญสุดค่ะ ต้องไม่แพงเพราะเราขี้งก เอ้ย! ไม่ใช่เราคือสายประหยัดค่ะ5555 หลังจากนั้นเราก็เริ่มลิสกันเลยค่ะ
ก็มีบางแสน พัทยา หัวหิน บลาๆๆๆ
จนในที่สุดเราก็เลือกได้แล้วค่ะนั่นคือประจวบคีรีขันธ์
ก็อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นอ่ะแหละ เราจะนั่งรถไฟไป เพราะมันประหยัดมากกก มากถึงขั้นไปฟรีกันเลยทีเดียวววว เราไปขึ้นรถไฟที่สถานีธนบุรีลงสถานีปราณบุรี ระหว่างทางก็เรื่อยๆเปื่อยๆหลับๆตื่นๆจนถึงที่หมาย เรานัดกับร้านให้เช่ามอไซต์ (ชื่อร้านค่ะ Mr. Moo Bikes and Boats) ให้เขาเอามอไซต์มาให้ที่สถานีค่ะ ราคาเช่าต่อวันก็ 250 บาท เพิ่มค่าเอามอไซต์มาให้อีก100บาท คุ้มค่ะ! คุ้มกว่าเหมารถไปเช่ามอไซต์ที่ร้านอีกก ส่วนที่ประจวบฯนั้นมีอะไรให้ทำบ้างไปดูกันนนนเลยย
ไปโฮมสเตย์ลุงชา
โฮมสเตย์ลุงชาเป็นบ้านพักที่เงียบบบสงบ เรียบบบง่ายตามวิถีชาวบ้าน ติดบึงบัวและวิวสวยมากๆๆๆค่ะ ที่สำคัญคือมีเพียงแค่ 3 หลังเท่านั้น เอาาาสิ้! ลิมิเต็ดสุดๆ และลุงแกยังบอกอีกด้วยว่าจะไม่สร้างเพิ่มเพราะงั้นรีบไปกันก่อนที่คิวจะยาวนะเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
ที่นี่เหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติ ชอบความเงียบสงบ ไม่ติดหรูหราเพราะห้องพักเป็นห้องพัดลมทั้งหมด แต่ด้วยความที่ทำมะชาดดด ธรรมชาตินี้ยุงที่นี่ก็เยอะเหมือนกันค่ะ ทางที่ดีก็เอายากันยุงไปด้วยนะ แต่ลุงแกก็มีให้แหละแต่เอาไปด้วยก็ดี อาหารการกินลุงแกเตรียมไว้ให้ทั้งเช้าและเย็นเลย เป็นอาหารพื้นบ้านง่ายๆแต่อร่อยมากๆรสชาติโดนใจสุดๆ
ส่วนการเดินทางไปจะว่าง่ายก็ไม่ง่าย จะว่ายากก็ไม่ยาก เอ๊ะ! ยังไง คือมันต้องข้ามเขาไปหนึ่งลูก ใช่ค่ะฟังไม่ผิด “ต้อง ข้าม เขา ไป หนึ่ง ลูก” และที่นี่ไม่มีป้ายบอกทางเข้า ถ้าเปิด google map มาละก็หลงแน่นอนเพราะลองมาแล้ว555 ต้องโทรถามทางกับลุงชาให้ลุงชาช่วยบอกทางให้รับลองง่ายมากๆ ส่วนระหว่างทางนั้นถ้าหากคุณถามชาวบ้านแถวนั้นว่าโฮมสเตย์ลุงชาไปทางไหน แล้วเขาบอกว่า “มันต้องขึ้นเขานะ อันตรายนะ จะไปไหวหรอ?” ไปต่อเลยค่ะมันไม่ได้อันตรายขนาดนั้น รับรองเลยว่าไปถึงแล้วคุ้มแน่นอน
ไปล่องเรือดูบัว
