ผมก็เป็นคนทั่วไปละ ที่เป็นลูกของคนครอบครัวปานกลาง มีพี่น้อง 2 คน ผมเป้นคนน้องคนที่ 2 ที่มีกินทุกเดือนไม่อดอยากอะไรมาก ก่อนผมจะเข้ามหาลัยครอบครัวก็ค่อนข้างมีความสุขดีละครับ แต่พอเข้ามหาลัยปุปทุกอย่างก้เปลี่ยนไป ผมปกติได้เงินเข้ามหาลัยก้วันละ 300 ถือว่าโอเคเลยใช่ไหมครับก้มีกินแน่ๆ มีเก็บแน่ๆเล็กน้อยก้มีเก็บรายวัน
แต่เหมือนกับผมกลายเป้นห่างกับครอบครัวที่ละนิด เพราะผมต้องทำงานส่ง อ ที่มหาลัย มีเวลาคุยกับครอบครัวน้อยลงก้ทำให้ห่างกันไปเรื่อยๆที่ละนิด ผมป่วยแบบลุกไม่ไหวไปเรียนแบบ ป่วยจนลุกไม่ขึ้น ครอบครัวก้บอกว่า ก้ไปเรืยนกินยาหน่อยก้หาย ป่วยแค่นี้ไม่ถึงกับตายหรอก ผมก้ต้องกัดฟันไปมหาลัยทั้งๆที่เอาตัวเองลุกไปยังแทบไม่ไหว แต่ไม่เป้นไรครับ ครอบครัวอยากให้ผมเป้นคนแข้งๆสู้ๆกับงานผมก้คิดในแง่ดี
มาอีกครั้งนึงครั้งนี้งานหยาบครับ ผมเล่นๆที่บ้านละครับแล้ว ลงพื้นผิดท่าไปหน่อยกระดูกเข่าเคลื่อน แบบเดินไม่ได้เลยในวันนั้น ช่วงปี 2 เทอม 2 ลุกไม่ได้เลย 1 วันเต้มๆ แต่ 2 วันข้างหน้าผมต้องมีเรียนทำอาหารที่ต้องยืนทั้งวัน ผมก้บอกผมไม่ไหวขอไปหาหมอได้ไหม ในวันที่นั้นเลยที่หัวเข่าผมผิดเคลื่อน คำตอบที่ได้จากครอบครัวซึ้งน้ำตาแทบไหล รอบเสาร์อาทิตย์ค่อยไปหาหมอ ซึ้งวันที่ผมหัวเข่าเคลื่อนเป้นวันพุธ 55555+ แน่นอนครับ ผมต้องกัดฟันทั้งน้ำตาไปเรียนทั้งๆที่ไม่ไหว เดินยังเหมือนคนพิการเลยครับ ในัวันแรกที่เข่าเคลื่อน ผมเลยหาความรู้ว่า บิดกระดูกยังไงให้เดินได้เหมือนปกติ แบบพอทรงตัวได้ ไม่ต้องวิ่งได้แต่พอขยับได้ก้พอ ผมก้กัดฟันบิดกระดูกเข่าที่เคลื่อนทั้งๆปวดแบบขยับไม่ได้ จนเดินได้แต่กระแพกๆ เดินยังยากยังต้องนั่งรถเมล์ไปเรียน สุดยอดไปเลย พอวันเสาร์ที่ต้องไปตรวจเข่า หมอบอกว่า อ่าวคุณหายแล้วนิ มาหาหมอทำไม อาจแค่อักเสบน่ะที่ยังปวดอยู่ เอายากคลายกล้ามเนื้อไป
