ความสูญเสียไม่ได้เกิดขึ้นเพียงการจากไปของเหล่าผู้กล้าเท่านั้น แม้แต่ผู้ที่รอดชีวิตหลายคนก็เหลือเพียงร่างที่ยังมีลมหายใจ อย่างสิบตำรวจตรี พรประสิทธิ์ ขวัญขาว ที่ครอบครัวต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งสิ่งที่เป็นกำลังใจของพวกเขาก็คือ "ความหวัง"

บทสวดมนต์คาถาชินบัญชรนี้ น้องเดฟ วัย 9 ขวบ จะนั่งอ่านอยู่ข้างเตียงให้พ่อฟังแทบทุกวัน แม้ร่างกายของสิบตำรวจตรีพรประสิทธิ์ ขวัญขาว จะไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ เพราะภารกิจใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ จากอุบัติเหตุรถกันกระสุนโดนตะปูเรือใบของผู้ก่อความไม่สงบขณะเร่งเข้าพื้นที่อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส เพื่อช่วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดที่กำลังปะทะกับกลุ่มก่อความไม่สงบ เมื่อวันที่ 27 กันยายนปีที่แล้ว อุบัติเหตุครั้งนั้นชุดปฏิบัติการณ์ทั้ง 11 นาย บนรถเสียชีวิต 5 นาย ส่วนสิบตำรวจตรี พรประสิทธิ์ บาดเจ็บสาหัส แกนสมองซีกสั่งงานถูกทำลาย ทั้ง ๆ ที่เพิ่งรับราชการตำรวจได้เพียง 5 เดือน และ ทราบข่าวดีว่าภรรยาท้องลูกคนที่ 2 ก่อนเกิดเหตุเพียง 2 วัน

หลังจากรักษาตัวในโรงพยาบาล นาน 2 เดือน สิบตำรวจตรี พรประสิทธิ์ ก็กลับมาพักฟื้นอยู่ที่บ้าน ในอำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยต่อเติมห้องชั้นล่างของบ้านเป็นห้องปลอดเชื้อ ขณะที่ทุกคนในบ้านทั้ง พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง และภรรยา กลายเป็นพยาบาลประจำบ้าน ที่ต้องคอยผลัดเปลี่ยนดูแลอย่างใกล้ชิดมานานกว่า 7 เดือน เพราะคนไข้มักมีอาการเกร็ง ไอ และสำลัก อยู่บ่อยครั้ง อาหารมีเพียงนมผงที่ต้องชงให้ทางสายยางทุก 4 ชั่วโมง ยังต้องทำกายภาพบำบัด ล้างแผล และหมั่นพูดคุย โดยเฉพาะน้องเดฟ จะคอยสัมผัสมือและหอมพ่อเพื่อกระตุ้นให้การรับรู้กลับคืนมา โดยดวงตาที่กลอกไปมา...เสมือนรับรู้ได้
จากหัวหน้าครอบครัวมาเป็นคนไข้ที่ต้องคอยรักษา ทำให้ภาระค่าใช้จ่ายเฉพาะนมผง ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ตกเดือนละหลายหมื่นบาท เงินเก็บก็ร่อยหรอจนเกือบหมด สุดท้ายคงต้องตัดสินใจขายที่บางส่วนเพื่อรักษาลูกให้ถึงที่สุด
ความหวัง คือ สิ่งเดียวที่ช่วยให้ทุกคนในครอบครัวมีกำลังใจ ทั้งทำบุญ สวดมนต์ไหว้พระขอพร หวังให้อาการดีขึ้น ขอเพียงแค่รับรู้ พูดคุยได้บ้างก็เป็นเรื่องที่ดีใจมากแล้ว โดยมีของขวัญรอต้อนรับสิบตำรวจตรีพรประสิทธิ์ เป็นน้องฟ้าใส ลูกสาวคนเล็กวัย 1 เดือน ที่น้องเดฟผู้เป็นพี่ชายเป็นคนตั้งชื่อให้ เพื่อหวังให้พ่อหาย และท้องฟ้ากลับมาสดใสอีกครั้ง

