[CR] สกินแคร์ 10 ขั้นตอนสำหรับสาวหน้าสิวแต่ผิวแพ้ง่าย แต่ในที่สุดเราก็ชนะค่ะ!

ฮัลโหลวววว สวัสดีในรอบหลายเดือนค่า ปกติเราไม่เคยรีวิวสินค้าแต่เคยแชร์ประสบการณ์เสพติดหมอสิว ตกอยู่ในวงจรอุบาทว์เสียเงินทองมากมายแถมหน้าพังเรื้อรังเป็นสิบปีกว่าจะพบทางสว่างด้วยตัวเอง จากคนที่เอะอะสิวเห่อ แต่งหน้า เหงื่อออก เมนส์มา อึไม่ออก นอนดึก เอาเป็นว่าแค่หายใจแรงนิดนึงสิวก็ขึ้นได้อ่ะจ้ะ! วิ่งไปหาหมอ กินยาโปะยากดสิวเป็นกิจวัตร ชีวิตนี้ไม่รู้ว่าจะอยู่ยังไงถ้าขาดหมอสิว (นี่ไม่ได้พูดเล่นตอนนั้นคิดแบบนี้จริงๆ) ทุกวันนี้ผิวเราแข็งแรงขึ้นเยอะมาก หมอสิวไม่ได้แอ้มเงินเราอีกต่อไป (หลังจากสิวหายแล้วเรามาอยู่ต่างประเทศพอดี เป็นการบังคับตัวเองพอดีเพราะหมอผิวหนังเมืองนอกนอกจากคิวยาวแล้วยังราคาแพงเว่อร์ ติดยังไงก็ต้องเลิกค่ะ555)

ที่มาของการเสพติดหมอสิวและวิธีปลดแอกด้วยตัวเอง https://pantip.com/topic/34847590

โอเคนั่นคือจุดเริ่มต้นของการแชร์ประสบการณ์ในเพจเล็กๆ เราก็อัพมั่งไม่อัพมั่งตามความติสท์แต่ก็ยังมีคนอินบ็อกซ์มาเรื่อยๆ เรื่องที่คนถามบ่อยคืออยากรู้ว่าเราใช้สกินแคร์ตัวไหนบ้าง ไอ้เราก็ผัดผ่อนมาเรื่อยเพราะไม่คิดว่าตัวเองใช้สินค้าหลากหลายอะไรมาก เห็นคนอื่นเค้ารีวิวครีมกันแดด40ตัว micellar waterทุกยี่ห้อในตลาด เจ้ไม่ไหวค่ะลองขนาดนั้นหน้าเจ้ต้องพินาศก่อน แต่คิดไปคิดมาความรู้และการลองผิดลองถูกของเราน่าจะมีประโยชน์กับกลุ่มผิวแพ้ง่ายและมีแนวโน้มจะเป็นสิว เราเข้าใจหัวอกมากๆเลยค่ะ สกินแคร์ที่เค้ารีวิวกันว่ารักษาสิวดี๊ดีย์เราใช้กลับหน้าแหก เป็นสิวแต่ผิวแพ้ง่ายนี่ทำให้ชีวิตยากค่ะบอกเลย!

เอ้างั้นมาเริ่มเลยนี่เกริ่นมาอย่างยาวอ่ะจ้ะ 10 สเต็ปและสกินแคร์ดูแลผิวสูตรสาวขี้แพ้

1.    Makeup Remover
ขั้นแรกคือทำความสะอาดเครื่องสำอางให้หมดจดด้วย Bioderma Sensibio micellar water ฝาสีชมพูกับ L’Oreal Eyes & Lips Make-up Remover สูตรออยล์สำหรับรอบดวงตากับปาก เช็ดให้เกลี้ยงค่ะจนกว่าสำลีแผ่นสุดท้ายจะไม่มีสีติดมา