ก็ที่บ้านลุงชานั่นแหละค่ะ ลุงแกมีทริปนั่งเรือไปชมบึงบัวด้วย เราก็จัดแจงนัดกับลุงแต่เช้าเลยจะได้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วย อีกอย่างไปสายกลัวจะทนฤทธิ์แดดประเทศไทยไม่ไหว ก็อย่างที่รู้อะนะโคตรรรร้อน พอถึงลุงแกก็บอกว่าเราโชคดีมากเลยนะเพราะช่วงที่เราไปมีดอกบัวเยอะมากกก ซึ่งก่อนหน้านี้มีเพียงนิดเดียวเลยไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ฟังดูเหมือนจะไม่มีอะไรนะเพราะมีแค่ดอกบัว ก็ถูกค่ะเพราะมันแค่ดอกบัวแต่มันมีเยอะมากกกกกก มีรอบตัวเราเลยค่ะ ถ้าใครที่ชอบถ่ายรูปรับรองฟินแน่นอน แถมยังได้ฟิลธรรมชาติสุดๆ อากาศโคตรรรสดชื่น มีแมลงปอบินเต็มไปหมด นึกออกไหมค่ะ? ถ้านึกไม่ออกก็ต้องลองมาดูแล้วแหละค่ะ
ไปเดินสะพานที่ทุ่งสามร้อยยอด
ก็ที่บ้านลุงชาอีกนั่นแหละค่ะ555 เรียกยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัวกันเลย ต่อๆๆค่ะหลังจากล่องเรือชมบัวกันเสร็จ ลุงแกก็ขับเรือพาไปสะพานทุ่งสามร้อยยอดต่อ ที่นี่ก็มีสะพานไม้ยาวๆไว้ให้เดินศึกษาธรรมชาติกัน มันยาวจริงๆนะ แค่เห็นก็เมื่อยละ สำหรับใครที่หาข้อมูลในกูเกิ้ลมา ก็จะเห็นว่าที่นี่มีดอกบัวบานสวยเต็มบึงไปหมด แต่ ณ ปัจจุบันเหลือบัวอยู่แค่เพียงนิดเดียวเองค่ะ เพราะที่นี่เคยประสบปัญหาภัยแห้งทำให้ดอกบัวตายหมด ถึงแม้ว่าทางเจ้าหน้าที่จะพยายามปลูกขึ้นใหม่แต่ก็ไม่สำเร็จ น่าเสียดายจริงๆที่มาไม่ทันเห็นดอกบัวบานเต็มบึง
ไปสำรวจถ้ำแก้ว
ในตอนแรกเราคิดว่าจะไปถ้ำสามพระยานครกันแต่เปลี่ยนใจมาที่นี่แทน เพราะเราลองหาในกูเกิ้ลดูแล้วถ้ำสามพระยานครดูไม่มีอะไร อีกอย่างเวลาที่เราไปถึงนั้นก็เลยช่วงที่สวยที่สุดของถ้ำมาแล้ว เราก็เลยเปลี่ยนไปถ้ำแก้วกันค่ะ
พอถึงถ้ำแก้วเราต้องเดินเท้าขึ้นเขาไปอีกประมาณ 10 นาทีถึงจะถึงปากถ้ำ ที่สำคัญคือภายในถ้ำมืดดดมาก จึงต้องพกไฟฉายหรือตะเกียงไปด้วย แต่ถ้าหากใครไม่มีหรือลืมเอามาก็สามารถเช่าได้จากด้านล่างเชิงเขา ตอนแรกเราเข้าไปกันเองค่ะเพราะเจ้าหน้าที่ด้านล่างบอกว่าเข้าไปกันเองได้เลยไม่ต้องมีคนนำทางก็ได้ ถ้ำมันใหญ่และมีหลายห้องมาก เดินไปเดินมาเริ่มงงว่าต้องไปทางไหนต่อ เพราะป้ายบอกทางค่อนข้างเล็กบวกกับมันมืด “เอาแล้วไงงง ต้องไปทางไหนต่อ คนมาเที่ยวก็ไม่ค่อยมี” แต่แล้วโชคก็เข้าข้างเราค่ะ เราได้ยินเสียงกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนึงเขามากับคนนำทางน่าจะอยู่ห้องก่อนหน้าเรา เราก็เลยหยุดรอแล้วเดินไปพร้อมกับกลุ่มนั้น เนียนไปอี๊กกก555 เพราะงั้นใครที่จะแวะเข้าไปชมถ้ำมีคนนำทางก็ดีนะคะเผื่อจะหลงแบบเรา ภายในตัวถ้ำมีทั้งหินงอกหินย้อยสวยงามมาก และยังมีหินที่ระยิบระยับเมื่อเอาเสียงไปส่องมันด้วยนะสวยมากๆแต่เราไม่รู้หรอกว่ามันเรียกว่าอะไร เอาเป็นว่ามันสวย สำหรับใครที่ชอบเดินถ้ำรับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่หาดสามร้อยยอด