ที่มา:
http://www.krobkruakao.com/ข่าวสังคม/94932/รายงานพิเศษ--ชีวิตตำรวจชายแดนใต้.html
ชีวิตตำรวจชายแดนใต้
บทสวดมนต์คาถาชินบัญชรนี้ น้องเดฟ วัย 9 ขวบ จะนั่งอ่านอยู่ข้างเตียงให้พ่อฟังแทบทุกวัน แม้ร่างกายของสิบตำรวจตรีพรประสิทธิ์ ขวัญขาว จะไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ เพราะภารกิจใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ จากอุบัติเหตุรถกันกระสุนโดนตะปูเรือใบของผู้ก่อความไม่สงบขณะเร่งเข้าพื้นที่อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส เพื่อช่วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดที่กำลังปะทะกับกลุ่มก่อความไม่สงบ เมื่อวันที่ 27 กันยายนปีที่แล้ว อุบัติเหตุครั้งนั้นชุดปฏิบัติการณ์ทั้ง 11 นาย บนรถเสียชีวิต 5 นาย ส่วนสิบตำรวจตรี พรประสิทธิ์ บาดเจ็บสาหัส แกนสมองซีกสั่งงานถูกทำลาย ทั้ง ๆ ที่เพิ่งรับราชการตำรวจได้เพียง 5 เดือน และ ทราบข่าวดีว่าภรรยาท้องลูกคนที่ 2 ก่อนเกิดเหตุเพียง 2 วัน
หลังจากรักษาตัวในโรงพยาบาล นาน 2 เดือน สิบตำรวจตรี พรประสิทธิ์ ก็กลับมาพักฟื้นอยู่ที่บ้าน ในอำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยต่อเติมห้องชั้นล่างของบ้านเป็นห้องปลอดเชื้อ ขณะที่ทุกคนในบ้านทั้ง พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง และภรรยา กลายเป็นพยาบาลประจำบ้าน ที่ต้องคอยผลัดเปลี่ยนดูแลอย่างใกล้ชิดมานานกว่า 7 เดือน เพราะคนไข้มักมีอาการเกร็ง ไอ และสำลัก อยู่บ่อยครั้ง อาหารมีเพียงนมผงที่ต้องชงให้ทางสายยางทุก 4 ชั่วโมง ยังต้องทำกายภาพบำบัด ล้างแผล และหมั่นพูดคุย โดยเฉพาะน้องเดฟ จะคอยสัมผัสมือและหอมพ่อเพื่อกระตุ้นให้การรับรู้กลับคืนมา โดยดวงตาที่กลอกไปมา...เสมือนรับรู้ได้
จากหัวหน้าครอบครัวมาเป็นคนไข้ที่ต้องคอยรักษา ทำให้ภาระค่าใช้จ่ายเฉพาะนมผง ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ตกเดือนละหลายหมื่นบาท เงินเก็บก็ร่อยหรอจนเกือบหมด สุดท้ายคงต้องตัดสินใจขายที่บางส่วนเพื่อรักษาลูกให้ถึงที่สุด
ความหวัง คือ สิ่งเดียวที่ช่วยให้ทุกคนในครอบครัวมีกำลังใจ ทั้งทำบุญ สวดมนต์ไหว้พระขอพร หวังให้อาการดีขึ้น ขอเพียงแค่รับรู้ พูดคุยได้บ้างก็เป็นเรื่องที่ดีใจมากแล้ว โดยมีของขวัญรอต้อนรับสิบตำรวจตรีพรประสิทธิ์ เป็นน้องฟ้าใส ลูกสาวคนเล็กวัย 1 เดือน ที่น้องเดฟผู้เป็นพี่ชายเป็นคนตั้งชื่อให้ เพื่อหวังให้พ่อหาย และท้องฟ้ากลับมาสดใสอีกครั้ง
ที่มา: http://www.krobkruakao.com/ข่าวสังคม/94932/รายงานพิเศษ--ชีวิตตำรวจชายแดนใต้.html