โด เร มี ฟา ซอล ลา ที ~~~~~
หลายคนได้เห็นฉากในเรื่อง The Sound of Music ที่ Julie Andrews ถ่ายทอดเรื่องราวกับเด็ก ๆ ผ่านบทเพลงท่ามกลางทิวทัศน์ของ Salzburg และเทือกเขาแอลป์ในออสเตรีย จึงได้แรงบันดาลใจมาเยือน Salzburg เมืองที่ขึ้นชื่อด้านการท่องเที่ยวเมืองหนึ่งของออสเตรีย
แต่ความย่ิ่งใหญ่ สวยงาม อลังการของ Salzburg มีเบื้องหลังที่น่าสนใจที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ The Sound of Music หรือนักดนตรีชื่อก้องโลกอย่างโมซาร์ทซึ่งได้ลืมตาดูโลกที่เมืองนี้ราวกลางศตวรรษที่ ๑๘
หากพิจารณาจากชื่อเมือง Salzburg (ซาล์ส-บูร์ก) แล้ว จะเห็นว่าประกอบด้วย ๒ คำ คือ Salz (เกลือ) และ Burg (ปราสาท) รวมเป็น Salt Castle หรือ ปราสาทเกลือ
แน่นอน ชื่อต้องมีที่มาที่ไปแน่ ๆ
Salzburg เป็นเมือง (และภูมิภาค) ที่อุดมไปด้วยเกลือ มีการทำเกลือตั้งแต่สมัยก่อนคริสต์กาล สมัยก่อน เกลือเป็นสินค้าที่มีค่ามาก เป็นสิ่งที่นำมาใช้ในการถนอมอาหารในยุคที่ยังไม่มีตู้เย็น และการค้าเกลือนี่เอง ที่นำความร่ำรวยมาสู่ Salzburg โดยเฉพาะในช่วงศตวรรษที่ ๑๗ และ ๑๘ อันเป็นยุคที่มีการสร้างสถาปัตยกรรมแบบบาโรก (Baroque) อันหรูหรา อย่างที่นักท่องเที่ยวเห็นในปัจจุบัน
ผมมีโอกาสมาเยือน Salzburg ๒ ครั้ง ๒ ฤดูด้วยกัน คือ ครั้งแรก ฤดูใบไม้ผลิ มาเที่ยวหลังจากแข่งว่าความอนุญาโตตุลาการเสร็จเมื่อคราวเรียนที่จุฬาฯ และครั้งที่ ๒ ฤดูหนาว มาพัก ๑ คืนเพื่อเดินทางไป countdown ที่ Hallstatt
ผมประทับใจทั้ง ๒ ฤดู แต่ชอบฤดูใบไม้ผลิมากกว่า ดูมีสีสัน สบายตา อบอุ่นใจดี ส่วนฤดูหนาวก็ดูน่ารักเหมือนเมืองในเทพนิยาย แต่ก็ดูเงียบเหงาในคราวเดียวกัน
ไม่น่าเชื่อเลยว่า เกลือ สิ่งที่เราคุ้นเคยอยู่ทุกวันนี้ จะเป็นสิ่งที่รังสรรค์คุณค่าทางวัฒนธรรม จนทำให้ Salzburg ได้รับสถานะมรดกโลกจากยูเนสโก้











---------------------------------------------------------------------------
ใครอยากอ่าน "๓ ฤดูที่ Hallstatt" ก็เชิญคลิกที่ลิงค์ข้างล่างนี้เลย
https://www.facebook.com/IRememberEurope/posts/2031781810384845
Salzburg ในมิติที่ลึกกว่า The Sound of Music
หลายคนได้เห็นฉากในเรื่อง The Sound of Music ที่ Julie Andrews ถ่ายทอดเรื่องราวกับเด็ก ๆ ผ่านบทเพลงท่ามกลางทิวทัศน์ของ Salzburg และเทือกเขาแอลป์ในออสเตรีย จึงได้แรงบันดาลใจมาเยือน Salzburg เมืองที่ขึ้นชื่อด้านการท่องเที่ยวเมืองหนึ่งของออสเตรีย
แต่ความย่ิ่งใหญ่ สวยงาม อลังการของ Salzburg มีเบื้องหลังที่น่าสนใจที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ The Sound of Music หรือนักดนตรีชื่อก้องโลกอย่างโมซาร์ทซึ่งได้ลืมตาดูโลกที่เมืองนี้ราวกลางศตวรรษที่ ๑๘
หากพิจารณาจากชื่อเมือง Salzburg (ซาล์ส-บูร์ก) แล้ว จะเห็นว่าประกอบด้วย ๒ คำ คือ Salz (เกลือ) และ Burg (ปราสาท) รวมเป็น Salt Castle หรือ ปราสาทเกลือ
แน่นอน ชื่อต้องมีที่มาที่ไปแน่ ๆ
Salzburg เป็นเมือง (และภูมิภาค) ที่อุดมไปด้วยเกลือ มีการทำเกลือตั้งแต่สมัยก่อนคริสต์กาล สมัยก่อน เกลือเป็นสินค้าที่มีค่ามาก เป็นสิ่งที่นำมาใช้ในการถนอมอาหารในยุคที่ยังไม่มีตู้เย็น และการค้าเกลือนี่เอง ที่นำความร่ำรวยมาสู่ Salzburg โดยเฉพาะในช่วงศตวรรษที่ ๑๗ และ ๑๘ อันเป็นยุคที่มีการสร้างสถาปัตยกรรมแบบบาโรก (Baroque) อันหรูหรา อย่างที่นักท่องเที่ยวเห็นในปัจจุบัน
ผมมีโอกาสมาเยือน Salzburg ๒ ครั้ง ๒ ฤดูด้วยกัน คือ ครั้งแรก ฤดูใบไม้ผลิ มาเที่ยวหลังจากแข่งว่าความอนุญาโตตุลาการเสร็จเมื่อคราวเรียนที่จุฬาฯ และครั้งที่ ๒ ฤดูหนาว มาพัก ๑ คืนเพื่อเดินทางไป countdown ที่ Hallstatt
ผมประทับใจทั้ง ๒ ฤดู แต่ชอบฤดูใบไม้ผลิมากกว่า ดูมีสีสัน สบายตา อบอุ่นใจดี ส่วนฤดูหนาวก็ดูน่ารักเหมือนเมืองในเทพนิยาย แต่ก็ดูเงียบเหงาในคราวเดียวกัน
ไม่น่าเชื่อเลยว่า เกลือ สิ่งที่เราคุ้นเคยอยู่ทุกวันนี้ จะเป็นสิ่งที่รังสรรค์คุณค่าทางวัฒนธรรม จนทำให้ Salzburg ได้รับสถานะมรดกโลกจากยูเนสโก้
ใครอยากอ่าน "๓ ฤดูที่ Hallstatt" ก็เชิญคลิกที่ลิงค์ข้างล่างนี้เลย
https://www.facebook.com/IRememberEurope/posts/2031781810384845