2.    Cleanser
จากนั้นล้างหน้าด้วย Physiogel cleanser เนื่องจากช่วงหลังหน้าขึ้นผื่นบ่อยโดยสังเกตว่าหลังอาบน้ำหน้าจะแห้งเป็นขุย เราเลยเปลี่ยนมาใช้เจลล้างหน้าตัวนี้ซึ่งเคยใช้ในอดีตช่วงรักษาสิวทำเลเซอร์หนักๆ ปรากฏว่าดีค่ะผื่นน้อยลง หลังอาบน้ำไม่เกิดปรากฎการณ์หน้าแห้งอีก อีแซม(บิวตี้เมนทอร์ส่วนตัวของเราผู้คอยอ่านฉลากวิเคราะห์ส่วนผสมของสกินแคร์ให้เราตั้งแต่กระทู้แรกโน่น) บอกว่าส่วนผสมดูเฉยๆมากแต่เราใช้แล้วโอเค ก็อย่างที่บอกแม้สภาพผิวเราจะคล้ายกัน การตอบสนองต่อสกินแคร์ก็ยังต่างกันได้

3.    Exfoliator
ขั้นตอนนี้เราจะทำอาทิตย์แค่ละครั้งคือผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก แต่ช่วงไหนผื่นขึ้นหน้าแห้งเราจะไม่ทำ ไม่งั้นยิ่งพังค่ะ เราเลือก Sukin Revitalizing Facial Scrub แบรนด์นี้ของออสเตรเลียแท้ๆเป็นเจ้าใหญ่ในดรักสโตร์

4.    Toner / Essence
สมัยก่อนใช้ Paula’s Choice Skin Balancing Toner แล้วไม่ค่อยเห็นผลอะไรเลยตัดโทนเนอร์ออก จนไม่กี่เดือนมานี้มีโอกาสได้ลอง Micro Essence Treatment Lotion ของ Estee Lauder เป็นน้ำตบเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการบำรุงขั้นต่อไป หลังล้างหน้าในฤดูหนาวที่ออสเตรเลียหน้าจะโคตรตึง แล้วเราใช้สกินแคร์ที่มีออยล์มากไม่ได้ผิวอุดตันอีก เลยมาลงตัวที่ treatment lotion เมื่อก่อนไม่เห็นผลเพราะเราใช้ปริมาณน้อย ตบแล้วซึมลงไปเร็วเกิน วิธีใช้ให้ได้ผลสำหรับเราคือเทในปริมาณมากกว่าปกติ ประมาณว่าตบไปบนหน้าแล้วให้รู้สึกผิวชุ่มๆหมาดๆอีกสักพัก มันจะอู้ววววผิวพร้อมสำหรับขั้นตอนต่อไปแล้วจ้า

5.    Treatments
จะเรียกว่า Serum หรือ Skin Booster อะไรก็ตาม มันคือการบำรุงผิวล้ำลึกด้วยเซรั่มที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวของเรา ณ ตอนนี้เราใช้ Estee Lauder Advanced Night Repair ขวดสีชาอันโด่งดัง สารภาพค่ะ อันนี้แบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ ลองใช้ของพี่สาวแล้วไม่แพ้เลยเอาวะ วัย30เยี่ยงข้าพเจ้าควรมีเซรั่มแก้เหี่ยวสักชิ้นนะ ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งดีค่ะ!

6.    Acne Treatments
สเต็ปแทรกค่ะ ในจังหวะที่มีสิวเม็ดเล็ก เราจะทายาน้ำใสๆของรมรวินแปะทั่วๆบริเวณคาง รวมถึงกรอบผม ถ้าเม็ดใหญ่จะใช้แป้งน้ำจากศูนย์แพทย์จีนโรงพยาบาลหัวเฉียว ตัวหลังนี้เอาอยู่ค่ะสิวเม็ดใหญ่ยุบเร็วแต่ข้อเสียคือผิวจะแห้งเป็นขุย อย่าใช้เยอะ

