มันมีเงื่อนไข ในการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตยาสูบต่างกัน    คือ คิดที่ 20%  กับ  40%  จากราคาขายปลีก
โดยเงื่อนไขมีอยู่ว่า   ถ้าราคาปลีกไม่ถึง 60 บาท  จะจัดเก็บแค่  20%    นอกนั้น จัดเก็บที่ 40%
แต่เงื่อนไขนี้  มีกำหนดแค่ 2 ปี เท่านั้น   หากถึงเลยเวลานั้นจะจัดเก็บที่ 40% เท่ากันหมด
    แต่ของเก่า วิธีคิดภาษีสรรพสามิต มันจะคิดอัตราจากราคาทุน  กับ คิดอัตราต่อมวน  อย่างไหนภาษีมากกว่า ใช้อย่างนั้น  ประมาณนี้นะ

   คราวนี้ลองมาดูกันว่า  สมมติปรับใหม่ใช้ราคาเดิม ที่   72 บาท  จะเสียภาษี 28.8 บาท จะเหลือต้นทุน+กำไรหลังหักสรรพสามิต 43.2 บาท ในเบื้องต้น  
   และสมมติใหม่ว่า  ปรับราคาขายปลีก เป็นดังนี้
        ราคา   70  บาท  จะเสียภาษี  28 บาท   จะเหลือ ต้นทุน+กำไรหลักสรรพสามิต  42 บาท   คิดภาษี 40%
                 75                          30                                                             45  
                 80                          32                                                             48
ถ้าลด         65                          26                                                             39
                 60                          12                                                              48          คิดภาษี  20%
                 55                          11                                                              44

    จากตัวเลขข้างบน ท่านสังเกตเห็นอะไรไหมครับ  
    ถ้ากำหนดราคาปลีก ที่  80  บาท  จะเหลือไว้สำหรับ เป็นต้นทุน +กำไร  48 บาท
                                  60   บาท                                                  48
    คือ มันจะเหลือเท่ากัน  เพราะต้นทุนในการผลิตมันต้องเหมือนกันอยู่แล้ว    ทำราคาแพง กับทำราคาถูก
กำไรจะเท่ากัน  ทำราคาถูก ทำให้ยอดขาย ขายได้ดีกว่า  ขายมากกำไรมาก
    อันนี้ ทำให้คิดในภาษีสรรพสามิต  แค่แง่ตัวเดียวก่อนนะครับ  เพราะยังมีภาษีอีกหลายตัว ที่จะต้องมาขอแบ่งส่วนในราคาบุหรี่อีกด้วย