เผยชะตาชีวิต สิบตำรวจตรีพรประสิทธิ์ หน่วยกู้ระเบิดชายแดนใต้ ป่วยติดเตียงนาน 4 ปี - เสียงจากพ่อนักรบ ที่ถูกลืม

เผยชะตาชีวิต สิบตำรวจตรี หนุ่ม หน่วยกู้ระเบิดชายแดนใต้ ป่วยติดเตียงนาน 4 ปี


จังหวัดนครศรีธรรมราช - สิบตำรวจตรี เหยื่อบึ้มชายแดนภาคใต้ นอนติดเตียง นาน4ปี พ่อต้องลาออกจากราชการ มาดูแลลูก เปรยพอสิ้นเสียงบรรเลงเพลง คนก็ลืม -- ณ ที่บ้านเลขที่ 219/2 ม.5 ต.เสาธง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ส.ต.ต.พรประสิทธิ์ ขวัญขาว อายุ 33ปี นอนป่วยติดเตียง โดยมี พันจ่าเอกถาวร ขวัญขา วและ นางราตรี ขวัญขาว พ่อและแม่ดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่ง ส.ต.ต.พรประสิทธิ์ ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2556 ส.ต.ต.พรประสิทธิ์รับราชการตำรวจ เป็นเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด(อีโอดี)กก.สส.ภ.นราธิวาส วันเกิดเหตุได้มีเหตุการณ์ลอบวางระเบิดขึ้นชุดของ ส.ต.ต.พรประสิทธิ์จำนวน11คน ได้เดินทางออกไปเป็นกองหนุน และระหว่างทางถูกวางเรือใบ รถยนต์ที่นั่งชนอัดติดกับต้นไม้ เสียชีวิตคาที่5คน และบาดเจ็บสาหัส6 คนรวมถึง ส.ต.ต.พรประสิทธิ์ รักษาตัวอยู่ที่ รพ.สงขลานครินทร์ 3 เดือน ก่อนที่จะนำกลับมารักษาต่อที่บ้าน นครศรีธรรมราช
นางราตรี แม่ของ ส.ต.ต.พรประสิทธิ์ฯ กล่าวว่า หลังจากที่นำบุตรชายกลับมารักษาต่อที่บ้านเพราะรพ.ไม่มีสถานที่ในการพักฟื้น และลูกต้องนอนติดที่ ต้องเจาะคอให้อาหารเหลว คือนมและแบรนซุปไก่ทางคอ พ่อก็ต้องลาออกจากราชการ เอาเงินบำนาญมาดูแลบุตรชาย เราก็ทุ่มเทในการดูแลลูกเพราะหวังว่าสักวัน ลูกจะหายกลับมาเหมือนเดิม ลูกของตนมีครอบครัวมีลูกสองคน ซึ่งครอบครัวเค้าก็มาดูแลตลอดเช่นกัน พรุ่งนี้ก็จะครบ 4ปี ที่ลูกประสบชะตากรรม ตอนเกิดเหตุการณ์ใหม่ๆก็มีหลายๆฝ่ายเข้ามาดูแลช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นสักพักก็เงียบหายไป ตอนนี้ได้รับการช่วยเหลือมีเงินเดือนละ 5พันบาท และนม จากรพ.มอ. ซึ่ง6เดือน จะได้รับครั้งหนึ่ง โดยไม่เพียงพอต้องมาซื้อเสริมให้แต่ละเดือนมีค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า4หมื่นบาทแต่เราก็ไม่ได้ย่อท้อและไม่ขอเรียกร้องความช่วยเหลือใดๆ เราก็พยายามประคับประคองค่าใช้จ่ายไปด้วยความหวังว่าลูกจะหายกลับมาเหมือนเดิม
"เราไม่อยากออกข่าว แต่ที่มีการเอาไปลงในโซเชียล ก็ไม่ทราบว่าใครทำให้ คนที่ช่วยเหลือครอบครัวของเรามา เราก็ขอบพระคุณเป็นอย่างมาก ส่วนคนที่ด่าหาว่าเราเอาลูกหากิน ตรงนี้เราเองก็เสียใจและขอโทษ เพราะไม่ได้เรียกร้องความช่วยเหลืออะไร แต่มีคนทำให้ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าใคร"
ทุกวันนี้ เราเองก็ทุกข์ทรมาณใจมาก ภายนอกที่เข้มแข็งแต่ในใจเจ็บปวดตลอดเวลา4ปี ที่ดูแลลูกพ่อเค้าเคยพาไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา แต่ก็ไปได้ไม่นานเพราะเป็นหว่งลูก มีคนถามว่าทำไมถึงให้ลูกสมัครเป็นตำรวจ ทำไม่ไม่ให้ทำงานแถวบ้าน มันก็เป็นอะไรที่พูดยากหากทุกคนคิดเช่นนี้ แล้วบ้านเมืองใครจะดูแลช่วยเหลือ ตนภูมิใจในตัวลูกและทุกวันนี้ก็มีความหวังว่าเค้าจะหายดี เพราะถึงเค้าพูดไม่ได้แต่เค้ารับรู้ตลอด สิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ทุกวันคือนมผงและสายดูดเสมหะ ซึ่งใช้มากแต่ละวันด้านพันจ่าเอกถาวรฯผู้เป็นพ่อ ระบุว่า เหตุการณ์3จังหวัดภาคใต้พอสิ้นบรรเลงเสียงเพลงคนก็ลืมถือเป็นเรื่องปกติแต่เราคนเป็นพ่อแม่ก็ต้องดูแลลูกจนถึงที่สุด .