7.    Eye Cream
ขาดไม่ได้เลยครีมทารอบดวงตา สารภาพอีกรอบค่ะ หลังจากครีมตัวเก่าหมดอิชั้นได้ Estee Lauder’s Advanced Night Repair Eye Cream มาจากโปรโมชั่นเซ็ต ANR เลยเอามาใช้ ไม่รู้ว่ายังไงเพราะเป็นคนไม่ค่อยมีปัญหาใต้ตาแต่ทาแล้วไม่แพ้ อ่อนโยนและ...สบายใจค่ะ ผลทางจิตใจมาเต็ม

8.    Moisturizer  
นี่มาถึงสเต็ปที่ 9 แล้วเหรอ??? ไม่อยากเชื่อมิน่าโดนบ่นตลอดว่าอาบน้ำทาครีมช้า แป๊บนึงๆจะหมดแล้วค่า ขั้นเติความชุ่มชื้นนี้เราใช้ครีมถึงสามตัวจ้ะ (ไหนบอกว่าจะจบแล้ว?) ที่มาของความเยอะสิ่งคือเรามีผิวผสม หลังจากผจญปัญหาอุบาทว์ที่ว่าผิวทีโซนมันแต่แก้มแห้งผากมานาน เฝ้าตามหาครีมมหัศจรรย์ที่จะทำให้หน้าช่วงทีโซนชุ่มชื้นโดยไม่ก่อสิว ขณะเดียวกันต้องทำให้แก้มสองข้างนุ่มเด้งเป็นผิวฉ่ำน้ำ สมองน้อยๆก็ประมวลว่า...ยากค่ะ!แมร่งยากยิ่งกว่าให้ชะนีไทยหาผู้ชายหล่อรวยและไม่เป็นเกย์!!! จะกวนครีมใช้เองคงยิ่งสิ้นหวัง แล้วเราก็เกิดพุทธิปัญญาว่า...ซื้อครีมสองตัวสิคะ ชิ้นนึงใช้กับทีโซน อีกชิ้นใช้กับแก้ม ให้มันจบๆไปต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดนะ

สรุป ครีมตัวแรกเราใช้ทาบริเวณทีโซน คัดสรรครีมที่อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่ายเพื่อจะได้โบกเต็มที่สบายใจไม่ต้องกลัวอุดตัน มีสองแบรนด์ในใจใช้สลับไปมาแล้วแต่หาซื้อได้คือ Bioderma Sensibio Light cream หรือ La Roche Posay Toleriane Ultra Light lotion

ตัวที่สอง Estee Lauder Revitalizing Supreme+ ใช้ตรงแก้มเป็นหลัก ทาบางๆกำลังดีไม่เหนียวไป เสร็จแล้วจะรู้สึกปลื้มปริ่มเพราะผิวแห้งสากจะกลับมาเนียนเหมือนผ้าซาติน (อู้ยพูดไปนั่น)

ตัวสุดท้ายในกรณีอยากได้ผิวอิ่มน้ำฉ่ำๆ ตบด้วย Shiseido Aqua Label special gel cream กระปุกสีแดง ในวันที่อากาศแห้งเราจะเพิ่มตัวนี้เข้าไปเพื่อเคลือบผิวให้ชุ่มฉ่ำทั้งวัน  

9.    Sun Protection
ขาดไม่ได้ทุกเช้าก่อนออกจากบ้านนะคะ เราใช้ Biore UV Aqua Rich สลับกับ Mizumi UV หลอดสีฟ้า ตัวแรกอีแซมเลือกให้มั่นใจว่าส่วนประกอบไม่มีความเสี่ยง ส่วนตัวหลังอิชั้นซื้อเองตามกระแสค่ะฮ่าฮ่า โชคดีที่ใช้แล้วไม่แพ้ ชอบผิวสัมผัสด้วย (อย่าเอาเยี่ยงอย่างนะคะ เกิดแพ้ขึ้นมาเปลืองตังค์รักษาสิว)