เราเปลี่ยนมาพักกันที่หาดสามร้อยยอดค่ะที่นี่เงียบสงบมาก คนไม่เยอะ จะเรียกว่าชายหาดส่วนตัวก็เกือบได้นะ เขาว่ากันว่าไปเที่ยวทั้งทีถ้าจะให้ครบก็ต้องตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน ไม่รู้ว่าเขานั่นใคร แต่ก็นั่นแหละค่ะเราก็เลยตกลงจะตื่นมาดูพระอาทิตย์กัน แต่ก็นะ...ตื่นสายยยยยย! แต่ก็ยังอยากจะออกไปดูอยู่ดีค่ะ เผื่อจะยังทัน เรารีบตรงไปที่ชายหาดเลย ถึงกับต้องร้องหู้ววววเมื่อเห็นวิวตรงหน้าเลยค่ะ เพราะมันสวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆ กอไก่ล้านตัวจริงๆ แบบเพราะอาทิตย์ขึ้นสะท้อนแสงกับน้ำทะเล โอ้ย!อธิบายไม่ถูกแต่มันสวยอะ สวยโคตรรร สวยไม่สวยยังไงดูที่รูปเลยค่ะ เป็นไงค่ะสวยไหมม?
ไปนั่งชมจันทร์ริมทะเล
พอตกดึกเราก็ไม่รู้จะทำอะไรเลยออกไปเดินเล่นชิวๆริมชายหาด และสิ่งที่เห็นคือพระจันทร์ มันไม่ใช่พระจันทร์ธรรมดาๆค่ะเพราะดวงมันใหญ่มากกกกเหมือนอยู่ใกล้ๆโลกเราเลยค่ะ เหมาะสำหรับมานั่งชมจันทร์สุดๆ
ไปเผื่อเจออะไรดีๆ
อย่างแรกนะคะเราเจอในระหว่างที่เรากำลังขับมอไซต์ไปยังโฮมสเตย์ลุงชา เราได้เห็นกลุ่มเมฆมรสุมประมาณ 2-3 ก้อนและภายในก้อนเมฆมีฟ้าผ่าอยู่ใจกลางเลยค่ะ คล้ายๆเมฆคิวมูโลนิมบัสอะ ซึ่งเราไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนมันก็ดูสวยดีนะ แต่ก็สงสารคนในพื้นที่นั้นเหมือนกันเพราะฝนคงตกหนักโคตรๆ
อย่างที่สอง เราเจอที่โฮมสเตย์ลุงชาค่ะ นั่นก็คือมิตรภาพ ความอบอุ่นและความเป็นกันเอง เขาดูแลเราดีมากจริงๆตั้งแต่ไปยันกลับเลยค่ะ จนทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ เหมือนไปพักบ้านญาติ เราชอบที่นี่มากจริงๆและคิดว่าจะกลับไปอีกแน่นอน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โฮมสเตย์ลุงชา
ที่พักคืนละ 500 บาทต่อคน เป็นห้องพัดลม รวมอาหารเช้า (ไม่แน่ใจว่ารวมเย็นด้วยไหมตอนเราไปลุงแกเตรียมไว้ให้อ่ะ) มี wifi ลุงแกมีทริปนั่งเรือเที่ยวบึงบัวด้วยแต่ต้องจ่ายเพิ่มนะ
FB:
https://www.facebook.com/profile.php?id=100008531438264&fref=ts
TEL: 032-510-488
ร้านเช่ามอไซต์
FB:
https://www.facebook.com/mrmoobikesandboats/
TEL: 081-995-6735
[CR] ไปทำไรที่ประจวบฯ
“เหนื่อยๆ เบื่อๆ อยากไปเที่ยววววจังโว้ยยย”