http://www.posttoday.com/local/south/516931

เสียงจากพ่อนักรบที่ถูกลืม


จากกรณีเฟซบุ๊ก “อัศวินแห่งเทือกเขาบูโด knights of southern border”ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า “แจ้งสมาชิกเพจ เช้านี้ผมได้ติดต่อโทรไปหา คุณพ่อถาวร คุณพ่อของ ส.ต.ต.พรประสิทธิ์ อดีต จนท.ตำรวจ นราธิวาส ที่ถูกคนร้ายซุ่มโจมตี ทำให้เสียชีวิต 6 นาย ส่วนน้องคนนี้สาหัส สอบถามอาการและความเป็นอยู่ของน้อง คุณพ่อแจ้งว่า อาการเหมือนเดิม นอนเป็นเจ้าชายช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เงินเดือนน้องเขาที่เหลือ 10,300บาท แบ่งให้ลูกอีก 2 คนกำลังโต ไม่มีเงินช่วยเหลืออื่น 10,300 นี้ เป็นค่าสายยางดูดเสมหะ กับนม ก็ไม่พอแล้ว ผมจึงเรียนพี่น้องสมาชิกเพจว่า ถ้าท่านอยากช่วยคนที่สละร่างกายเพื่อแผ่นดิน ท่านไม่ต้องลังเล ท่านทำบุญกับหมากับปลา กับวัว กับควาย มากกว่านี้ แต่ท่านดูสภาพสิ สภาพของตำรวจหนุ่มจบใหม่ เสาหลักครอบครัว เป็นลูกที่น่ารัก เป็นพ่อที่ดี ผมกราบเลยครับ ช่วยน้องเขาด้วยครับ ผมโทรคุยกับพ่อเขา น้ำตาตกในครับ ชีวิตนักรบราคาถูก ถ้าผมมี 10 ล้านมี100ล้าน ผมจะไม่มาขอบริจาคเลยครับ”

“นิว18” ได้พูดคุยกับ พันจ่าเอก ถาวร ขวัญขาว บิดาของ ส.ต.ต.พรประสิทธิ์ หรือ “วัน” เล่าว่า ปัจจุบันลูกชายอายุ 30 ปี ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 27 ก.ย.2556 ตอนนั้นมีผู้รอดชีวิต 5 คนรวมทั้งลูกชายผมด้วย แต่คนอื่นที่บาดเจ็บเขากลับไปทำงานกันหมดแล้ว ลูกชายผมต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนานประมาณ 3 เดือน จากนั้นปีใหม่ 2557 ได้ออกจากโรงพยาบาลมาอยู่ที่บ้าน โดยสมองกระทบกระเทือนรุนแรงทำให้ไม่สามารถพูดคุย ช่วยเหลือตัวเองได้

ผมเออรี่ออกมาดูเขาเพราะลำพังภรรยาคนเดียวดูแลไม่ไหว ปัจจุบันเรานอนอยู่บ้านห้องเดียวกัน เพราะต้องคอยดูแลตลอด ถ้ามีใครคนใดคนหนึ่งจะไปทำธุระอีกคนจะต้องอยู่ ยอมรับว่าค่าใช้จ่ายสูง เพราะลำพังเงินเดือนที่ลูกผมได้รับ 10,300บาท เงินช่วยเหลืออีกเดือนละ 5,000 บาท ก็เป็นค่าใช้จ่ายลูก 2 คน รวมทั้งค่าสายยางดูดเสมหะ ค่านมกระป๋องละ 650 บาทกินได้ 2 วัน เพราะกินอาหารอย่างอื่นไม่ได้

ถามว่าลำบากหรือไม่ มันก็ลำบาก เพราะต้องตื่นต้องเฝ้าเขาตลอด บางครั้งลูกนอนอยู่มีอาการเกร็ง ก็ตัองบีบนวดให้ ไม่รู้จะพูดอย่างไร กรณีแบบนี้ต้องเยียวยาระยะยาว ค่าใช้จ่ายก็สูง ครอบครัวก็รับภาระ ตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่า สมองที่ได้รับความกระทบกระเทือนจะกลับมา หากผมเป็นอะไรไปไม่รู้ใครจะดูแลเขา กรณีนี้คงต้องบอกว่าเวรอยู่ที่ลูกผม แต่กรรมตกอยู่ที่เรา ในฐานะพ่อแม่ก็ต้องดูแลเขาให้ดีที่สุด เราทำได้ทุกอย่าง

สำหรับผู้มีจิตศรัทธาสามารถส่งของใช้จำเป็น สายยางดูดเสมหะ นม หรืออื่นๆไปที่
สุวรรณดี ขวัญขาว (ภรรยา) บ้านเลขที่ 69/8 หมู่ที่ 2 ต.เสาธง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช 80350

บริจาคช่วยเหลือ
ส.ต.ต.พรประสิทธิ์ ขวัญขาว ธนาคารกรุงไทย สาขานครศรีธรรมราช เลขที่บัญชี 801-0-90702-2
พันจ่าเอก ถาวร ขวัญขวา (บิดา) โทร 081-099-8706  

http://www.newtv.co.th/news/5882
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่