10.    Mask Sheet
เคยคิดว่าเป็นของเล่นใหม่ที่ออกมากระตุ้นตลาด เนื่องจากเราเคยทำการตลาดสกินแคร์แบรนด์ดังตัวหนึ่งในตลาดเลยได้มีโอกาสเรียนรู้ตั้งแต่สมัยมาส์คเพิ่งเข้าตลาดเมืองไทยใหม่ๆ หลายปีก่อนคนไทยยังไม่รู้จักเลยว่ามาส์คเอาไว้ทำอะไร จนวันนี้กลายเป็นสินค้าที่ทุกร้านต้องมี อันที่จริงการตลาดเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มาส์คขายดี แต่คุณสมบัติของมาส์คเองก็ไม่ธรรมดา พี่ไม่ได้มาเล่นๆบอกเลย (ไม่ใช่โฆษณาแฝง ตอนนี้ไม่ได้ทำงานที่นั่นแล้วค่ะ555)

มาส์คเหมาะมากกับการฟื้นฟูซ่อมแซมผิวอย่างฉับไว...เห็นผลเร็ว! เมื่อก่อนเราแค่มาส์คหน้าให้เด้งก่อนไปงานปาร์ตี้ วันนี้เราอยู่ประเทศที่มี4ฤดู การใช้มาส์คอาทิตย์ละครั้งช่วยปรับสมดุลผิวเราได้ดีมาก โดยเฉพาะช่วงที่ผื่นขึ้นแก้มบ่อยจนครีมธรรมดาโปะไปยังไงก็เอาไม่อยู่ คุณหมอบอกว่าเป็นปฏิกิริยาของผิวที่ไวต่อสิ่งเร้าซึ่งมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง อากาศ ฝุ่นมลภาวะ นอนดึก เครียด โอยนับไม่ถ้วน

ทางเลือกของเราคือปลอบประโลมผิวด้วยมาส์คที่ให้ความชุ่มชื้น ก่อนนอนล้างหน้าแล้วแปะมาส์ค ปล่อยไว้15-20 นาที เอาออกก่อนที่มาส์คแห้งกรอบคาหน้า แล้วเราทาครีม Shiseido Aqua Label ต่อบางๆให้เจลเคลือบผิวไว้  ตื่นมาตอนเช้าผื่นหายวับ ผิวนุ่มเด้งฉ่ำน้ำสุดๆ สไตล์เกาหลีจะใช้มาส์คหลังขั้นตอน treatments ซึ่งเรากลัวเยอะไปอุดตันค่ะ ขอตอนหลังล้างหน้าเลยแล้วกัน

เอ้าจบแล้วสิบขั้นตอนง่ายๆ ไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทุกตัวตามนี้หรอกนะคะ เป็นการแชร์ประสบการณ์ของเราผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวในการลองสกินแคร์มาอย่างโชกโชน (แน่นอนว่าไม่เท่าพวกบิวตี้บล็อกเกอร์เพราะเรากลัวแพ้มากกว่าจะลองของใหม่ทุกตัว) หวังว่าจะได้แนวทางสำหรับคนผิวแพ้ง่ายหรือคนที่อยากใช้สกินแคร์ที่อ่อนโยนต่อผิว ทำตามนี้แล้วถ้าผิวยังแย่อยู่ก็ต้องทบทวนค่ะว่าผลิตภัณฑ์ตัวไหนไม่ถูกกับผิวเรา สังเกตและเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ในเมื่อผิวเราเซนสิทีฟกว่าคนอื่นเราก็ต้องละเอียดกว่าเค้าเนอะ โอเคนะจ๊ะ?

ติดตามเรื่องราวสไตล์สิวๆผิวแพ้ง่ายหรือคำถามหลังไมค์ได้ที่ https://www.facebook.com/nerdywifey/ ฝากเพจไว้เพราะจะอัพเดทและตอบเร็วกว่า ขออภัยบางท่านที่หลังไมค์ในpantipแล้วตอบช้านะคะ

ขอให้คนที่ไลค์ผิวสวยทุกคนค่ะ555
May the beauty be with us!
ชื่อสินค้า:   สกินแคร์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่