ครั้งนี้เป้นช่วงที่ผมต้องฝึกงาน ปี 4 เทอม 1 ผมก้ไปฝึกงานที่บริษัทที่มีชื่อเสียงแห่งนึง แต่ต้องนอนหอจากบ้าน ในระยะเวลาประมาณ 4 - 5เดือน แบบกลับบ้างไม่กลับบ้างเพราะไม่ไหวในการเดินทาง ผมกลับมีเรื่องแปลกอย่างคือ เงินที่บ้านหายตลอด ทองหาย ในเวลาที่ผมกลับบ้านประจำ 5555+ ผมแทบบ้าแบบ อยู่บ้านก้แทบไม่อยู่ แถมฝึกงานเหนื่อยแทบตาย คงไม่มีเวลาแบบคิดเรื่องอื่นนอกจากนอนหรอกครับเวลากลับบ้าน ผมก้โดนมองไม่ดีละ แบบเอาเงินไปปล่าว จากเงินที่บ้านส่งให้ไปฝึกงานตอนแรกๆก้ให้นะครับ ช่วงเดือนที่ 2 นี้ให้บ้างไม่ให้บ้าง มองแบบแปลกๆอีกว่าผมเอาเงินไป ไอ้เราก้ไม่มีสิทธิ์มีเสียงแน่ๆอะ เพราะว่าเราไม่ได้อยู่บ้านประจำ ยังไงก้โดนมองว่าเป้นคนเอาไปแน่ๆ ผมพูดไปก้เหมือนแก้ตัว นับวันยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆจนผมแทบบ้า ฝึกงานเหมือนตายทั้งเป้นแบบ เงินก้ไม่ค่อยมี ผมต้องเอาเงินเก้บทั้งหมดที่มีมาใช่ในช่วงนั้นจนเกือบหมด ผมก้มีเล่นหุ้นจากเงินเก้บบ้างก้พอมีเลี้ยงตัวเองหน่อยให้พอแบบเอาตัวรอดไปได้ไปวันๆ เล่นแบบระยะยาวนะครับแบบมีเงินปันผลได้ครั้งละ 6000 ก้พอเอาตัวรอดได้ ที่นรกจิงๆคือ ตอนที่หลังจบฝึกงาน ผมมาอยู่บ้านได้แปปๆก้ต้องไป ทำงานวิจัยต่อต้องหาอยู่หอเพราะว่าเดินทางไปกลับไม่ไหวมันเหนื่อยเกิน นั้นคือฝันร้าย เพราะว่า หุ้นที่ผมลงไป มันดันล้มละลาย เพราะว่าผมไม่มีเวลาดูไม่มีเวลาเอาใจใส่เลย รู้ตัวอีกทีคือ เงินทั้งหมดที่ลงไปหายไปหมดเลย แล้วที่บ้านก้ไม่ส่งเรียนแบบเดิมให้เงินน้อยลงมากๆระหว่างที่ทำวิจัย แน่นอนครับว่า แทบไม่มีกินน ถ้าผมไม่ได้แฟนผมช่วยผมระหว่างตอนที่ผมแย่นี้ ผมได้ลาออกจิงๆแน่ครับ เพราะว่าไม่มีเงินเลย ขยับอะไรก้ลำบาก แล้วแฟนผมก้เหมือนจะโดนไม่ดีด้วยจาก ครอบครัวผมเพราะว่า ครอบครัวผมแอบฟังตลอด เห้นว่าผมคุยกับผญ ก้นึกกันไปเองว่า ผมเสียเพราะผญ ทั้งๆที่เป้นครอบครัวนั้นละ ที่ทำให้ผมเป้นแบบนี้ ผมยิ่งอธิบายยิ่งแย่ใหญ่ กลายเป้นงานหยาบขึ้นเรื่อยๆ
จนกระทั้งผมทำวิจัยจบ ผมติดหนี้แฟนผมนับไม่ถ้วนทุกอย่างเลย ยิ่งไปไหนยิ่งโดนมองว่าไปหาผญ ติดผู้หญิง ผมอธิบายตลอดว่าไม่ได้ทำไม่ได้เอาไป แต่กลายเป้นเรื่องที่น่าเศร้าที่เสียงมันเบาเหลือเกิน ผมอยู่เหมือนไม่อยู่ในบ้าน อยากออกจากบ้านแต่ไม่มีเงินเริ่มต้น แถมโดนตัดเงินจากทุกทาง
.