เพราะประโยคนี้แหละค่าาาา เราก็เริ่มหาที่เที่ยวกันเลยย ข้อกำหนดของเราก็คือ ไม่ไกลกรุงฯ คนไม่เยอะ ไม่วุ่นวาย รถไฟต้องถึง
มอไซต์ใช้เช่าต้องมี และสำคัญสุดค่ะ ต้องไม่แพงเพราะเราขี้งก เอ้ย! ไม่ใช่เราคือสายประหยัดค่ะ5555 หลังจากนั้นเราก็เริ่มลิสกันเลยค่ะ
ก็มีบางแสน พัทยา หัวหิน บลาๆๆๆ
จนในที่สุดเราก็เลือกได้แล้วค่ะนั่นคือประจวบคีรีขันธ์
ก็อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นอ่ะแหละ เราจะนั่งรถไฟไป เพราะมันประหยัดมากกก มากถึงขั้นไปฟรีกันเลยทีเดียวววว เราไปขึ้นรถไฟที่สถานีธนบุรีลงสถานีปราณบุรี ระหว่างทางก็เรื่อยๆเปื่อยๆหลับๆตื่นๆจนถึงที่หมาย เรานัดกับร้านให้เช่ามอไซต์ (ชื่อร้านค่ะ Mr. Moo Bikes and Boats) ให้เขาเอามอไซต์มาให้ที่สถานีค่ะ ราคาเช่าต่อวันก็ 250 บาท เพิ่มค่าเอามอไซต์มาให้อีก100บาท คุ้มค่ะ! คุ้มกว่าเหมารถไปเช่ามอไซต์ที่ร้านอีกก ส่วนที่ประจวบฯนั้นมีอะไรให้ทำบ้างไปดูกันนนนเลยย
ไปโฮมสเตย์ลุงชา
โฮมสเตย์ลุงชาเป็นบ้านพักที่เงียบบบสงบ เรียบบบง่ายตามวิถีชาวบ้าน ติดบึงบัวและวิวสวยมากๆๆๆค่ะ ที่สำคัญคือมีเพียงแค่ 3 หลังเท่านั้น เอาาาสิ้! ลิมิเต็ดสุดๆ และลุงแกยังบอกอีกด้วยว่าจะไม่สร้างเพิ่มเพราะงั้นรีบไปกันก่อนที่คิวจะยาวนะเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
ที่นี่เหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติ ชอบความเงียบสงบ ไม่ติดหรูหราเพราะห้องพักเป็นห้องพัดลมทั้งหมด แต่ด้วยความที่ทำมะชาดดด ธรรมชาตินี้ยุงที่นี่ก็เยอะเหมือนกันค่ะ ทางที่ดีก็เอายากันยุงไปด้วยนะ แต่ลุงแกก็มีให้แหละแต่เอาไปด้วยก็ดี อาหารการกินลุงแกเตรียมไว้ให้ทั้งเช้าและเย็นเลย เป็นอาหารพื้นบ้านง่ายๆแต่อร่อยมากๆรสชาติโดนใจสุดๆ
ส่วนการเดินทางไปจะว่าง่ายก็ไม่ง่าย จะว่ายากก็ไม่ยาก เอ๊ะ! ยังไง คือมันต้องข้ามเขาไปหนึ่งลูก ใช่ค่ะฟังไม่ผิด “ต้อง ข้าม เขา ไป หนึ่ง ลูก” และที่นี่ไม่มีป้ายบอกทางเข้า ถ้าเปิด google map มาละก็หลงแน่นอนเพราะลองมาแล้ว555 ต้องโทรถามทางกับลุงชาให้ลุงชาช่วยบอกทางให้รับลองง่ายมากๆ ส่วนระหว่างทางนั้นถ้าหากคุณถามชาวบ้านแถวนั้นว่าโฮมสเตย์ลุงชาไปทางไหน แล้วเขาบอกว่า “มันต้องขึ้นเขานะ อันตรายนะ จะไปไหวหรอ?” ไปต่อเลยค่ะมันไม่ได้อันตรายขนาดนั้น รับรองเลยว่าไปถึงแล้วคุ้มแน่นอน
ไปล่องเรือดูบัว
ก็ที่บ้านลุงชานั่นแหละค่ะ ลุงแกมีทริปนั่งเรือไปชมบึงบัวด้วย เราก็จัดแจงนัดกับลุงแต่เช้าเลยจะได้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วย อีกอย่างไปสายกลัวจะทนฤทธิ์แดดประเทศไทยไม่ไหว ก็อย่างที่รู้อะนะโคตรรรร้อน พอถึงลุงแกก็บอกว่าเราโชคดีมากเลยนะเพราะช่วงที่เราไปมีดอกบัวเยอะมากกก ซึ่งก่อนหน้านี้มีเพียงนิดเดียวเลยไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ฟังดูเหมือนจะไม่มีอะไรนะเพราะมีแค่ดอกบัว ก็ถูกค่ะเพราะมันแค่ดอกบัวแต่มันมีเยอะมากกกกกก มีรอบตัวเราเลยค่ะ ถ้าใครที่ชอบถ่ายรูปรับรองฟินแน่นอน แถมยังได้ฟิลธรรมชาติสุดๆ อากาศโคตรรรสดชื่น มีแมลงปอบินเต็มไปหมด นึกออกไหมค่ะ? ถ้านึกไม่ออกก็ต้องลองมาดูแล้วแหละค่ะ
ไปเดินสะพานที่ทุ่งสามร้อยยอด
ก็ที่บ้านลุงชาอีกนั่นแหละค่ะ555 เรียกยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัวกันเลย ต่อๆๆค่ะหลังจากล่องเรือชมบัวกันเสร็จ ลุงแกก็ขับเรือพาไปสะพานทุ่งสามร้อยยอดต่อ ที่นี่ก็มีสะพานไม้ยาวๆไว้ให้เดินศึกษาธรรมชาติกัน มันยาวจริงๆนะ แค่เห็นก็เมื่อยละ สำหรับใครที่หาข้อมูลในกูเกิ้ลมา ก็จะเห็นว่าที่นี่มีดอกบัวบานสวยเต็มบึงไปหมด แต่ ณ ปัจจุบันเหลือบัวอยู่แค่เพียงนิดเดียวเองค่ะ เพราะที่นี่เคยประสบปัญหาภัยแห้งทำให้ดอกบัวตายหมด ถึงแม้ว่าทางเจ้าหน้าที่จะพยายามปลูกขึ้นใหม่แต่ก็ไม่สำเร็จ น่าเสียดายจริงๆที่มาไม่ทันเห็นดอกบัวบานเต็มบึง
ไปสำรวจถ้ำแก้ว
ในตอนแรกเราคิดว่าจะไปถ้ำสามพระยานครกันแต่เปลี่ยนใจมาที่นี่แทน เพราะเราลองหาในกูเกิ้ลดูแล้วถ้ำสามพระยานครดูไม่มีอะไร อีกอย่างเวลาที่เราไปถึงนั้นก็เลยช่วงที่สวยที่สุดของถ้ำมาแล้ว เราก็เลยเปลี่ยนไปถ้ำแก้วกันค่ะ
พอถึงถ้ำแก้วเราต้องเดินเท้าขึ้นเขาไปอีกประมาณ 10 นาทีถึงจะถึงปากถ้ำ ที่สำคัญคือภายในถ้ำมืดดดมาก จึงต้องพกไฟฉายหรือตะเกียงไปด้วย แต่ถ้าหากใครไม่มีหรือลืมเอามาก็สามารถเช่าได้จากด้านล่างเชิงเขา ตอนแรกเราเข้าไปกันเองค่ะเพราะเจ้าหน้าที่ด้านล่างบอกว่าเข้าไปกันเองได้เลยไม่ต้องมีคนนำทางก็ได้ ถ้ำมันใหญ่และมีหลายห้องมาก เดินไปเดินมาเริ่มงงว่าต้องไปทางไหนต่อ เพราะป้ายบอกทางค่อนข้างเล็กบวกกับมันมืด “เอาแล้วไงงง ต้องไปทางไหนต่อ คนมาเที่ยวก็ไม่ค่อยมี” แต่แล้วโชคก็เข้าข้างเราค่ะ เราได้ยินเสียงกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนึงเขามากับคนนำทางน่าจะอยู่ห้องก่อนหน้าเรา เราก็เลยหยุดรอแล้วเดินไปพร้อมกับกลุ่มนั้น เนียนไปอี๊กกก555 เพราะงั้นใครที่จะแวะเข้าไปชมถ้ำมีคนนำทางก็ดีนะคะเผื่อจะหลงแบบเรา ภายในตัวถ้ำมีทั้งหินงอกหินย้อยสวยงามมาก และยังมีหินที่ระยิบระยับเมื่อเอาเสียงไปส่องมันด้วยนะสวยมากๆแต่เราไม่รู้หรอกว่ามันเรียกว่าอะไร เอาเป็นว่ามันสวย สำหรับใครที่ชอบเดินถ้ำรับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่หาดสามร้อยยอด