.
.
ผมควรทำไงดีครับ ยิ้มรับกับครอบครัวหรือว่า หนีออกไปเลย หรือว่า อธิบายลมๆแล้งๆกับครอบครัว
ครอบครัวที่ไม่เคยเข้าใจในตัวเราเลย
แต่เหมือนกับผมกลายเป้นห่างกับครอบครัวที่ละนิด เพราะผมต้องทำงานส่ง อ ที่มหาลัย มีเวลาคุยกับครอบครัวน้อยลงก้ทำให้ห่างกันไปเรื่อยๆที่ละนิด ผมป่วยแบบลุกไม่ไหวไปเรียนแบบ ป่วยจนลุกไม่ขึ้น ครอบครัวก้บอกว่า ก้ไปเรืยนกินยาหน่อยก้หาย ป่วยแค่นี้ไม่ถึงกับตายหรอก ผมก้ต้องกัดฟันไปมหาลัยทั้งๆที่เอาตัวเองลุกไปยังแทบไม่ไหว แต่ไม่เป้นไรครับ ครอบครัวอยากให้ผมเป้นคนแข้งๆสู้ๆกับงานผมก้คิดในแง่ดี
มาอีกครั้งนึงครั้งนี้งานหยาบครับ ผมเล่นๆที่บ้านละครับแล้ว ลงพื้นผิดท่าไปหน่อยกระดูกเข่าเคลื่อน แบบเดินไม่ได้เลยในวันนั้น ช่วงปี 2 เทอม 2 ลุกไม่ได้เลย 1 วันเต้มๆ แต่ 2 วันข้างหน้าผมต้องมีเรียนทำอาหารที่ต้องยืนทั้งวัน ผมก้บอกผมไม่ไหวขอไปหาหมอได้ไหม ในวันที่นั้นเลยที่หัวเข่าผมผิดเคลื่อน คำตอบที่ได้จากครอบครัวซึ้งน้ำตาแทบไหล รอบเสาร์อาทิตย์ค่อยไปหาหมอ ซึ้งวันที่ผมหัวเข่าเคลื่อนเป้นวันพุธ 55555+ แน่นอนครับ ผมต้องกัดฟันทั้งน้ำตาไปเรียนทั้งๆที่ไม่ไหว เดินยังเหมือนคนพิการเลยครับ ในัวันแรกที่เข่าเคลื่อน ผมเลยหาความรู้ว่า บิดกระดูกยังไงให้เดินได้เหมือนปกติ แบบพอทรงตัวได้ ไม่ต้องวิ่งได้แต่พอขยับได้ก้พอ ผมก้กัดฟันบิดกระดูกเข่าที่เคลื่อนทั้งๆปวดแบบขยับไม่ได้ จนเดินได้แต่กระแพกๆ เดินยังยากยังต้องนั่งรถเมล์ไปเรียน สุดยอดไปเลย พอวันเสาร์ที่ต้องไปตรวจเข่า หมอบอกว่า อ่าวคุณหายแล้วนิ มาหาหมอทำไม อาจแค่อักเสบน่ะที่ยังปวดอยู่ เอายากคลายกล้ามเนื้อไป
ครั้งนี้เป้นช่วงที่ผมต้องฝึกงาน ปี 4 เทอม 1 ผมก้ไปฝึกงานที่บริษัทที่มีชื่อเสียงแห่งนึง แต่ต้องนอนหอจากบ้าน ในระยะเวลาประมาณ 4 - 5เดือน แบบกลับบ้างไม่กลับบ้างเพราะไม่ไหวในการเดินทาง ผมกลับมีเรื่องแปลกอย่างคือ เงินที่บ้านหายตลอด ทองหาย ในเวลาที่ผมกลับบ้านประจำ 5555+ ผมแทบบ้าแบบ อยู่บ้านก้แทบไม่อยู่ แถมฝึกงานเหนื่อยแทบตาย