เราเปลี่ยนมาพักกันที่หาดสามร้อยยอดค่ะที่นี่เงียบสงบมาก คนไม่เยอะ จะเรียกว่าชายหาดส่วนตัวก็เกือบได้นะ เขาว่ากันว่าไปเที่ยวทั้งทีถ้าจะให้ครบก็ต้องตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน ไม่รู้ว่าเขานั่นใคร แต่ก็นั่นแหละค่ะเราก็เลยตกลงจะตื่นมาดูพระอาทิตย์กัน แต่ก็นะ...ตื่นสายยยยยย! แต่ก็ยังอยากจะออกไปดูอยู่ดีค่ะ เผื่อจะยังทัน เรารีบตรงไปที่ชายหาดเลย ถึงกับต้องร้องหู้ววววเมื่อเห็นวิวตรงหน้าเลยค่ะ เพราะมันสวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆ กอไก่ล้านตัวจริงๆ แบบเพราะอาทิตย์ขึ้นสะท้อนแสงกับน้ำทะเล โอ้ย!อธิบายไม่ถูกแต่มันสวยอะ สวยโคตรรร สวยไม่สวยยังไงดูที่รูปเลยค่ะ เป็นไงค่ะสวยไหมม?
ไปนั่งชมจันทร์ริมทะเล
พอตกดึกเราก็ไม่รู้จะทำอะไรเลยออกไปเดินเล่นชิวๆริมชายหาด และสิ่งที่เห็นคือพระจันทร์ มันไม่ใช่พระจันทร์ธรรมดาๆค่ะเพราะดวงมันใหญ่มากกกกเหมือนอยู่ใกล้ๆโลกเราเลยค่ะ เหมาะสำหรับมานั่งชมจันทร์สุดๆ
ไปเผื่อเจออะไรดีๆ
อย่างแรกนะคะเราเจอในระหว่างที่เรากำลังขับมอไซต์ไปยังโฮมสเตย์ลุงชา เราได้เห็นกลุ่มเมฆมรสุมประมาณ 2-3 ก้อนและภายในก้อนเมฆมีฟ้าผ่าอยู่ใจกลางเลยค่ะ คล้ายๆเมฆคิวมูโลนิมบัสอะ ซึ่งเราไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนมันก็ดูสวยดีนะ แต่ก็สงสารคนในพื้นที่นั้นเหมือนกันเพราะฝนคงตกหนักโคตรๆ
อย่างที่สอง เราเจอที่โฮมสเตย์ลุงชาค่ะ นั่นก็คือมิตรภาพ ความอบอุ่นและความเป็นกันเอง เขาดูแลเราดีมากจริงๆตั้งแต่ไปยันกลับเลยค่ะ จนทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ เหมือนไปพักบ้านญาติ เราชอบที่นี่มากจริงๆและคิดว่าจะกลับไปอีกแน่นอน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โฮมสเตย์ลุงชา
ที่พักคืนละ 500 บาทต่อคน เป็นห้องพัดลม รวมอาหารเช้า (ไม่แน่ใจว่ารวมเย็นด้วยไหมตอนเราไปลุงแกเตรียมไว้ให้อ่ะ) มี wifi ลุงแกมีทริปนั่งเรือเที่ยวบึงบัวด้วยแต่ต้องจ่ายเพิ่มนะ
FB: https://www.facebook.com/profile.php?id=100008531438264&fref=ts
TEL: 032-510-488
ร้านเช่ามอไซต์
FB: https://www.facebook.com/mrmoobikesandboats/
TEL: 081-995-6735