คงไม่มีเวลาแบบคิดเรื่องอื่นนอกจากนอนหรอกครับเวลากลับบ้าน ผมก้โดนมองไม่ดีละ แบบเอาเงินไปปล่าว จากเงินที่บ้านส่งให้ไปฝึกงานตอนแรกๆก้ให้นะครับ ช่วงเดือนที่ 2 นี้ให้บ้างไม่ให้บ้าง มองแบบแปลกๆอีกว่าผมเอาเงินไป ไอ้เราก้ไม่มีสิทธิ์มีเสียงแน่ๆอะ เพราะว่าเราไม่ได้อยู่บ้านประจำ ยังไงก้โดนมองว่าเป้นคนเอาไปแน่ๆ ผมพูดไปก้เหมือนแก้ตัว นับวันยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆจนผมแทบบ้า ฝึกงานเหมือนตายทั้งเป้นแบบ เงินก้ไม่ค่อยมี ผมต้องเอาเงินเก้บทั้งหมดที่มีมาใช่ในช่วงนั้นจนเกือบหมด ผมก้มีเล่นหุ้นจากเงินเก้บบ้างก้พอมีเลี้ยงตัวเองหน่อยให้พอแบบเอาตัวรอดไปได้ไปวันๆ เล่นแบบระยะยาวนะครับแบบมีเงินปันผลได้ครั้งละ 6000 ก้พอเอาตัวรอดได้ ที่นรกจิงๆคือ ตอนที่หลังจบฝึกงาน ผมมาอยู่บ้านได้แปปๆก้ต้องไป ทำงานวิจัยต่อต้องหาอยู่หอเพราะว่าเดินทางไปกลับไม่ไหวมันเหนื่อยเกิน นั้นคือฝันร้าย เพราะว่า หุ้นที่ผมลงไป มันดันล้มละลาย เพราะว่าผมไม่มีเวลาดูไม่มีเวลาเอาใจใส่เลย รู้ตัวอีกทีคือ เงินทั้งหมดที่ลงไปหายไปหมดเลย แล้วที่บ้านก้ไม่ส่งเรียนแบบเดิมให้เงินน้อยลงมากๆระหว่างที่ทำวิจัย แน่นอนครับว่า แทบไม่มีกินน ถ้าผมไม่ได้แฟนผมช่วยผมระหว่างตอนที่ผมแย่นี้ ผมได้ลาออกจิงๆแน่ครับ เพราะว่าไม่มีเงินเลย ขยับอะไรก้ลำบาก แล้วแฟนผมก้เหมือนจะโดนไม่ดีด้วยจาก ครอบครัวผมเพราะว่า ครอบครัวผมแอบฟังตลอด เห้นว่าผมคุยกับผญ ก้นึกกันไปเองว่า ผมเสียเพราะผญ ทั้งๆที่เป้นครอบครัวนั้นละ ที่ทำให้ผมเป้นแบบนี้ ผมยิ่งอธิบายยิ่งแย่ใหญ่ กลายเป้นงานหยาบขึ้นเรื่อยๆ
จนกระทั้งผมทำวิจัยจบ ผมติดหนี้แฟนผมนับไม่ถ้วนทุกอย่างเลย ยิ่งไปไหนยิ่งโดนมองว่าไปหาผญ ติดผู้หญิง ผมอธิบายตลอดว่าไม่ได้ทำไม่ได้เอาไป แต่กลายเป้นเรื่องที่น่าเศร้าที่เสียงมันเบาเหลือเกิน ผมอยู่เหมือนไม่อยู่ในบ้าน อยากออกจากบ้านแต่ไม่มีเงินเริ่มต้น แถมโดนตัดเงินจากทุกทาง
.
.
.
ผมควรทำไงดีครับ ยิ้มรับกับครอบครัวหรือว่า หนีออกไปเลย หรือว่า อธิบายลมๆแล้งๆกับครอบครัว